Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 08:55
ในเด็กเล็กที่อายุน้อยกว่า 1 ขวบ ไม่ควรใช้ยาในการลดน้ำมูก แก้คัดจมูก ในเด็กบางคนที่ไวต่อยากลุ่มนี้ อาจมีอาการข้างเคียงทำให้หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น ร้องกวน โยเยได้
ถ้าน้ำมูกมาก แนะนำให้ใช้ไม้พันสำลีหรือผ้านุ่มๆ ที่ม้วนปลาย ค่อยๆ สอดเข้าไปในรูจมูก เพื่อซับน้ำมูกออกมา หรือใช้ลูกยางแดง (ที่ดูดน้ำมูกสำหรับเด็ก) ค่อยๆ ดูดน้ำมูก ออกทีละน้อยๆ อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดการอุดตันของรูจมูก เด็กจะหายใจได้ดีขึ้น ถ้าเป็นเด็กโตก็ควรแนะนำหรือ สอนวิธี การสั่งน้ำมูก เพื่อช่วยให้ทางเดินหายใจในจมูกโล่งดียิ่งขึ้นได้ด้วยตนเอง
ถ้ามีการอุดตันของรูจมูก หรือน้ำมูกแห้งกรัง แนะนำให้ใช้ไม้พันสำลีหรือผ้านุ่มๆ ที่ม้วนปลายชุบน้ำเกลือ ร้อยละ 9 (Normal saline solution) เช็ดหรือหยดในรูจมูกให้ชุ่ม แล้วทิ้งไว้สักพัก เพื่อช่วยให้น้ำมูกที่แห้งกรัง ค่อยๆ อ่อนนุ่มลง แล้วจึงใช้ไม้พันสำลีค่อยๆ เช็ดออกไป
https://www.doctor.or.th/article/detail/3044
ถ้าน้ำมูกมาก แนะนำให้ใช้ไม้พันสำลีหรือผ้านุ่มๆ ที่ม้วนปลาย ค่อยๆ สอดเข้าไปในรูจมูก เพื่อซับน้ำมูกออกมา หรือใช้ลูกยางแดง (ที่ดูดน้ำมูกสำหรับเด็ก) ค่อยๆ ดูดน้ำมูก ออกทีละน้อยๆ อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดการอุดตันของรูจมูก เด็กจะหายใจได้ดีขึ้น ถ้าเป็นเด็กโตก็ควรแนะนำหรือ สอนวิธี การสั่งน้ำมูก เพื่อช่วยให้ทางเดินหายใจในจมูกโล่งดียิ่งขึ้นได้ด้วยตนเอง
ถ้ามีการอุดตันของรูจมูก หรือน้ำมูกแห้งกรัง แนะนำให้ใช้ไม้พันสำลีหรือผ้านุ่มๆ ที่ม้วนปลายชุบน้ำเกลือ ร้อยละ 9 (Normal saline solution) เช็ดหรือหยดในรูจมูกให้ชุ่ม แล้วทิ้งไว้สักพัก เพื่อช่วยให้น้ำมูกที่แห้งกรัง ค่อยๆ อ่อนนุ่มลง แล้วจึงใช้ไม้พันสำลีค่อยๆ เช็ดออกไป
https://www.doctor.or.th/article/detail/3044
ยาลดน้ำมูกในเด็กภก.วิรัตน์ ทองรอดถาม เมื่อเด็กเป็นน้ำมูก ควรใช้ยาลดน้ำมูกในเด็กอย่างไรอาการน้ำมูกไหล คัดจมูก และจาม หรือที่ชาวบ้าน เรียกว่า หวัด พบได้บ่อยในเด็ก เกิดจาก 2 สาเหตุใหญ่ คือ กล
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 08:55
การล้างจมูกคืออะไร
การล้างจมูก เป็นการทำความสะอาดโพรงจมูก และ/หรือ ไซนัส โดยชะล้างเอาน้ำมูก หนอง สิ่งสกปรกในโพรงจมูก หรือโพรงหลังจมูก และ/หรือ ไซนัส ซึ่งเกิดจากการอักเสบออก ด้วยน้ำเกลือ เพื่อให้โพรงจมูกและ/หรือ ไซนัสโล่ง ทำให้บรรเทาอาการคัดจมูก คัน จาม น้ำมูกไหล (ทั้งที่ไหลออกมาข้างนอก และไหลลงคอ) แสบจมูก ปวดจมูก หรือปวดบริเวณไซนัส การล้างจมูกนั้นเป็นวิธีที่ปลอดภัs และได้ผลดีในการรักษาโรคจมูก และไซนัสทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
การล้างจมูกมีประโยชน์อย่างไร
• ช่วยล้างน้ำมูกเหนียวข้นที่ไม่สามารถระบายออกได้เอง ทำให้โพรงจมูกและ/หรือ ไซนัส สะอาด
• ช่วยให้อาการหวัดเรื้อรังดีขึ้น และลดน้ำมูกหรือเสมหะที่ไหลลงคอ
• ช่วยระบายหนองจากไซนัสดีขึ้น โดยลดน้ำมูกหรือหนองที่อุดอยู่บริเวณรูเปิดของโพรงไซนัส ทำให้อาการไซนัสอักเสบดีขึ้นเร็ว
• ช่วยป้องกันการลุกลามของเชื้อโรคจากจมูกและไซนัสขึ้นไปหูชั้นกลาง หรือลงไปสู่ปอด
• ช่วยลดจำนวนเชื้อโรค มลพิษ สารก่อภูมิแพ้ สิ่งระคายเคือง และ สารที่เกิดจากปฏิกิริยาของร่างกายที่มีต่อสารก่อภูมิแพ้ในโพรงจมูก และ/หรือ ไซนัส
• ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่เยื่อบุจมูก
• ช่วยบรรเทาอาการคัดแน่นจมูก โดยทำให้เยื่อบุจมูกยุบบวม ทำให้หายใจโล่งขึ้น
• ช่วยบรรเทาอาการระคายเคือง และลดการอักเสบในจมูก
• การล้างจมูกก่อนการพ่นยา หรือหยอดยาในจมูก (ในกรณีแพทย์สั่งยาพ่นจมูก หรือยาหยอดจมูกให้ใช้) จะทำให้ยาสัมผัสกับเยื่อบุจมูกได้มากขึ้น ออกฤทธิ์ได้ดี มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
• ช่วยชะล้างคราบสะเก็ดแข็งของเยื่อบุจมูกหลังการผ่าตัดจมูก และ/หรือไซนัส หรือหลังการฉายแสงออก ทำให้แผลในโพรงจมูก และไซนัส หายเร็วขึ้น ป้องกันการเกิดพังผืดซึ่งทำให้รูจมูกหรือไซนัสตีบแคบ
• ช่วยเพิ่มการทำงานของขนกวัดในจมูก ซึ่งทำหน้าที่พัดโบก กำจัดสิ่งแปลกปลอมในโพรงจมูก
• ทำให้ลดปริมาณยาที่ใช้ในการรักษาโรคจมูก และ/หรือ ไซนัสลงได้
การ ล้างจมูกจึงมีประโยชน์ในผู้ป่วยที่เป็นโรคจมูกอักเสบจากการติดเชื้อ หรือ “หวัด”, โรคไซนัสอักเสบ, โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือ “แพ้อากาศ”, โรคริดสีดวงจมูก, โรคจมูกอักเสบเหี่ยวฝ่อ หรือผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดจมูกและ/หรือไซนัส หรือหลังการฉายแสง
ล้างจมูกให้ลูกน้อย
ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา
THE ROYAL COLLEGE OF OTOLARYNGOLOGISTS-HEAD AND NECK SURGEONS OF THAILAND
http://www.rcot.org/data_detail.php?op=knowledge&id=68
การล้างจมูก เป็นการทำความสะอาดโพรงจมูก และ/หรือ ไซนัส โดยชะล้างเอาน้ำมูก หนอง สิ่งสกปรกในโพรงจมูก หรือโพรงหลังจมูก และ/หรือ ไซนัส ซึ่งเกิดจากการอักเสบออก ด้วยน้ำเกลือ เพื่อให้โพรงจมูกและ/หรือ ไซนัสโล่ง ทำให้บรรเทาอาการคัดจมูก คัน จาม น้ำมูกไหล (ทั้งที่ไหลออกมาข้างนอก และไหลลงคอ) แสบจมูก ปวดจมูก หรือปวดบริเวณไซนัส การล้างจมูกนั้นเป็นวิธีที่ปลอดภัs และได้ผลดีในการรักษาโรคจมูก และไซนัสทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
การล้างจมูกมีประโยชน์อย่างไร
• ช่วยล้างน้ำมูกเหนียวข้นที่ไม่สามารถระบายออกได้เอง ทำให้โพรงจมูกและ/หรือ ไซนัส สะอาด
• ช่วยให้อาการหวัดเรื้อรังดีขึ้น และลดน้ำมูกหรือเสมหะที่ไหลลงคอ
• ช่วยระบายหนองจากไซนัสดีขึ้น โดยลดน้ำมูกหรือหนองที่อุดอยู่บริเวณรูเปิดของโพรงไซนัส ทำให้อาการไซนัสอักเสบดีขึ้นเร็ว
• ช่วยป้องกันการลุกลามของเชื้อโรคจากจมูกและไซนัสขึ้นไปหูชั้นกลาง หรือลงไปสู่ปอด
• ช่วยลดจำนวนเชื้อโรค มลพิษ สารก่อภูมิแพ้ สิ่งระคายเคือง และ สารที่เกิดจากปฏิกิริยาของร่างกายที่มีต่อสารก่อภูมิแพ้ในโพรงจมูก และ/หรือ ไซนัส
• ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่เยื่อบุจมูก
• ช่วยบรรเทาอาการคัดแน่นจมูก โดยทำให้เยื่อบุจมูกยุบบวม ทำให้หายใจโล่งขึ้น
• ช่วยบรรเทาอาการระคายเคือง และลดการอักเสบในจมูก
• การล้างจมูกก่อนการพ่นยา หรือหยอดยาในจมูก (ในกรณีแพทย์สั่งยาพ่นจมูก หรือยาหยอดจมูกให้ใช้) จะทำให้ยาสัมผัสกับเยื่อบุจมูกได้มากขึ้น ออกฤทธิ์ได้ดี มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
• ช่วยชะล้างคราบสะเก็ดแข็งของเยื่อบุจมูกหลังการผ่าตัดจมูก และ/หรือไซนัส หรือหลังการฉายแสงออก ทำให้แผลในโพรงจมูก และไซนัส หายเร็วขึ้น ป้องกันการเกิดพังผืดซึ่งทำให้รูจมูกหรือไซนัสตีบแคบ
• ช่วยเพิ่มการทำงานของขนกวัดในจมูก ซึ่งทำหน้าที่พัดโบก กำจัดสิ่งแปลกปลอมในโพรงจมูก
• ทำให้ลดปริมาณยาที่ใช้ในการรักษาโรคจมูก และ/หรือ ไซนัสลงได้
การ ล้างจมูกจึงมีประโยชน์ในผู้ป่วยที่เป็นโรคจมูกอักเสบจากการติดเชื้อ หรือ “หวัด”, โรคไซนัสอักเสบ, โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือ “แพ้อากาศ”, โรคริดสีดวงจมูก, โรคจมูกอักเสบเหี่ยวฝ่อ หรือผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดจมูกและ/หรือไซนัส หรือหลังการฉายแสง
ล้างจมูกให้ลูกน้อย
ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา
THE ROYAL COLLEGE OF OTOLARYNGOLOGISTS-HEAD AND NECK SURGEONS OF THAILAND
http://www.rcot.org/data_detail.php?op=knowledge&id=68
ล้างจมูกให้ลูกน้อย. ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา. การล้างจมูกคืออะไร การ ล้างจมูก เป็นการทำความสะอาดโพรงจมูก และ/หรือ ไซนัส โดยชะล้างเอาน้ำมูก หนอง สิ่งสกปรกในโพรงจมูก หรือโพรงหลังจมูก และ/หรือ ไซนัส ซึ่งเกิดจากการอักเสบออก ด้วยน้ำเกลือ เพื่อให้โพรงจมูกและ/หรือ ไซนัสโล่ง ทำให้บรรเทาอาการคัดจมูก ...
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 08:54
2 ขวบเป็นหวัดหายใจไม่ออกเลยไปให้พยาบาลสอนล้างจมูก
วิธีการคืออุ่นน้ำเกลือแล้วใช้หลอดฉีดยาฉีดเข้าไปในจมูกให้เด็กอ้าปาก
ให้เขากลั้นหายใจ(หรือให้เด็กพูดอา หรือให้หายใจออกก็ได้) การจัดท่าให้ก้มหน้าเล็กน้อย หรืออยู่ในท่าศีรษะตรง ค่อยๆฉีดน้ำเกลือเข้าไปในจมูก จนน้ำเกลือและน้ำมูกไหลย้อนออกมาทางจมูกอีกข้าง หรือไหลออกทางปาก
https://youtu.be/ArP49ISsYE8
วิธีการคืออุ่นน้ำเกลือแล้วใช้หลอดฉีดยาฉีดเข้าไปในจมูกให้เด็กอ้าปาก
ให้เขากลั้นหายใจ(หรือให้เด็กพูดอา หรือให้หายใจออกก็ได้) การจัดท่าให้ก้มหน้าเล็กน้อย หรืออยู่ในท่าศีรษะตรง ค่อยๆฉีดน้ำเกลือเข้าไปในจมูก จนน้ำเกลือและน้ำมูกไหลย้อนออกมาทางจมูกอีกข้าง หรือไหลออกทางปาก
https://youtu.be/ArP49ISsYE8
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 08:52
ฝรั่งรักษาหวัดกันอย่างไร (เป็นบทความที่ตีพิมพ์ในปี 2012)
1.ไม่ใช้ยาฆ่าเชื้อรักษาหวัดทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
2. ไม่ใช้ยาแก้หวัดไอในเด็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบ เนื่องจากยาแก้หวัดไอทำให้เด็กเสียชีวิตได้
3. ให้ใช้วิธีล้างจมูก กิน ZINC ทาวิคส์ ในเด็ก
4. ยาแอนตี้ฮิสตามีน ทั้งชนิดง่วง และไม่ง่วง ไม่ได้ทำให้หวัดในผุ้ใหญ่ดีขึ้น
ให้ใช้ยาแก้คัดจมูกผสมแอนตี้ฮิสตามีน
สิ่งที่มีประสิทธิภาพในการรักษาหวัดในเด็ก ได้แก่
Acetylcysteine
ยาพ่นจมูกใช้ในเด็กที่หายใจมีเสียงวี้ด
การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ
VICK
Zinc sulfate syrup
สามารถป้องกันหวัดในเด็กได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ
probiotics
วิตะมินซี (200 - 2000 มิลลิกรัม)
Zinc sulfate Syrup หรือ ชนิดเม็ด 10 mg
สิ่งที่มีประสิทธิภาพในการรักษาหวัดในผู้ใหญ่ ได้แก่
Echinacea
ยาอม Zinc acetate หรือ gluconate
สามารถป้องกันหวัดในผู้ใหญ่ได้ด้วย
กระเทียม (มีสาร allicin 180 มิลลิกรัม)
วิตะมินซี (วันละ 500 มิลลิกรัม - 2000 มิลลิกรัม)
Treatment of the Common Cold in Children and Adults
Jul 15, 2012 Issue
http://www.aafp.org/afp/2012/0715/p153.html
1.ไม่ใช้ยาฆ่าเชื้อรักษาหวัดทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
2. ไม่ใช้ยาแก้หวัดไอในเด็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบ เนื่องจากยาแก้หวัดไอทำให้เด็กเสียชีวิตได้
3. ให้ใช้วิธีล้างจมูก กิน ZINC ทาวิคส์ ในเด็ก
4. ยาแอนตี้ฮิสตามีน ทั้งชนิดง่วง และไม่ง่วง ไม่ได้ทำให้หวัดในผุ้ใหญ่ดีขึ้น
ให้ใช้ยาแก้คัดจมูกผสมแอนตี้ฮิสตามีน
สิ่งที่มีประสิทธิภาพในการรักษาหวัดในเด็ก ได้แก่
Acetylcysteine
ยาพ่นจมูกใช้ในเด็กที่หายใจมีเสียงวี้ด
การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ
VICK
Zinc sulfate syrup
สามารถป้องกันหวัดในเด็กได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ
probiotics
วิตะมินซี (200 - 2000 มิลลิกรัม)
Zinc sulfate Syrup หรือ ชนิดเม็ด 10 mg
สิ่งที่มีประสิทธิภาพในการรักษาหวัดในผู้ใหญ่ ได้แก่
Echinacea
ยาอม Zinc acetate หรือ gluconate
สามารถป้องกันหวัดในผู้ใหญ่ได้ด้วย
กระเทียม (มีสาร allicin 180 มิลลิกรัม)
วิตะมินซี (วันละ 500 มิลลิกรัม - 2000 มิลลิกรัม)
Treatment of the Common Cold in Children and Adults
Jul 15, 2012 Issue
http://www.aafp.org/afp/2012/0715/p153.html
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 08:50
เป็นประกาศของ US FDA เมื่อ 8 Jan 2016 บอกว่า
ตามที่ US FDA ได้ถอนทะเบียนยาแก้หวัดไอสำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ขวบ ไปตั้งแต่ปี 2008 บริษัทผุ้ผลิตจึงได้เขียนในฉลากยาเสียใหม่ว่า ห้ามใช้ในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 4 ขวบ แต่ก็ยังมีการนำไปใช้ในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ขวบ
US FDA จึงขอเตือนว่า ห้ามเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปี ใช้ยาแก้หวัดไอที่มีส่วนประกอบของยาแก้คัดจมูก อาทิเช่น ephedrine, pseudoephedrine,หรือ phenylephrine และยาแอนตี้ฮิสตามีน เช่น diphenhydramine, brompheniramine หรือ chlorpheniramine โดยห้ามใช้ในทุกกรณ๊ ยกเว้นแพทย์สั่งจ่าย
เนื่องจากเด็กที่ได้รับยาในขนาดสูงเกินกำหนด จากความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นจากการให้ยาแก่เด็ก ทำให้เด็กเสียชีวิตได้ จึงควรใช้วิธีอื่นในการแก้หวัดไอแก่เด็ก อาทิเช่น การใช้เครื่องปรับความชื้น การล้างจมูก ดื่มน้ำมากๆ
>>>>>>>>>>>>
นั่นคือ คำเตือนของเด็กฝรั่ง ส่วนเด็กไทยก็ตามบุญตามกรรม????
ถ้าท่านมีความรู้ว่า ยาแก้หวัดไอทีให้ในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ถ้ามีความผิดพลาจากขนาดยาที่ให้แก่เด็กเกิดขึ้น แล้วทำให้เด็กเสียชีวิตได้ ท่านจะให้ยานี้แก่ลูกหลานของท่านหรือไม่ ....
http://www.fda.gov/Drugs/ResourcesForYou/SpecialFeatures/ucm263948.htm
ตามที่ US FDA ได้ถอนทะเบียนยาแก้หวัดไอสำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ขวบ ไปตั้งแต่ปี 2008 บริษัทผุ้ผลิตจึงได้เขียนในฉลากยาเสียใหม่ว่า ห้ามใช้ในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 4 ขวบ แต่ก็ยังมีการนำไปใช้ในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ขวบ
US FDA จึงขอเตือนว่า ห้ามเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปี ใช้ยาแก้หวัดไอที่มีส่วนประกอบของยาแก้คัดจมูก อาทิเช่น ephedrine, pseudoephedrine,หรือ phenylephrine และยาแอนตี้ฮิสตามีน เช่น diphenhydramine, brompheniramine หรือ chlorpheniramine โดยห้ามใช้ในทุกกรณ๊ ยกเว้นแพทย์สั่งจ่าย
เนื่องจากเด็กที่ได้รับยาในขนาดสูงเกินกำหนด จากความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นจากการให้ยาแก่เด็ก ทำให้เด็กเสียชีวิตได้ จึงควรใช้วิธีอื่นในการแก้หวัดไอแก่เด็ก อาทิเช่น การใช้เครื่องปรับความชื้น การล้างจมูก ดื่มน้ำมากๆ
>>>>>>>>>>>>
นั่นคือ คำเตือนของเด็กฝรั่ง ส่วนเด็กไทยก็ตามบุญตามกรรม????
ถ้าท่านมีความรู้ว่า ยาแก้หวัดไอทีให้ในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ถ้ามีความผิดพลาจากขนาดยาที่ให้แก่เด็กเกิดขึ้น แล้วทำให้เด็กเสียชีวิตได้ ท่านจะให้ยานี้แก่ลูกหลานของท่านหรือไม่ ....
http://www.fda.gov/Drugs/ResourcesForYou/SpecialFeatures/ucm263948.htm
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 23 Dec 2013
การล้างจมูกมีประโยชน์อย่างไร?
— ช่วยล้างน้ำมูกเหนียวข้นที่ไม่สามารถระบายออกได้เอง
— อาการหวัดเรื้อรังดีขึ้น
— การระบายหนองจากไซนัสดีขึ้น
— ให้ความชุ่มชื้นแก่เยื่อบุจมูก
— บรรเทาอาการคัดแน่นจมูก ทำให้หายใจโล่งขึ้น
ควรล้างจมูกบ่อยแค่ไหน?
อย่างน้อยวันละ 2 ครั้งช่วงตื่นนอนตอนเช้า และก่อนเข้านอน หรือเมื่อรู้สึกว่ามีน้ำมูกมาก แน่นจมูก หรือก่อนใช้ยาพ่นจมูก แนะนำให้ทำในช่วงท้องว่าง เพราะจะได้ไม่เกิดอาการอาเจียน
ควรล้างจมูกเมื่อมีน้ำมูกเหนียวข้นจำนวนมาก (ถ้ามีมูกใส และมีจำนวนเล็กน้อย ให้สั่งออกมา) หลังฉีดน้ำเกลือเข้าไปในโพรงจมูกให้สั่งน้ำมูกออกทันที ไม่ควรกลั้นหายใจเพื่อกักน้ำเกลือ ให้ค้างในจมูกนาน เพราะน้ำเกลืออาจจะไหลย้อนไปในไซนัส และการสั่งน้ำมูกให้สั่งเบา ๆ และไม่ต้องอุดรูจมูก
http://drsirithorn.blogspot.com/2013/07/nasalirrigation.html
— ช่วยล้างน้ำมูกเหนียวข้นที่ไม่สามารถระบายออกได้เอง
— อาการหวัดเรื้อรังดีขึ้น
— การระบายหนองจากไซนัสดีขึ้น
— ให้ความชุ่มชื้นแก่เยื่อบุจมูก
— บรรเทาอาการคัดแน่นจมูก ทำให้หายใจโล่งขึ้น
ควรล้างจมูกบ่อยแค่ไหน?
อย่างน้อยวันละ 2 ครั้งช่วงตื่นนอนตอนเช้า และก่อนเข้านอน หรือเมื่อรู้สึกว่ามีน้ำมูกมาก แน่นจมูก หรือก่อนใช้ยาพ่นจมูก แนะนำให้ทำในช่วงท้องว่าง เพราะจะได้ไม่เกิดอาการอาเจียน
ควรล้างจมูกเมื่อมีน้ำมูกเหนียวข้นจำนวนมาก (ถ้ามีมูกใส และมีจำนวนเล็กน้อย ให้สั่งออกมา) หลังฉีดน้ำเกลือเข้าไปในโพรงจมูกให้สั่งน้ำมูกออกทันที ไม่ควรกลั้นหายใจเพื่อกักน้ำเกลือ ให้ค้างในจมูกนาน เพราะน้ำเกลืออาจจะไหลย้อนไปในไซนัส และการสั่งน้ำมูกให้สั่งเบา ๆ และไม่ต้องอุดรูจมูก
http://drsirithorn.blogspot.com/2013/07/nasalirrigation.html
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 29 Oct 2013
"ลูกชายเป็นหวัด น้ำมูกตัน นอนหายใจไม่สะดวก กินนมแม่ไม่ได้ ทำยังไงดีคะ"
http://topicstock.pantip.com/family/topicstock/2010/06/N9339014/N9339014.html
ลูกชายมีน้ำมูกไหล พอเข้านอน
(ต้องเปิดแอร์ ซึ่งเปิดแค่ 25 องศา ไม่งั้นเค้านอนไม่หลับ)
น้ำมูกก็จะแห้ง และไปเกาะตัวกันในโพรงจมูก
เวลานอนกินนมแม่ ก็กินไม่ได้ เพราะหายใจทางจมูกไม่ได้
ต้องกินไป ปล่อยนมไป แล้วหายใจทางปาก
แถมไอ แห้งๆ ทุกครั้งที่ปล่อยนม ทำให้ร้องไห้โยเย
แม่รักษาตามอาการ โดยการให้ยาแก้อักเสบทาน
หยอดน้ำเหลือ และเอาลูกยางดูดน้ำมูก
ซึ่งวิธีหลัง ลูกร้องไห้ลั่น ตัวเกร็ง และกรี๊ด เพราะกลัวสำลัก
ส่วนแม่ก็ใจคอไม่ดี ไม่อยากทำ เพราะสงสาร แต่ก็ต้องฝืนใจ
แถมที่กังวลที่สุด เพราะลูกนอนหลับไม่สนิท เนื่องจาก กินนมแม่ไม่ได้ทั้งคืน
ุ คุณหมอใจดี เลยจัดยามาให้
แล้วได้เจ้าน้ำเกลือ "์Mar plus Nasal Spray" ขวดนี้มาค่ะ
ประทับใจ เพราะปรกติต้องจับลูกนอนแล้วหยอดน้ำเกลือ
ลูกจะร้องจ๊ากๆๆๆ แต่สำหรับขวดนี้เป็นแบบสเปรย์
แค่จับลูกนั่งธรรมดา แล้วกดให้ละอองสเปรย์พ่นใส่รูจมูก ก็เป็นอันเสร็จ
ลองใช้ครั้งแรก เจ้าตัวเล็กปรกติมาก ไม่มีอาการร้องกลัว หรือเกร็ง
แล้วก็ทดสอบต่อ โดยการอุ้มนอนให้นมบนรถดู
สรุปว่า ลูกหายใจได้สะดวกขึ้นมาก
พ่นจมูกวันละ 3 - 4 ครั้ง พ่นข้างละ 1 - 2 กด
วิธีการเก็บก็ง่าย
เอาสำลีหรือทิชชู่เช็ดด้านหัวสเปรย์ที่ใช้แหย่จมูกลูกทุกครั้งที่เก็บ
และหลังจากไม่ได้ใช้นานๆ ก็ให้กดสเปรย์ทิ้งก่ิอน 1 - 2 ครั้ง เพื่อล้างหัวสเปรย์
ห้ามใช้ร่วมกัน ของใครของมัน
และห้ามเอาใส่ตู้เย็น เพราะยิ่งเย็น น้ำมูกจะยิ่งจับตัวกันค่ะ
ให้เก็บไว้ในที่อากาศเย็น ปลอดโปร่ง
สามารถเก็บไว้ได้นาน 6 เดือนหลังการเปิดใช้ครั้งแรก
พ่น Mar Plus แล้ว ตามด้วย iliadin 0.025%สำหรับเด็กต่ำกว่า 6 ขวบ
เป็นแบบหยดจมูก ลูกนอนหลับสบาย ไม่ค่อยมีเสียงครืดคราดเลยค่ะ
มีแบบเด็กโตเกิน 6 ปีด้วยค่ะ
แต่เราใช้แค่หยอดก่อนนอนกลางคืนเท่านั้น
เฉพาะวันที่คัดจมูกมากๆ ใช้เท่าที่จำเป็น
http://topicstock.pantip.com/family/topicstock/2010/06/N9339014/N9339014.html
ลูกชายมีน้ำมูกไหล พอเข้านอน
(ต้องเปิดแอร์ ซึ่งเปิดแค่ 25 องศา ไม่งั้นเค้านอนไม่หลับ)
น้ำมูกก็จะแห้ง และไปเกาะตัวกันในโพรงจมูก
เวลานอนกินนมแม่ ก็กินไม่ได้ เพราะหายใจทางจมูกไม่ได้
ต้องกินไป ปล่อยนมไป แล้วหายใจทางปาก
แถมไอ แห้งๆ ทุกครั้งที่ปล่อยนม ทำให้ร้องไห้โยเย
แม่รักษาตามอาการ โดยการให้ยาแก้อักเสบทาน
หยอดน้ำเหลือ และเอาลูกยางดูดน้ำมูก
ซึ่งวิธีหลัง ลูกร้องไห้ลั่น ตัวเกร็ง และกรี๊ด เพราะกลัวสำลัก
ส่วนแม่ก็ใจคอไม่ดี ไม่อยากทำ เพราะสงสาร แต่ก็ต้องฝืนใจ
แถมที่กังวลที่สุด เพราะลูกนอนหลับไม่สนิท เนื่องจาก กินนมแม่ไม่ได้ทั้งคืน
ุ คุณหมอใจดี เลยจัดยามาให้
แล้วได้เจ้าน้ำเกลือ "์Mar plus Nasal Spray" ขวดนี้มาค่ะ
ประทับใจ เพราะปรกติต้องจับลูกนอนแล้วหยอดน้ำเกลือ
ลูกจะร้องจ๊ากๆๆๆ แต่สำหรับขวดนี้เป็นแบบสเปรย์
แค่จับลูกนั่งธรรมดา แล้วกดให้ละอองสเปรย์พ่นใส่รูจมูก ก็เป็นอันเสร็จ
ลองใช้ครั้งแรก เจ้าตัวเล็กปรกติมาก ไม่มีอาการร้องกลัว หรือเกร็ง
แล้วก็ทดสอบต่อ โดยการอุ้มนอนให้นมบนรถดู
สรุปว่า ลูกหายใจได้สะดวกขึ้นมาก
พ่นจมูกวันละ 3 - 4 ครั้ง พ่นข้างละ 1 - 2 กด
วิธีการเก็บก็ง่าย
เอาสำลีหรือทิชชู่เช็ดด้านหัวสเปรย์ที่ใช้แหย่จมูกลูกทุกครั้งที่เก็บ
และหลังจากไม่ได้ใช้นานๆ ก็ให้กดสเปรย์ทิ้งก่ิอน 1 - 2 ครั้ง เพื่อล้างหัวสเปรย์
ห้ามใช้ร่วมกัน ของใครของมัน
และห้ามเอาใส่ตู้เย็น เพราะยิ่งเย็น น้ำมูกจะยิ่งจับตัวกันค่ะ
ให้เก็บไว้ในที่อากาศเย็น ปลอดโปร่ง
สามารถเก็บไว้ได้นาน 6 เดือนหลังการเปิดใช้ครั้งแรก
พ่น Mar Plus แล้ว ตามด้วย iliadin 0.025%สำหรับเด็กต่ำกว่า 6 ขวบ
เป็นแบบหยดจมูก ลูกนอนหลับสบาย ไม่ค่อยมีเสียงครืดคราดเลยค่ะ
มีแบบเด็กโตเกิน 6 ปีด้วยค่ะ
แต่เราใช้แค่หยอดก่อนนอนกลางคืนเท่านั้น
เฉพาะวันที่คัดจมูกมากๆ ใช้เท่าที่จำเป็น
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 12 Jun 2013
กินอะไรดี เมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่
http://www.healthtoday.net/thailand/nutrition/nutrition_124.html
โปรตีน
ฟลาโวนอยด์
กลูตาไธโอน
น้ำส้มที่มีเนื้อส้มด้วยจะอุดมด้วยวิตามินซีและกรดโฟลิก ซึ่งช่วยเพิ่มภูมิต้านทานและทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
ดื่มเครื่องดื่มจำพวกน้ำผลไม้ น้ำซุปผัก น้ำขิง เครื่องดื่มเกลือแร่
ซุปไก่ช่วยแก้หวัด
หลีกเลี่ยงการดื่มนม หรือผลิตภัณฑ์จากนมสัก 2-3 วัน
http://www.healthtoday.net/thailand/nutrition/nutrition_124.html
โปรตีน
ฟลาโวนอยด์
กลูตาไธโอน
น้ำส้มที่มีเนื้อส้มด้วยจะอุดมด้วยวิตามินซีและกรดโฟลิก ซึ่งช่วยเพิ่มภูมิต้านทานและทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
ดื่มเครื่องดื่มจำพวกน้ำผลไม้ น้ำซุปผัก น้ำขิง เครื่องดื่มเกลือแร่
ซุปไก่ช่วยแก้หวัด
หลีกเลี่ยงการดื่มนม หรือผลิตภัณฑ์จากนมสัก 2-3 วัน
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 12 Jun 2013
ช่วงนี้อากาศที่เชียงใหม่มีทั้งฝน และ อากาศเย็น ทำให้เจ็บไข้ไม่สบายได้ง่าย ควรที่จะเสริมสุขภาพด้วย Bio C ป้องกันร่างกายให้ปลอดจากหวัด รวมทั้งหมั่นรักษาร่างกายให้อบอุ่น ลดการกินน้ำแข็ง น้ำเย็น
มีผลการวิจัยพบว่าในคนปกติการกินวิตามินซีเป็นประจำทุกวัน ควรกินวันละ 500-1,000 มิลลิกรัม เพื่อความถูกต้องและสมดุลในการบริโภค
http://thainews.prd.go.th/centerweb/news/NewsDetail?NT01_NewsID=WNRPT5601200010001
มีผลการวิจัยพบว่าในคนปกติการกินวิตามินซีเป็นประจำทุกวัน ควรกินวันละ 500-1,000 มิลลิกรัม เพื่อความถูกต้องและสมดุลในการบริโภค
http://thainews.prd.go.th/centerweb/news/NewsDetail?NT01_NewsID=WNRPT5601200010001
ข่าว,ข่าวสาร,ภูมิภาค,สถานการณ์,สื่อ
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 11 May 2013
เสียงแหบเกิดจากอะไร Siriraj E-Public Library -
http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=13
การเป็นหวัดทำให้เสียงแหบได้ เนื่องจาก เมื่อเป็นหวัดก็จะมีการอักเสบของบริเวณช่องจมูกและภายในคอ การอักเสบนี้อาจลามต่อไปถึงกล่องเสียงและสายเสียง ทำให้มีการบวมของสายเสียง การทำงานของสายเสียงเปลี่ยนไป จึงเป็นสาเหตุให้เกิดเสียงแหบ
เสียงแหบในผู้ที่มีอาชีพที่ต้องใช้เสียงมาก เช่น ครู นักเรียน นักแสดง การรักษาโดยการให้ยาอย่างเดียวย่อมไม่ได้ผลเต็มที่ จำเป็นต้องหยุดพักการใช้เสียงร่วมด้วย พวกนี้มักมีอาการเสียงแหบเป็น หาย ๆ บ่อย ๆ ทั้งนี้ เนื่องจากที่ต้องใช้เสียงมากเกินไป
http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=13
การเป็นหวัดทำให้เสียงแหบได้ เนื่องจาก เมื่อเป็นหวัดก็จะมีการอักเสบของบริเวณช่องจมูกและภายในคอ การอักเสบนี้อาจลามต่อไปถึงกล่องเสียงและสายเสียง ทำให้มีการบวมของสายเสียง การทำงานของสายเสียงเปลี่ยนไป จึงเป็นสาเหตุให้เกิดเสียงแหบ
เสียงแหบในผู้ที่มีอาชีพที่ต้องใช้เสียงมาก เช่น ครู นักเรียน นักแสดง การรักษาโดยการให้ยาอย่างเดียวย่อมไม่ได้ผลเต็มที่ จำเป็นต้องหยุดพักการใช้เสียงร่วมด้วย พวกนี้มักมีอาการเสียงแหบเป็น หาย ๆ บ่อย ๆ ทั้งนี้ เนื่องจากที่ต้องใช้เสียงมากเกินไป
เสียงแหบ ผศ.พญ.สุนันทา พลปัถพี. Faculty of Medicine Siriraj Hospital คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เสียงแหบเกิดจากอะไร ก่อนที่จะกล่าวถึงสาเหตุของเสียงแหบ ใคร่จะขอเรียนให้ทราบถึงลักษณะและการทำงานของอวัยวะที่ทำให้เกิดเสียงก่อน นั่นคือ กล่องเสียง ...
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 28 Feb 2013
ประโยชน์ของฟ้าทะลายโจรและข้อควรระวัง : Phoomtai.Com 'ร้านภูมิไท' -
http://www.phoomtai.com/content/18/1/
ฟ้าทะลายโจรเหมาะสำหรับ "หวัด ร้อน" คือ อาการที่เหงื่อออก เจ็บคอ กระหายน้ำ ท้องผูก ปัสสาวะมีสีเข้ม
แต่ฟ้าทะลายโจรจะไม่เหมาะกับผู้ที่มีอาการของ "หวัดเย็น" คือ ไม่มีเหงื่อ อุ้งมืออุ้งเท้าเย็น ปัสสาวะมาก รู้สึกหนาวสะท้าน ถ้าเป็นหวัดเย็น แล้วกินฟ้าทะลายโจรอาการ จะกำเริบขึ้นได้ เช่น หนาวสั่น คลื่นไส้
เนื่องจากเป็น ยาเย็นจัด การกินฟ้าทะลายโจรรักษาโรคนาน ๆ ติดต่อกันหลายปีอาจจะเกิดอาการข้างเคียงได้ เช่น มีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย แขนขาไม่มีแรง ปวดเมื่อย มือเท้าเย็น ความดันตก เป็นต้น แต่ถ้ากินวันละ 1-2 เม็ด เป็นยาอายุวัฒนะ สามารถกินได้เรื่อย ๆ ไม่มีพิษอะไร
ข้อควรระวัง
ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำไม่ควรใช้ฟ้าทะลายโจร เพราะยาฟ้าทะลายโจรเป็นยาที่มีสรรพคุณในการลดความดันอยู่แล้ว ถ้าหากผู้ที่เป็นโรคความดันต่ำ และมาใช้ฟ้าทะลายโจรจะทำให้เกิดอาการหน้ามืด วิงเวียน มึนงง
http://www.phoomtai.com/content/18/1/
ฟ้าทะลายโจรเหมาะสำหรับ "หวัด ร้อน" คือ อาการที่เหงื่อออก เจ็บคอ กระหายน้ำ ท้องผูก ปัสสาวะมีสีเข้ม
แต่ฟ้าทะลายโจรจะไม่เหมาะกับผู้ที่มีอาการของ "หวัดเย็น" คือ ไม่มีเหงื่อ อุ้งมืออุ้งเท้าเย็น ปัสสาวะมาก รู้สึกหนาวสะท้าน ถ้าเป็นหวัดเย็น แล้วกินฟ้าทะลายโจรอาการ จะกำเริบขึ้นได้ เช่น หนาวสั่น คลื่นไส้
เนื่องจากเป็น ยาเย็นจัด การกินฟ้าทะลายโจรรักษาโรคนาน ๆ ติดต่อกันหลายปีอาจจะเกิดอาการข้างเคียงได้ เช่น มีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย แขนขาไม่มีแรง ปวดเมื่อย มือเท้าเย็น ความดันตก เป็นต้น แต่ถ้ากินวันละ 1-2 เม็ด เป็นยาอายุวัฒนะ สามารถกินได้เรื่อย ๆ ไม่มีพิษอะไร
ข้อควรระวัง
ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำไม่ควรใช้ฟ้าทะลายโจร เพราะยาฟ้าทะลายโจรเป็นยาที่มีสรรพคุณในการลดความดันอยู่แล้ว ถ้าหากผู้ที่เป็นโรคความดันต่ำ และมาใช้ฟ้าทะลายโจรจะทำให้เกิดอาการหน้ามืด วิงเวียน มึนงง
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 25 Jan 2013
การรักษาโรคหวัดในเด็ก | ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน -http://www.doctor.or.th/clinic/detail/9088
เด็กแรกเกิด (newborn แรกเกิด-4 สัปดาห์) และเด็กทารก (infant) (4 สัปดาห์-เริ่มยืนได้หรือ 12 เดือน หรือ 24 เดือน) ถ้ามีอาการจามน้ำมูกใส คัดจมูก จะทำการรักษาอย่างไร
ผู้ป่วยที่มีน้ำมูกข้นอุดตันรูจมูก แนะนำให้ใช้ 0.9% normal saline ที่ปลอดเชื้อหยอดเพื่อทำให้น้ำมูกอ่อนตัวและจมูกโล่งขึ้น สามารถทำได้ในเด็กทุกกลุ่มอายุ หรือใช้ผ้านุ่มม้วนให้ปลายแหลมชุบน้ำอุ่นหรือน้ำเกลือสะอาด (normal saline) พอชุ่มๆ แล้วสอดเข้าไปในรูจมูกเพื่อทำให้เยื่อบุจมูกเปียก หายใจโล่งขึ้น แนะนำให้เด็กจิบน้ำอุ่น
ถ้าเด็กมีแต่อาการทางจมูกเพียงอย่างเดียว การใช้ยา antihistamine มักจะไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย แต่ถ้าเด็กมีอาการไอหรือมีเสมหะร่วมด้วย หากได้รับ antihistamine มักจะทำให้เสมหะเหนียว เกิดเสมหะคั่งค้าง อุดกั้นทางเดินหายใจ จนกระทั่งบางรายพบว่ามีปอดแฟบได้ ดังนั้นจึงไม่แนะนำ antihistamine ในเด็กที่ไอและมีเสมหะ
เด็กแรกเกิด (newborn แรกเกิด-4 สัปดาห์) และเด็กทารก (infant) (4 สัปดาห์-เริ่มยืนได้หรือ 12 เดือน หรือ 24 เดือน) ถ้ามีอาการจามน้ำมูกใส คัดจมูก จะทำการรักษาอย่างไร
ผู้ป่วยที่มีน้ำมูกข้นอุดตันรูจมูก แนะนำให้ใช้ 0.9% normal saline ที่ปลอดเชื้อหยอดเพื่อทำให้น้ำมูกอ่อนตัวและจมูกโล่งขึ้น สามารถทำได้ในเด็กทุกกลุ่มอายุ หรือใช้ผ้านุ่มม้วนให้ปลายแหลมชุบน้ำอุ่นหรือน้ำเกลือสะอาด (normal saline) พอชุ่มๆ แล้วสอดเข้าไปในรูจมูกเพื่อทำให้เยื่อบุจมูกเปียก หายใจโล่งขึ้น แนะนำให้เด็กจิบน้ำอุ่น
ถ้าเด็กมีแต่อาการทางจมูกเพียงอย่างเดียว การใช้ยา antihistamine มักจะไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย แต่ถ้าเด็กมีอาการไอหรือมีเสมหะร่วมด้วย หากได้รับ antihistamine มักจะทำให้เสมหะเหนียว เกิดเสมหะคั่งค้าง อุดกั้นทางเดินหายใจ จนกระทั่งบางรายพบว่ามีปอดแฟบได้ ดังนั้นจึงไม่แนะนำ antihistamine ในเด็กที่ไอและมีเสมหะ
นักเขียนรับเชิญ: พญ. ปิยะพร ชื่นอิ่ม, ศ.พญ.อรุณวรรณ พฤทธิพันธุ์. โพสโดย Anonymous เมื่อ 31 พฤษภาคม 2552 17:00. ถาม : เด็กแรกเกิด (newborn แรกเกิด-4 สัปดาห์) และเด็กทารก (infant) (4 สัปดาห์-เริ่มยืนได้...
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 25 Jan 2013
วิชาการจุฬา: น้ำมูกไหลกับการใช้ยา Antihistamine - -http://www.gotoknow.org/posts/369676
DrSant: ขอชื่อยาแก้แพ้ดีๆไปซี้อกินเองได้ไหมครับ เอาแบบไม่ง่วง - http://visitdrsant.blogspot.com/2010/09/blog-post_15.html
Antihistamine รุ่น 1 ( First generation)
CPM, ยาสูตร Actifed , Hydroxyzine(Atarax) ใช้ลดน้ำมูกในโรคหวัด , แก้คัน เน้นใช้ในระยะสั้น ไม่แนะนำให้ใช้รักษาภูมิแพ้
Antihistamine รุ่น 2 (Second generation )
Loratadine, Cetririzine ใช้ในภูมิแพ้เพื่อลดน้ำมูกและแก้คัน ใช้นานๆได้ ใช้ลดน้ำมูกในโรคหวัดไม่ดีนัก
Cetirizine (Zyrtec) 5-10 มก.วันละเม็ด,
Levocetirizine (Xyzal) 5 มก. ตอนเย็น,
Fexofenadine (Allegra) 60 มก.วันละสองครั้ง
Loratadine (Claritin) 10 มก. วันละครั้ง
Montelukast (Singulair) 10 มก. วันละครั้ง อันนี้ไม่ใช่แอนตี้ฮิสตามีนเป็นแอนตี้เลียวโคตรริอีน ซึ่งเป็นสารก่ออาการแพ้ที่ปล่อยออกมาจาก mast cell เช่นกัน
DrSant: ขอชื่อยาแก้แพ้ดีๆไปซี้อกินเองได้ไหมครับ เอาแบบไม่ง่วง - http://visitdrsant.blogspot.com/2010/09/blog-post_15.html
Antihistamine รุ่น 1 ( First generation)
CPM, ยาสูตร Actifed , Hydroxyzine(Atarax) ใช้ลดน้ำมูกในโรคหวัด , แก้คัน เน้นใช้ในระยะสั้น ไม่แนะนำให้ใช้รักษาภูมิแพ้
Antihistamine รุ่น 2 (Second generation )
Loratadine, Cetririzine ใช้ในภูมิแพ้เพื่อลดน้ำมูกและแก้คัน ใช้นานๆได้ ใช้ลดน้ำมูกในโรคหวัดไม่ดีนัก
Cetirizine (Zyrtec) 5-10 มก.วันละเม็ด,
Levocetirizine (Xyzal) 5 มก. ตอนเย็น,
Fexofenadine (Allegra) 60 มก.วันละสองครั้ง
Loratadine (Claritin) 10 มก. วันละครั้ง
Montelukast (Singulair) 10 มก. วันละครั้ง อันนี้ไม่ใช่แอนตี้ฮิสตามีนเป็นแอนตี้เลียวโคตรริอีน ซึ่งเป็นสารก่ออาการแพ้ที่ปล่อยออกมาจาก mast cell เช่นกัน
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 6 Feb 2015
ยาแคปซูลฟ้าทะลายโจรสกัด อ้วยอันโอสถ
ส่วนประกอบสำคัญ
ใบฟ้าทะลายโจรสกัดเข้มข้น 200 มก
สารสกัดเข้มข้นฟ้าทะลายโจร มีประสิทธิภาพมากกว่าผงฟ้าทะลายโจรบด 3 เท่า ผู้บริโภคสามารถกินแค่ 1 แคปซูล โดยมีสาร Andrographolide อยู่แคปซูลละ 10 มก
สรรพคุณและข้อบ่งใช้
• แก้ไข้ ร้อนใน กระหายน้ำ
• แก้โรคภูมิแพ้อากาศ หวัด น้ำมูกไหล
• บรรเทาอาการเจ็บคอ เนื่องจากต่อมทอนซิลอักเสบ
• กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน เหมาะสำหรับโรคภูมิแพ้
วิธีใช้
รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง หลังอาหาร และก่อนนอน
ขนาด 500 mg 30 แคปซูล มีจำหน่ายที่ BETTER PHARMACY
ส่วนประกอบสำคัญ
ใบฟ้าทะลายโจรสกัดเข้มข้น 200 มก
สารสกัดเข้มข้นฟ้าทะลายโจร มีประสิทธิภาพมากกว่าผงฟ้าทะลายโจรบด 3 เท่า ผู้บริโภคสามารถกินแค่ 1 แคปซูล โดยมีสาร Andrographolide อยู่แคปซูลละ 10 มก
สรรพคุณและข้อบ่งใช้
• แก้ไข้ ร้อนใน กระหายน้ำ
• แก้โรคภูมิแพ้อากาศ หวัด น้ำมูกไหล
• บรรเทาอาการเจ็บคอ เนื่องจากต่อมทอนซิลอักเสบ
• กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน เหมาะสำหรับโรคภูมิแพ้
วิธีใช้
รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง หลังอาหาร และก่อนนอน
ขนาด 500 mg 30 แคปซูล มีจำหน่ายที่ BETTER PHARMACY
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 29 Jan 2015
ช่วงเวลาดึก ๆ อากาศทั้งเย็นทั้งชื้น ความชื้นสัมพััทธ์ขึ้นไปราว 90 % คนเป็นหวัดกันง่ายเพราะไม่รู้ตัวว่าอากาศเย็นนี่แหละ..... และหากอากาศเย็นแต่ร่างกายไม่อุ่นพอ ก็จะลุกมาไอตอนดึก ๆ ไอง่ายเวลาอากาศเย็น โดยเฉพาะเมื่อมีลมเย็นพ่นที่คอ.....
ช่วงนี้ก็เลยใช้ผ้าพันคอนอนตลอด ได้ผลชะงัด ไม่มีลุกมาไอดึก ๆ อีก ตื่นมาก็รู้สึกอุ่นสบาย.....
https://www.gotoknow.org/posts/376397
ช่วงนี้ก็เลยใช้ผ้าพันคอนอนตลอด ได้ผลชะงัด ไม่มีลุกมาไอดึก ๆ อีก ตื่นมาก็รู้สึกอุ่นสบาย.....
https://www.gotoknow.org/posts/376397
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 28 Jan 2015
ระยะเวลาไอที่เข้าข่ายไอเรื้อรัง ตั้งแต่ 3 สัปดาห์ ถึง 8 สัปดาห์ ร้อยละ 70-80 ของอาการไอเนื่องจากหวัดมักหายภาย ใน 3 สัปดาห์ และอย่างช้าก็มักไม่เกิน 2 เดือน การที่ ผู้ป่วยบางรายหายไอช้าเนื่องจากเยื่อบุผิวหลอดลมยัง ไม่เข้าสู่ปกติหรือมีภาวะหลอดลมไวหลงเหลืออยู่
แจงรายละเอียดเป็นโรคๆ (ที่พบบ่อยๆ)
โพรงจมูกและไซนัสอักเสบ:
โรคหืด:
ไอตามหลังหวัด: ยาที่ให้จะเป็นยา บรรเทาอาการ เช่นยาละลายเสมหะ ส่วน ยาระงับไอจะให้เมื่อจำเป็นเท่านั้น
โรคกรดย้อน: โรคนี้ทำให้เกิดอาการไอ หรือบางครั้งเสียงแหบได้
ไอจากยาลดความดันกลุ่ม angiotensin converting enzyme inhibitor (ACEI): ทำให้เกิดไอแห้งร่วมกับอาการคันคอยิบๆ
ไอจากการสูบบุหรี่:
วัณโรคปอด:
http://www.vichaiyut.co.th/html/jul/35-2549/p29-31_35.asp
แจงรายละเอียดเป็นโรคๆ (ที่พบบ่อยๆ)
โพรงจมูกและไซนัสอักเสบ:
โรคหืด:
ไอตามหลังหวัด: ยาที่ให้จะเป็นยา บรรเทาอาการ เช่นยาละลายเสมหะ ส่วน ยาระงับไอจะให้เมื่อจำเป็นเท่านั้น
โรคกรดย้อน: โรคนี้ทำให้เกิดอาการไอ หรือบางครั้งเสียงแหบได้
ไอจากยาลดความดันกลุ่ม angiotensin converting enzyme inhibitor (ACEI): ทำให้เกิดไอแห้งร่วมกับอาการคันคอยิบๆ
ไอจากการสูบบุหรี่:
วัณโรคปอด:
http://www.vichaiyut.co.th/html/jul/35-2549/p29-31_35.asp
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 19 Jan 2015
ทำไมเป็นหวัดนานเหลือเกินไม่ หายสักที ทั้ง ๆ ที่รักษาอยู่แล้ว ทำไมไออยู่ได้เป็นเดือน ๆ ทำไม ปวดฟันกรามด้านบนไม่หาย ทำไมปวดหัวหนักหัวบ่อย ๆ บางทีก็ สงสัยว่าแปรงฟันก็บ่อยยังถูกคนรอบข้างค่อนขอดว่าลมหายใจเหม็น บางคนก็ปวดหัวไปแถบหนึ่ง ไม่หายง่าย ๆ ทั้งหลายที่ว่ามานี้ล้วนแต่เป็นอาการของไซนัสอักเสบ
อาการโดยทั่วไปมักจะมีดังนี้คือ คัดจมูก มีน้ำมูกข้นเขียวหรือเหลือง หายใจมีกลิ่นเหม็น ปวดศีรษะ เสมหะข้นไหลลงคอ ไอบ่อย บางคนก็มีเลือดออกจมูก ปวดแก้ม ปวดฟันกรามแถวบน ปวดจมูก ปวดหน้าผาก ปวดขมับ ปวดท้ายทอย หนัก ๆ หัว ในชนิดที่เป็นแบบฉับพลัน บางคนก็มีไข้ด้วย
ปัจจัยบางอย่างช่วยทำให้หวัดกลายเป็นไซนัสอักเสบนั่นเองคือ ไปว่ายน้ำดำน้ำ กระโดดน้ำตอนเป็นหวัด มี ภูมิแพ้ ผนังจมูกคด มีริดสีดวง มีเนื้องอกในจมูก โครงสร้างผนัง จมูกผิดปกติ อดหลับอดนอน เป็นหวัดแล้วปล่อยปละละเลย (กะว่าให้หวัดหายเอง)
การรักษาไซนัสมี 2 แบบคือ รักษาทางยาปฏิชีวนะ (ยาฆ่าเชื้อโรค) ที่เหมาะสม ยาแก้คัดจมูก ยาลดบวมในเยื่อโพรงจมูก ยาลดน้ำมูก ยาแก้ปวด บางครั้งหมอหู คอ จมูก ก็ยังจำเป็นต้องดูดล้างเมือก หนอง ในโพรงไซนัสร่วมด้วย อย่างไรก็ตามบางคนก็หายแล้วเป็นอีก หรือรักษาทางยาไม่ได้ผลก็อาจจะจำเป็นต้องใช้วิธีผ่าตัดรักษา ผู้ป่วยที่ต้องใช้วิธีผ่าตัดรักษามักจะมีโครงสร้างในจมูกที่ทำให้เป็นไซนัส อักเสบง่าย หรือมีก้อนเนื้อในจมูกอุดตันอยู่ เช่น ริดสีดวงจมูก
http://ict.in.th/index.php?topic=14150.0;wap2
อาการโดยทั่วไปมักจะมีดังนี้คือ คัดจมูก มีน้ำมูกข้นเขียวหรือเหลือง หายใจมีกลิ่นเหม็น ปวดศีรษะ เสมหะข้นไหลลงคอ ไอบ่อย บางคนก็มีเลือดออกจมูก ปวดแก้ม ปวดฟันกรามแถวบน ปวดจมูก ปวดหน้าผาก ปวดขมับ ปวดท้ายทอย หนัก ๆ หัว ในชนิดที่เป็นแบบฉับพลัน บางคนก็มีไข้ด้วย
ปัจจัยบางอย่างช่วยทำให้หวัดกลายเป็นไซนัสอักเสบนั่นเองคือ ไปว่ายน้ำดำน้ำ กระโดดน้ำตอนเป็นหวัด มี ภูมิแพ้ ผนังจมูกคด มีริดสีดวง มีเนื้องอกในจมูก โครงสร้างผนัง จมูกผิดปกติ อดหลับอดนอน เป็นหวัดแล้วปล่อยปละละเลย (กะว่าให้หวัดหายเอง)
การรักษาไซนัสมี 2 แบบคือ รักษาทางยาปฏิชีวนะ (ยาฆ่าเชื้อโรค) ที่เหมาะสม ยาแก้คัดจมูก ยาลดบวมในเยื่อโพรงจมูก ยาลดน้ำมูก ยาแก้ปวด บางครั้งหมอหู คอ จมูก ก็ยังจำเป็นต้องดูดล้างเมือก หนอง ในโพรงไซนัสร่วมด้วย อย่างไรก็ตามบางคนก็หายแล้วเป็นอีก หรือรักษาทางยาไม่ได้ผลก็อาจจะจำเป็นต้องใช้วิธีผ่าตัดรักษา ผู้ป่วยที่ต้องใช้วิธีผ่าตัดรักษามักจะมีโครงสร้างในจมูกที่ทำให้เป็นไซนัส อักเสบง่าย หรือมีก้อนเนื้อในจมูกอุดตันอยู่ เช่น ริดสีดวงจมูก
http://ict.in.th/index.php?topic=14150.0;wap2
ไซนัสอักเสบ. (1/1). PrettyJudie: ไซนัสอักเสบ ไซนัสคืออะไร หลาย ๆ ท่านคงเคยได้ยินเพื่อนพูดคำว่า “เป็นไซนัส” บางคนก็บอกว่าตัวเอง “เป็นไซนัส” อีกหลายคนคงยังไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร อันที่จริงแล้ว ไซนัส (Sinus) แปลว่า โพรง ซึ่งหมายถึงที่โล่ง ๆ ไม่มีอะไรบรรจุอยู่ ในที่นี้เราหมายถึงโพรงอากาศที่อยู่รอบ ๆ ...
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 19 Jan 2015
กล่องเสียงอักเสบ เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดที่ทำให้เด็กเล็กมาโรงพยาบาลแบบฉุกเฉินด้วยปัญหาการหายใจลำบากแบบเฉียบพลัน พบบ่อยในเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 3 ขวบ เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ทำให้มีการอักเสบบวมของเยื่อบุทางเดินหายใจบริเวณท่อหลอดลมและกล่องเสียง
ก่อนที่จะป่วย มักมีอาการเป็นหวัดนำมาก่อนประมาณ 3-4 วัน มีไข้ต่ำๆแล้วเริ่มมีอาการไอแห้งๆเสียงก้องๆคล้ายเสียงสุนัขเห่า เนื่องจากมีการบวมบริเวณสายเสียง จึงทำให้เสียงพูดหรือเสียงร้องไห้แหบ เมื่อเยื่อบุหลอดลมบวม ทำให้ทางเดินของอากาศแคบลง อากาศจึงเข้าปอดได้น้อยลง เด็กจึงมีอาการหายใจแรงขึ้น มีการใช้กล้ามเนื้อเพื่อช่วยในการหายใจเข้า ทำให้เห็นช่องซี่โครงหน้าอกบริเวณแอ่งเหนือไหปลาร้าและหน้าท้องที่อยู่ใต้กระดูกซี่โครงยุบตัว ปีกจมูกบาน และมีเสียงดังอี๊ดๆขณะหายใจเข้า อาการจะเป็นมากขึ้นเวลากลางคืน และอาจเป็นนาน 1 – 2 สัปดาห์เลยก็ได้
หายใจหอบ จมูกบาน หน้าอกบุ๋ม หน้าซีดมากและลูกดูเหนื่อยหอบมาก
การดูแลรักษาของโรคนี้ จะเหมือนกับการดูแลรักษาโรคหวัด
อาการของโรคฝาปิดกล่องเสียงอักเสบ จะคล้ายกับกล่องเสียงอักเสบ แต่จะมีอาการรุนแรงกว่า เช่น มีไข้สูง อ่อนเพลียมาก กินอาหารหรือน้ำ ได้น้อย กลืนน้ำลายไม่ได้ เจ็บคอมาก ต้องอ้าปากแลบลิ้นอยู่ตลอดเวลา ทำให้น้ำลายไหลออกจากปาก หากมีอาการดังกล่าว ควรไปโรงพยาบาลโดยด่วนที่สุด
ก่อนที่จะป่วย มักมีอาการเป็นหวัดนำมาก่อนประมาณ 3-4 วัน มีไข้ต่ำๆแล้วเริ่มมีอาการไอแห้งๆเสียงก้องๆคล้ายเสียงสุนัขเห่า เนื่องจากมีการบวมบริเวณสายเสียง จึงทำให้เสียงพูดหรือเสียงร้องไห้แหบ เมื่อเยื่อบุหลอดลมบวม ทำให้ทางเดินของอากาศแคบลง อากาศจึงเข้าปอดได้น้อยลง เด็กจึงมีอาการหายใจแรงขึ้น มีการใช้กล้ามเนื้อเพื่อช่วยในการหายใจเข้า ทำให้เห็นช่องซี่โครงหน้าอกบริเวณแอ่งเหนือไหปลาร้าและหน้าท้องที่อยู่ใต้กระดูกซี่โครงยุบตัว ปีกจมูกบาน และมีเสียงดังอี๊ดๆขณะหายใจเข้า อาการจะเป็นมากขึ้นเวลากลางคืน และอาจเป็นนาน 1 – 2 สัปดาห์เลยก็ได้
หายใจหอบ จมูกบาน หน้าอกบุ๋ม หน้าซีดมากและลูกดูเหนื่อยหอบมาก
การดูแลรักษาของโรคนี้ จะเหมือนกับการดูแลรักษาโรคหวัด
อาการของโรคฝาปิดกล่องเสียงอักเสบ จะคล้ายกับกล่องเสียงอักเสบ แต่จะมีอาการรุนแรงกว่า เช่น มีไข้สูง อ่อนเพลียมาก กินอาหารหรือน้ำ ได้น้อย กลืนน้ำลายไม่ได้ เจ็บคอมาก ต้องอ้าปากแลบลิ้นอยู่ตลอดเวลา ทำให้น้ำลายไหลออกจากปาก หากมีอาการดังกล่าว ควรไปโรงพยาบาลโดยด่วนที่สุด
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 16 Oct 2014
ปลายฝน ต้นหนาว...เป็นหวัด เป็นไข้ นึกถึงฟ้าทะลายโจร
ฟ้าทะลายโจร ได้รับการกล่าวขานถึงอย่างมาก ในช่วงที่มีการระบาดของไข้หวัด 2009 และได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าเป็นสมุนไพรที่ช่วยบรรเทาอาการหวัด และเสริมภูมิต้านทานดีกว่าการใช้ยาปฏิชีวนะในคนที่เป็นหวัดบ่อยๆ ร้อนในบ่อยๆ เนื่องจากร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ภูมิต้านทานอ่อนลง การรับประทานสมุนไพรฟ้าทะลายโจรจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ทำให้ไม่เป็นหวัดง่าย ร้อนในจะหายไป และสมุนไพรฟ้าทะลายโจรดีกว่ายาปฏิชีวนะ ตรงที่ไม่ทำให้เกิดการดื้อยา สำหรับงานวิจัยทางคลินิกเกี่ยวกับประสิทธิผลในการรักษาหรือป้องกันอาการหวัด พบว่า การรับประทานยาเม็ดฟ้าทะลายโจร ขนาด 200 มก./วัน ติดต่อกัน 3 เดือน สามารถป้องกันการเกิดหวัดได้ถึง 33% โดยพบอัตราการเป็นหวัดเหลือเพียง 20% เมื่อรับประทานในขนาด 3-6 ก./วัน นาน 7 วัน ทำให้อาการไข้และเจ็บคอลดลงไม่ต่างจากการใช้ยาพาราเซตามอล นอกจากนี้ฟ้าทะลายโจรยังมีสรรพคุณอื่นๆที่มีการศึกษายืนยันชัดเจน พอจะสรุปสรรพคุณของฟ้าทะลายโจรได้ดังนี้
สรรพคุณ
- ป้องกันและรักษาการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน เช่น ไข้หวัด เจ็บคอ ไซนัสอักเสบแบบไม่รุนแรง หลอดลมอักเสบ ทอนซิลอักเสบ
- ทางเดินปัสสาวะส่วนล่างติดเชื้อ เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ต่อมลูกหมากอักเสบ
- บรรเทาอาการท้องเสียชนิดที่ไม่เกิดจากการติดเชื้อ เช่น อุจจาระไม่เป็นมูก หรือมีเลือดปนท้องเสียเฉียบพลัน
ขนาดยา
- รับประทานครั้งละ 1.5-3 กรัม (2-4 แคปซูล) วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน
- ใช้ใบและกิ่งสดล้างให้สะอาด สับเป็นท่อนสั้นๆ ประมาณ 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 10-15 นาที ดื่มก่อนอาหารวันละ 3 ครั้ง เนื่องจาก ฟ้าทะลายโจรมีรสขมมาก จึงแนะนำให้เอาใบฟ้าทะลายโจรสดมาล้างให้สะอาด ผึ่งให้แห้งในที่ร่ม และบดให้เป็นผงละเอียด บรรจุลงในแคปซูลเบอร์ 0 หรือปั้นกับน้ำผึ้งทำเป็นลูกกลอน เก็บไว้ในขวดแห้งและมิดชิด รับประทานครั้งละ 3-4 แคปซูลวันละ 4 ครั้ง ก่อนอาหาร 3 มื้อ และก่อนนอน
- เคี้ยวใบสด ครั้งละ 4-5 ใบ วันละ 3-4 ครั้ง
ข้อเสนอแนะ
- การใช้ฟ้าทะลายโจรจะให้ผลดีและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการแก้หวัด คือ หากเริ่มรู้สึกครั่นเนื้อ ครั่นตัว ทำท่าว่าจะเป็นไข้แล้วรีบกินจะได้ผลดี ถ้าเป็นมานานเกินกว่า 3 วัน แล้วมากินจะรู้สึกว่ายาไม่ ค่อยได้ผล หรือได้ผลน้อย
ข้อควรระวัง
- ห้ามใช้ในผู้ที่มีอาการแพ้ฟ้าทะลายโจร และพืชในกลุ่ม Acanthaceae เช่น เสลดพังพอน ทองพันชั่ง พญาวานร (ว่านง๊อก) อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ตั้งแต่อาการผื่นคัน ลมพิษ จนถึงอาการแพ้ขั้นรุนแรงแบบ anaphylactic shock ถ้าให้โดยการฉีดหรือในขนาดสูง
- สตรีมีครรภ์และให้นมบุตรห้ามใช้ เนื่องจากมีผลให้ทารกในครรภ์มีรูปร่างผิดปกติได้ และมีรายงานว่าทำให้เกิดการแท้งได้
- ยังไม่มีข้อมูลการใช้ในเด็ก หากใช้ให้อยู่ในความดูแลของแพทย์
-ห้ามใช้ฟ้าทะลายโจรสำหรับแก้อาการเจ็บคอ ในกรณีต่อไปนี้ เช่น เจ็บคอเนื่องจากติดเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus group A ผู้ที่มีประวัติไตอักเสบเนื่องจากติดเชื้อนี้ ผู้ป่วยที่มีประวัติโรคหัวใจรูห์มาติค ผู้ที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากมีการติดเชื้อแบคทีเรียและมีอาการรุนแรง เช่น ตุ่มหนองในคอ มีไข้สูง หนาวสั่น
- หากใช้ยาฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน 3 วัน แล้วไม่ดีขึ้นหรือยังไม่หาย หรือมีอาการรุนแรงขึ้นระหว่างใช้ควรหยุดใช้ยาและปรึกษาแพทย์
- ไม่ควรใช้ติดต่อเป็นเวลานาน เพราะเป็นสมุนไพรฤทธิ์เย็น อาจทำให้มือเท้าชา หรืออ่อนแรง
- ควร ระวังในโรคหัวใจรูห์มาติก เป็นโรคหัวใจที่เกิดจากการเป็นไข้รูห์มาติกซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง แล้วทำให้เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจและลิ้นหัวใจ ทำให้เกิดลิ้นหัวใจรั่วหรือตีบ โรคหัวใจรูห์มาติกพบบ่อยในเด็กอายุ 5-15 ปี การป้องกันการเกิดโรคหัวใจรูห์มาติกที่สาเหตุก็คือการป้องกันการเกิดไข้รูห์มาติก
โรคไข้รูห์มาติก เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากการติดเชื้อเบต้าฮีโมไลติก สเตปโตคอคคัส กลุ่มเอ ซึ่งเป็นสาเหตุของคออักเสบและต่อมทอนซิลอักเสบ อาจมีอาการจากการติดเชื้อครั้งแรกหรือมีอาการเมื่อมีการติดเชื้อซ้ำ
ฟ้าทะลายโจร มีสารออกฤทธิ์สำคัญ ชื่อ “แอนโดรกราโฟไลด์”
(andrographolide) สำหรับการเก็บเกี่ยวเพื่อให้มีปริมาณสารสำคัญสูง ควรทำเมื่อพืชจะมีอายุประมาณ 110-150 วัน หรือเป็นช่วงที่พืชออกดอกนับตั้งแต่เริ่มออกดอกจนถึงดอกบาน 50%
https://www.facebook.com/abhaiherb/photos/a.136960229702392.26552.136694259728989/749216235143452/
ฟ้าทะลายโจร ได้รับการกล่าวขานถึงอย่างมาก ในช่วงที่มีการระบาดของไข้หวัด 2009 และได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าเป็นสมุนไพรที่ช่วยบรรเทาอาการหวัด และเสริมภูมิต้านทานดีกว่าการใช้ยาปฏิชีวนะในคนที่เป็นหวัดบ่อยๆ ร้อนในบ่อยๆ เนื่องจากร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ภูมิต้านทานอ่อนลง การรับประทานสมุนไพรฟ้าทะลายโจรจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ทำให้ไม่เป็นหวัดง่าย ร้อนในจะหายไป และสมุนไพรฟ้าทะลายโจรดีกว่ายาปฏิชีวนะ ตรงที่ไม่ทำให้เกิดการดื้อยา สำหรับงานวิจัยทางคลินิกเกี่ยวกับประสิทธิผลในการรักษาหรือป้องกันอาการหวัด พบว่า การรับประทานยาเม็ดฟ้าทะลายโจร ขนาด 200 มก./วัน ติดต่อกัน 3 เดือน สามารถป้องกันการเกิดหวัดได้ถึง 33% โดยพบอัตราการเป็นหวัดเหลือเพียง 20% เมื่อรับประทานในขนาด 3-6 ก./วัน นาน 7 วัน ทำให้อาการไข้และเจ็บคอลดลงไม่ต่างจากการใช้ยาพาราเซตามอล นอกจากนี้ฟ้าทะลายโจรยังมีสรรพคุณอื่นๆที่มีการศึกษายืนยันชัดเจน พอจะสรุปสรรพคุณของฟ้าทะลายโจรได้ดังนี้
สรรพคุณ
- ป้องกันและรักษาการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน เช่น ไข้หวัด เจ็บคอ ไซนัสอักเสบแบบไม่รุนแรง หลอดลมอักเสบ ทอนซิลอักเสบ
- ทางเดินปัสสาวะส่วนล่างติดเชื้อ เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ต่อมลูกหมากอักเสบ
- บรรเทาอาการท้องเสียชนิดที่ไม่เกิดจากการติดเชื้อ เช่น อุจจาระไม่เป็นมูก หรือมีเลือดปนท้องเสียเฉียบพลัน
ขนาดยา
- รับประทานครั้งละ 1.5-3 กรัม (2-4 แคปซูล) วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน
- ใช้ใบและกิ่งสดล้างให้สะอาด สับเป็นท่อนสั้นๆ ประมาณ 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 10-15 นาที ดื่มก่อนอาหารวันละ 3 ครั้ง เนื่องจาก ฟ้าทะลายโจรมีรสขมมาก จึงแนะนำให้เอาใบฟ้าทะลายโจรสดมาล้างให้สะอาด ผึ่งให้แห้งในที่ร่ม และบดให้เป็นผงละเอียด บรรจุลงในแคปซูลเบอร์ 0 หรือปั้นกับน้ำผึ้งทำเป็นลูกกลอน เก็บไว้ในขวดแห้งและมิดชิด รับประทานครั้งละ 3-4 แคปซูลวันละ 4 ครั้ง ก่อนอาหาร 3 มื้อ และก่อนนอน
- เคี้ยวใบสด ครั้งละ 4-5 ใบ วันละ 3-4 ครั้ง
ข้อเสนอแนะ
- การใช้ฟ้าทะลายโจรจะให้ผลดีและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการแก้หวัด คือ หากเริ่มรู้สึกครั่นเนื้อ ครั่นตัว ทำท่าว่าจะเป็นไข้แล้วรีบกินจะได้ผลดี ถ้าเป็นมานานเกินกว่า 3 วัน แล้วมากินจะรู้สึกว่ายาไม่ ค่อยได้ผล หรือได้ผลน้อย
ข้อควรระวัง
- ห้ามใช้ในผู้ที่มีอาการแพ้ฟ้าทะลายโจร และพืชในกลุ่ม Acanthaceae เช่น เสลดพังพอน ทองพันชั่ง พญาวานร (ว่านง๊อก) อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ตั้งแต่อาการผื่นคัน ลมพิษ จนถึงอาการแพ้ขั้นรุนแรงแบบ anaphylactic shock ถ้าให้โดยการฉีดหรือในขนาดสูง
- สตรีมีครรภ์และให้นมบุตรห้ามใช้ เนื่องจากมีผลให้ทารกในครรภ์มีรูปร่างผิดปกติได้ และมีรายงานว่าทำให้เกิดการแท้งได้
- ยังไม่มีข้อมูลการใช้ในเด็ก หากใช้ให้อยู่ในความดูแลของแพทย์
-ห้ามใช้ฟ้าทะลายโจรสำหรับแก้อาการเจ็บคอ ในกรณีต่อไปนี้ เช่น เจ็บคอเนื่องจากติดเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus group A ผู้ที่มีประวัติไตอักเสบเนื่องจากติดเชื้อนี้ ผู้ป่วยที่มีประวัติโรคหัวใจรูห์มาติค ผู้ที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากมีการติดเชื้อแบคทีเรียและมีอาการรุนแรง เช่น ตุ่มหนองในคอ มีไข้สูง หนาวสั่น
- หากใช้ยาฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน 3 วัน แล้วไม่ดีขึ้นหรือยังไม่หาย หรือมีอาการรุนแรงขึ้นระหว่างใช้ควรหยุดใช้ยาและปรึกษาแพทย์
- ไม่ควรใช้ติดต่อเป็นเวลานาน เพราะเป็นสมุนไพรฤทธิ์เย็น อาจทำให้มือเท้าชา หรืออ่อนแรง
- ควร ระวังในโรคหัวใจรูห์มาติก เป็นโรคหัวใจที่เกิดจากการเป็นไข้รูห์มาติกซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง แล้วทำให้เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจและลิ้นหัวใจ ทำให้เกิดลิ้นหัวใจรั่วหรือตีบ โรคหัวใจรูห์มาติกพบบ่อยในเด็กอายุ 5-15 ปี การป้องกันการเกิดโรคหัวใจรูห์มาติกที่สาเหตุก็คือการป้องกันการเกิดไข้รูห์มาติก
โรคไข้รูห์มาติก เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากการติดเชื้อเบต้าฮีโมไลติก สเตปโตคอคคัส กลุ่มเอ ซึ่งเป็นสาเหตุของคออักเสบและต่อมทอนซิลอักเสบ อาจมีอาการจากการติดเชื้อครั้งแรกหรือมีอาการเมื่อมีการติดเชื้อซ้ำ
ฟ้าทะลายโจร มีสารออกฤทธิ์สำคัญ ชื่อ “แอนโดรกราโฟไลด์”
(andrographolide) สำหรับการเก็บเกี่ยวเพื่อให้มีปริมาณสารสำคัญสูง ควรทำเมื่อพืชจะมีอายุประมาณ 110-150 วัน หรือเป็นช่วงที่พืชออกดอกนับตั้งแต่เริ่มออกดอกจนถึงดอกบาน 50%
https://www.facebook.com/abhaiherb/photos/a.136960229702392.26552.136694259728989/749216235143452/
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 12 Apr 2014
กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จัดทำยาแผนไทยประจำบ้าน ประกอบด้วย 10 ตัวยา ที่สามารถรักษาได้ครอบคลุมทุกโรคพื้นฐาน ได้แก่ 1.ยาหอม แก้ลมวิงเวียน 2.ขมิ้นชันแคปซูล แก้แผลในกระเพาะอาหาร จุกเสียด ท้องอืดท้องเฟ้อ 3.ฟ้าทะลายโจรแคปซูล บรรเทาอาการหวัด ท้องเสีย 4.ยาเหลืองปิดสมุทร แก้ท้องเสีย 5.ยาจันทลีลา แก้ไข้ตัวร้อน ไข้เปลี่ยนฤดู
6.ยาธรณีสันฑฆาต แก้ท้องผูกยาถ่าย 7.น้ำมันเหลือง แก้ปวดเมื่อย 8.คาลาไมน์พญายอ แก้ผื่นแพ้แมลงกัดต่อย 9.โลชั่นกันยุงตะไคร้หอม ทากันยุง และ 10.ยาเปลือกมังคุด ฆ่าเชื้อแผลสดแผลเปื่อย
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1397295731
6.ยาธรณีสันฑฆาต แก้ท้องผูกยาถ่าย 7.น้ำมันเหลือง แก้ปวดเมื่อย 8.คาลาไมน์พญายอ แก้ผื่นแพ้แมลงกัดต่อย 9.โลชั่นกันยุงตะไคร้หอม ทากันยุง และ 10.ยาเปลือกมังคุด ฆ่าเชื้อแผลสดแผลเปื่อย
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1397295731
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 3 Mar 2014
แนวโน้มของการใช้ประโยชน์จากขิงทางยา
แก้หวัด
ช่วยย่อย
แก้คลื่นไส้อาเจียน
โรคหัวใจและหลอดเลือด
โรคแผลในกระเพาะอาหาร
แก้ปวดข้อ
แก้ปวดประจำเดือน
ต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอความชราของเซลล์
http://www.doctor.or.th/article/detail/2592
แก้หวัด
ช่วยย่อย
แก้คลื่นไส้อาเจียน
โรคหัวใจและหลอดเลือด
โรคแผลในกระเพาะอาหาร
แก้ปวดข้อ
แก้ปวดประจำเดือน
ต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอความชราของเซลล์
http://www.doctor.or.th/article/detail/2592
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 19 Feb 2014
ภาควิชา โสต ศอ นาสิกวิทยา และภาควิชาเภสัชวิทยาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขอเชิญผู้ป่วยโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ทดสอบภูมิแพ้และเข้าร่วมโครงการวิจัยผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือรักษาโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ โดยไม่ต้องใช้ยาและไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ภาควิชาเภสัชวิทยา ในวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. หรือติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08 1568 9851
http://www.prdnorth.in.th/ct/news/viewnews.php?ID=140219130035
http://www.prdnorth.in.th/ct/news/viewnews.php?ID=140219130035
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 12 Jun 2013
คามิลโลซาน เอ็ม สเปรย์ (Kamillosan M spray)
เป็นสเปรย์พ่นคอที่เป็นที่นิยมใช้มากๆ ในการลดอาการเจ็บคอโดยส่วนผสมหลักของตัวสเปรย์พ่นนี้จะเป็นพวกน้ำมันหอม ระเหยหลายๆ ชนิดคือ น้ำมันโป๊ยกั๊ก (Anise oil), น้ำมันมะกรูด (Bergamot oil), สารสกัดจากดอกคาโมไมล์ (Chamomile extract), น้ำมันเปเปอร์มินท์ (Peppermint oil), น้ำมันสนเข็ม (Dwarf pine needle oil), น้ำมันสะระแหน่ (Sage oil) และตัวยาแผนปัจจุบันอีก 1 ชนิดคือ ยาเมทิลซาลิไซเลท (Methyl salicylate)
การ ศึกษาในปัจจุบันพบว่าน้ำมันหอมระเหยชนิดต่างๆ ที่ได้กล่าวไปนั้นมีคุณสมบัติออกฤทธิ์ได้หลายประการ เช่น ฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย, ฤทธิ์เพิ่มสารคัดหลั่งในบริเวณทางเดินหายใจ (คุณสมบัติข้อนี้มีผลลดอาการระคายเคืองของทางเดินหายใจได้ ซึ่งใช้สำหรับอาการไอภูมิแพ้และอาการระคายเคืองเจ็บคอ), ฤทธิ์ลดอาการอักเสบ ส่วนตัวยาเมทิลซาลิไซเลท ก็คือตัวยาที่ถูกพัฒนามาจากแอสไพริน (aspirin) ซึ่งใช้เป็นยาสำหรับลดอาการบวม อักเสบ
http://web4.twitpic.com/snfjp
เป็นสเปรย์พ่นคอที่เป็นที่นิยมใช้มากๆ ในการลดอาการเจ็บคอโดยส่วนผสมหลักของตัวสเปรย์พ่นนี้จะเป็นพวกน้ำมันหอม ระเหยหลายๆ ชนิดคือ น้ำมันโป๊ยกั๊ก (Anise oil), น้ำมันมะกรูด (Bergamot oil), สารสกัดจากดอกคาโมไมล์ (Chamomile extract), น้ำมันเปเปอร์มินท์ (Peppermint oil), น้ำมันสนเข็ม (Dwarf pine needle oil), น้ำมันสะระแหน่ (Sage oil) และตัวยาแผนปัจจุบันอีก 1 ชนิดคือ ยาเมทิลซาลิไซเลท (Methyl salicylate)
การ ศึกษาในปัจจุบันพบว่าน้ำมันหอมระเหยชนิดต่างๆ ที่ได้กล่าวไปนั้นมีคุณสมบัติออกฤทธิ์ได้หลายประการ เช่น ฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย, ฤทธิ์เพิ่มสารคัดหลั่งในบริเวณทางเดินหายใจ (คุณสมบัติข้อนี้มีผลลดอาการระคายเคืองของทางเดินหายใจได้ ซึ่งใช้สำหรับอาการไอภูมิแพ้และอาการระคายเคืองเจ็บคอ), ฤทธิ์ลดอาการอักเสบ ส่วนตัวยาเมทิลซาลิไซเลท ก็คือตัวยาที่ถูกพัฒนามาจากแอสไพริน (aspirin) ซึ่งใช้เป็นยาสำหรับลดอาการบวม อักเสบ
http://web4.twitpic.com/snfjp
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 11 May 2013
การดูแลตัวเองเมื่อเจ็บคอ
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=singlenurse&month=25-09-2012&group=6&gblog=107
เกลือ เกลือที่เราใช้ปรุงอาหารเป็นยาแก้เจ็บคอได้เป็นอย่างดี โดยผสมเกลือ 1 ช้อนชา กับน้ำอุ่น 1 แก้ว ใช้อมกลั้วคอ หรือทำเป็นน้ำยาบ้วนปาก วันละ 2-3 ครั้ง จะช่วยบรรเทาอาการได้
• น้ำอุ่น ผสมน้ำอุ่น 1 แก้วกับน้ำมะนาว หรือน้ำส้มไซเดอร์แอปเปิ้ล 1 ช้อนชา ใช้กลั้วคอ วันละ 2-3 ครั้ง ส่วนผสมดังกล่าวมีฤทธิ์เป็นกรด ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส
ผลไม้รสเปรี้ยวบรรเทาเจ็บคอ
• มะขามป้อม ใช้เนื้อผลแก่สดประมาณ 2-3 ผล โขลกพอแหลก แทรกเกลือเล็กน้อย อมหรือเคี้ยววันละ 3-4 ครั้ง วิตามินซี และรสเปรี้ยวอมฝาดในมะขามป้อม จะช่วยแก้หวัด ทำให้คอชุ่มชื่น แก้อาการคอแห้ง และแก้อาการเจ็บคอ
• มะนาว ใช้ผลสดคั้นเอาแต่น้ำ แทรกเกลือเล็กน้อย จิบบ่อยๆ หรือ ใช้มะนาวครึ่งลูกบีบใส่น้ำอุ่นครึ่งแก้ว แล้วผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา วิตามินซี และรสเปรี้ยวของมะนาวจะช่วยขับน้ำลาย ลดอาการระคายเคืองที่เยื่อบุผิวภายในลำคอ ส่วนน้ำผึ้งมีสรรพคุณบรรเทาอาการเจ็บคอ
• มะขาม ใช้เนื้อในฝักแก่ของมะขามเปรี้ยว หรือมะขามเปียก จิ้มเกลือกินพอสมควร หรือจะคั้นเป็นน้ำมะขามแทรกเกลือเล็กน้อย และใช้จิบบ่อยๆ ก็ได้ เนื้อฝักแก่ รสเปรี้ยว ช่วยขับเสมหะ ทำให้คอชุ่มชื่น และแก้อาการเจ็บคอ
• น้ำส้ม นำผลส้มประมาณ 3 ผล ล้างให้สะอาด คั้นเอาแต่น้ำ เติมน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ และเกลือป่น 1/2 ช้อนชา จิบบ่อยๆเมื่อมีอาการ รสเปรี้ยวของส้มมีสรรพคุณแก้ไอ ขับเสมหะ และทำให้ชุ่มคอ
• เสาวรส นำเสาวรสสุกประมาณ 2-3 ผล ล้างให้สะอาด ผ่าครึ่ง ใช้ช้อนตักเมล็ดและส่วนที่เป็นน้ำสีส้มออกจากเนื้อผล คั้นกรองด้วยกระชอนหรือผ้าขาวบาง เพื่อแยกเอาเมล็ดและเส้นใยออก เติมน้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ ชิมรสตามใจชอบ จิบเมื่อมีอาการ รสเปรี้ยวของเสาวรสมีสรรพคุณช่วยขับเสมหะ และทำให้ชุ่มคอ
บำบัดด้วยน้ำมันหอม
การดูแลรักษาตนเองเพื่อบรรเทาอาการ
1. หยุดสูบบุหรี่ และ ดื่มน้ำมากๆ
2. จิบยาแก้ไอ อมยาแก้เจ็บคอ
3.น้ำยากลั้วคอ
4. รับประทานยาแก้ปวด/ยาแก้แพ้
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=singlenurse&month=25-09-2012&group=6&gblog=107
เกลือ เกลือที่เราใช้ปรุงอาหารเป็นยาแก้เจ็บคอได้เป็นอย่างดี โดยผสมเกลือ 1 ช้อนชา กับน้ำอุ่น 1 แก้ว ใช้อมกลั้วคอ หรือทำเป็นน้ำยาบ้วนปาก วันละ 2-3 ครั้ง จะช่วยบรรเทาอาการได้
• น้ำอุ่น ผสมน้ำอุ่น 1 แก้วกับน้ำมะนาว หรือน้ำส้มไซเดอร์แอปเปิ้ล 1 ช้อนชา ใช้กลั้วคอ วันละ 2-3 ครั้ง ส่วนผสมดังกล่าวมีฤทธิ์เป็นกรด ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส
ผลไม้รสเปรี้ยวบรรเทาเจ็บคอ
• มะขามป้อม ใช้เนื้อผลแก่สดประมาณ 2-3 ผล โขลกพอแหลก แทรกเกลือเล็กน้อย อมหรือเคี้ยววันละ 3-4 ครั้ง วิตามินซี และรสเปรี้ยวอมฝาดในมะขามป้อม จะช่วยแก้หวัด ทำให้คอชุ่มชื่น แก้อาการคอแห้ง และแก้อาการเจ็บคอ
• มะนาว ใช้ผลสดคั้นเอาแต่น้ำ แทรกเกลือเล็กน้อย จิบบ่อยๆ หรือ ใช้มะนาวครึ่งลูกบีบใส่น้ำอุ่นครึ่งแก้ว แล้วผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา วิตามินซี และรสเปรี้ยวของมะนาวจะช่วยขับน้ำลาย ลดอาการระคายเคืองที่เยื่อบุผิวภายในลำคอ ส่วนน้ำผึ้งมีสรรพคุณบรรเทาอาการเจ็บคอ
• มะขาม ใช้เนื้อในฝักแก่ของมะขามเปรี้ยว หรือมะขามเปียก จิ้มเกลือกินพอสมควร หรือจะคั้นเป็นน้ำมะขามแทรกเกลือเล็กน้อย และใช้จิบบ่อยๆ ก็ได้ เนื้อฝักแก่ รสเปรี้ยว ช่วยขับเสมหะ ทำให้คอชุ่มชื่น และแก้อาการเจ็บคอ
• น้ำส้ม นำผลส้มประมาณ 3 ผล ล้างให้สะอาด คั้นเอาแต่น้ำ เติมน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ และเกลือป่น 1/2 ช้อนชา จิบบ่อยๆเมื่อมีอาการ รสเปรี้ยวของส้มมีสรรพคุณแก้ไอ ขับเสมหะ และทำให้ชุ่มคอ
• เสาวรส นำเสาวรสสุกประมาณ 2-3 ผล ล้างให้สะอาด ผ่าครึ่ง ใช้ช้อนตักเมล็ดและส่วนที่เป็นน้ำสีส้มออกจากเนื้อผล คั้นกรองด้วยกระชอนหรือผ้าขาวบาง เพื่อแยกเอาเมล็ดและเส้นใยออก เติมน้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ ชิมรสตามใจชอบ จิบเมื่อมีอาการ รสเปรี้ยวของเสาวรสมีสรรพคุณช่วยขับเสมหะ และทำให้ชุ่มคอ
บำบัดด้วยน้ำมันหอม
การดูแลรักษาตนเองเพื่อบรรเทาอาการ
1. หยุดสูบบุหรี่ และ ดื่มน้ำมากๆ
2. จิบยาแก้ไอ อมยาแก้เจ็บคอ
3.น้ำยากลั้วคอ
4. รับประทานยาแก้ปวด/ยาแก้แพ้
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 18 Apr 2013
จี้ร.พ.เลิกให้ยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อ พบคนไทยเสี่ยงติดเชื้อ-ดื้อยาเพิ่ม ระบุรณรงค์ร.พ.เล็กได้ผลมากกว่า
อย.รณรงค์ลดใช้ยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อ จนอัตราการติดเชื้อดื้อยาเพิ่มสูงขึ้น สูญเสียปีละหลายพันล้าน ระบุบางโรคไม่ต้องใช้ยาก็หายได้เช่น หวัด เจ็บคอ ท้องเสีย ชี้ยาปฏิชีวนะ ไม่ใช่ยาแก้อักเสบ เพราะรักษาอาการไม่ได้ทุกชนิด แต่คนยังเข้าใจผิด ขณะรามาฯเตรียมปลดรายชื่อยาปฏิชีวนะที่ไม่จำเป็น 30 ชนิดออกจากบัญชีรายชื่อยาแล้ว
http://www.tcijthai.com/TCIJ/view.php?ids=2372
อย.รณรงค์ลดใช้ยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อ จนอัตราการติดเชื้อดื้อยาเพิ่มสูงขึ้น สูญเสียปีละหลายพันล้าน ระบุบางโรคไม่ต้องใช้ยาก็หายได้เช่น หวัด เจ็บคอ ท้องเสีย ชี้ยาปฏิชีวนะ ไม่ใช่ยาแก้อักเสบ เพราะรักษาอาการไม่ได้ทุกชนิด แต่คนยังเข้าใจผิด ขณะรามาฯเตรียมปลดรายชื่อยาปฏิชีวนะที่ไม่จำเป็น 30 ชนิดออกจากบัญชีรายชื่อยาแล้ว
http://www.tcijthai.com/TCIJ/view.php?ids=2372
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 25 Jan 2013
ยา antihistamine แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 First generation หรือ Sedating Antihistamine เป็นกลุ่มที่ผ่านตัวกลางของระบบ blood brain barrier ได้ดี จึงมีฤทธิ์ข้างเคียงต่อระบบประสาทสมองส่วนกลาง ผลคือทำให้เกิดอาการมึนซึม ไม่ค่อยสดชื่น ง่วงนอน และยังมีอาการอื่น ๆ เช่น คอแห้ง ปากแห้ง ปัสสาวะลำบาก ท้องผูก ตัวยาในกลุ่มนี้ได้แก่ Chlophenilamine, Hydroxyzine, Tripolidine, Brompheniramine ข้อดีของยากลุ่มนี้คือสามารถลดอาการน้ำมูกไหลโดยเฉพาะน้ำมูกจากหวัด (น้ำมูกจากหวัดไม่ได้เกิดจาก Histamine) สามารถลดอาการคันได้ดีกว่ายาในกลุ่มอื่น ๆ
กลุ่มที่ 2 Second generation หรือ Nonsedating Antihistamine เป็นกลุ่มนี้ได้พัฒนาเพื่อแก้จุดด้อยของยาในกลุ่มที่ 1 โดยมีข้อดีกว่า First generation คือมี affinity ต่อ H1 receptor ออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงกับ receptor ต่อ histamine ทำให้ได้ผลการรักษาได้ดีกว่ากลุ่มแรก ระยะเวลาในการออกฤทธิ์ที่ยาวกว่า และมีผลต่อ central nervous system น้อยเมื่อเทียบกับ ว่า First-generation จึงไม่ทำให้ง่วง
ยาในกลุ่มนี้ได้แก่ Terfenadine, Astemizole, Loratadine และ Cetirizine
การเปลี่ยนแปลงจาก Pro-drug เป็น Active Drug เกิดที่ตับ โดยอาศัยเอนไซม์ Cytochrome P450 ดังนั้นจึงมีปัญหาการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา (Drug Interaction) กับยาบางตัว เช่น Ketoconazole และ Erythromycin ที่มีคุณสมบัติเป็น Enzyme Inhibitor คือมันจะยับยั้งการเปลี่ยนแปลงยากลุ่ม 2 ที่ให้ร่วมกันกับมันไปเป็น Active drug ได้น้อยลง ทำให้ระดับยากลุ่มที่ 2 ในเลือดเพิ่มสูงขึ้น มีผลทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ จนบางรายอาจรุนแรงแก่ชีวิตได้
กลุ่มที่ 3 Third generation เป็น active metabolites ของ Second generation ยากลุ่มนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยมีคุณสมบัติเหมือน second generation แต่หลีกเลี่ยงปัญหาเกี่ยวกับการเมตาโบไลท์ที่ตับยาในกลุ่มนี้ได้แก่ Norastemizole, Fexofenadine, Descarboethoxy loratadine ซึ่งเป็น active metabolite ของ Astemizole, Terfenadine และ Loratadine ตามลำดับ
Cetirizine นั้นเป็น Active Metabolite โดยตรงของ Hydroxyzine ที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะสามารถออกฤทธิ์ได้ทันที จากข้อมูลทางเภสัชจลนศาสตร์พบว่า Cetirizine สามารถออกฤทธิ์ได้หลังจากกินเข้าไป 15-60 นาที ในขณะที่ Loratadine (ยาตัวเก่าที่เคยมี) กว่าจะออกฤทธิ์จะต้องใช้เวลา 1-3 ชั่วโมง ซึ่งช้ากว่า
ยากลุ่มนี้ไม่มีปัญหา Drug Interaction กับยากลุ่ม Ketoconazole หรือ Erythromycin แต่อย่างใด พบมี Drug Interaction บ้างในระดับเล็กน้อยกับยา Theophylline ที่ยา Theophylline มีผลทำให้การขจัดยา Cetirizine ออกจากร่างกายลดลง 16% จึงมีข้อแนะนำเชิงสันนิษฐานว่า หากเพิ่มขนาดยา Theophylline มากกว่า 400 mg และให้พร้อมกับ Cetirizine อาจเกิดปัญหา Drug Interaction ดังกล่าวเพิ่มขึ้นได้
แสดงคำถาม:ในหัวข้อเรื่อง ข้อมูลยา และเภสัชภัณฑ์ -http://drug.pharmacy.psu.ac.th/Question.asp?ID=13749&gid=7
http://www.naddalim.com/forum/viewtopic.php?f=36&t=1997
ข่าวล่าน่าสนสำหรับผู้ใช้ยาแก้แพ้ชนิดไม่ง่วงเป็นประจำ | ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน -http://www.doctor.or.th/article/detail/3207
กลุ่มที่ 1 First generation หรือ Sedating Antihistamine เป็นกลุ่มที่ผ่านตัวกลางของระบบ blood brain barrier ได้ดี จึงมีฤทธิ์ข้างเคียงต่อระบบประสาทสมองส่วนกลาง ผลคือทำให้เกิดอาการมึนซึม ไม่ค่อยสดชื่น ง่วงนอน และยังมีอาการอื่น ๆ เช่น คอแห้ง ปากแห้ง ปัสสาวะลำบาก ท้องผูก ตัวยาในกลุ่มนี้ได้แก่ Chlophenilamine, Hydroxyzine, Tripolidine, Brompheniramine ข้อดีของยากลุ่มนี้คือสามารถลดอาการน้ำมูกไหลโดยเฉพาะน้ำมูกจากหวัด (น้ำมูกจากหวัดไม่ได้เกิดจาก Histamine) สามารถลดอาการคันได้ดีกว่ายาในกลุ่มอื่น ๆ
กลุ่มที่ 2 Second generation หรือ Nonsedating Antihistamine เป็นกลุ่มนี้ได้พัฒนาเพื่อแก้จุดด้อยของยาในกลุ่มที่ 1 โดยมีข้อดีกว่า First generation คือมี affinity ต่อ H1 receptor ออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงกับ receptor ต่อ histamine ทำให้ได้ผลการรักษาได้ดีกว่ากลุ่มแรก ระยะเวลาในการออกฤทธิ์ที่ยาวกว่า และมีผลต่อ central nervous system น้อยเมื่อเทียบกับ ว่า First-generation จึงไม่ทำให้ง่วง
ยาในกลุ่มนี้ได้แก่ Terfenadine, Astemizole, Loratadine และ Cetirizine
การเปลี่ยนแปลงจาก Pro-drug เป็น Active Drug เกิดที่ตับ โดยอาศัยเอนไซม์ Cytochrome P450 ดังนั้นจึงมีปัญหาการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา (Drug Interaction) กับยาบางตัว เช่น Ketoconazole และ Erythromycin ที่มีคุณสมบัติเป็น Enzyme Inhibitor คือมันจะยับยั้งการเปลี่ยนแปลงยากลุ่ม 2 ที่ให้ร่วมกันกับมันไปเป็น Active drug ได้น้อยลง ทำให้ระดับยากลุ่มที่ 2 ในเลือดเพิ่มสูงขึ้น มีผลทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ จนบางรายอาจรุนแรงแก่ชีวิตได้
กลุ่มที่ 3 Third generation เป็น active metabolites ของ Second generation ยากลุ่มนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยมีคุณสมบัติเหมือน second generation แต่หลีกเลี่ยงปัญหาเกี่ยวกับการเมตาโบไลท์ที่ตับยาในกลุ่มนี้ได้แก่ Norastemizole, Fexofenadine, Descarboethoxy loratadine ซึ่งเป็น active metabolite ของ Astemizole, Terfenadine และ Loratadine ตามลำดับ
Cetirizine นั้นเป็น Active Metabolite โดยตรงของ Hydroxyzine ที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะสามารถออกฤทธิ์ได้ทันที จากข้อมูลทางเภสัชจลนศาสตร์พบว่า Cetirizine สามารถออกฤทธิ์ได้หลังจากกินเข้าไป 15-60 นาที ในขณะที่ Loratadine (ยาตัวเก่าที่เคยมี) กว่าจะออกฤทธิ์จะต้องใช้เวลา 1-3 ชั่วโมง ซึ่งช้ากว่า
ยากลุ่มนี้ไม่มีปัญหา Drug Interaction กับยากลุ่ม Ketoconazole หรือ Erythromycin แต่อย่างใด พบมี Drug Interaction บ้างในระดับเล็กน้อยกับยา Theophylline ที่ยา Theophylline มีผลทำให้การขจัดยา Cetirizine ออกจากร่างกายลดลง 16% จึงมีข้อแนะนำเชิงสันนิษฐานว่า หากเพิ่มขนาดยา Theophylline มากกว่า 400 mg และให้พร้อมกับ Cetirizine อาจเกิดปัญหา Drug Interaction ดังกล่าวเพิ่มขึ้นได้
แสดงคำถาม:ในหัวข้อเรื่อง ข้อมูลยา และเภสัชภัณฑ์ -http://drug.pharmacy.psu.ac.th/Question.asp?ID=13749&gid=7
http://www.naddalim.com/forum/viewtopic.php?f=36&t=1997
ข่าวล่าน่าสนสำหรับผู้ใช้ยาแก้แพ้ชนิดไม่ง่วงเป็นประจำ | ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน -http://www.doctor.or.th/article/detail/3207
PSU Drug Information Center บริการข้อมูลยาและเภสัชภัณฑ์ แก่บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชน แหล่งชุมชนเภสัชกรผ่านเครือข่าย internet
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 25 Jan 2013
ตั้งครรภ์ได้11สัปดาห์แล้วเป็นหวัด ไปหาหมอแล้วหมอให้ยามาเยอะ
เป็นมาได้3วันแล้วค่ะ วันแรกมีอาการเจ็บคอ วันที่2มีน้ำมูกและเสมหะตลอด วันที่3นี่หนักเลยทั้งน้ำมูก น้ำตา ขี้ตา แล้วก็มีเสมหะไม่หยุดเลย แต่เสมหะไม่ได้มีสีเขียวเข้ม เป็นแค่สีขาวๆใสๆ เพียงแค่เหนียวมาก ไม่อยากทานยา แต่ไปหาหมอ หมอให้ยามา6ชนิดเลย มีทั้งยาแก้อักเสบติดเชื้อ AMOXYCILLIN 500 MG ยาแก้ไอละลายเสมหะBROMHEXINE 8 MG ยาแก้แพ้อากาศ LORATADINE(carinose) 10 MG ยาแก้แพ้ ลดน้ำมูก CPM 4 MG (อันนี้ง่วงมาก) วิตามิน VIT 500 MG และพารา PARACETAMOL(patblu) และเวลาไอก็เจ็บที่ท้องน้อยมาก
http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=11813a44260c9455
เป็นมาได้3วันแล้วค่ะ วันแรกมีอาการเจ็บคอ วันที่2มีน้ำมูกและเสมหะตลอด วันที่3นี่หนักเลยทั้งน้ำมูก น้ำตา ขี้ตา แล้วก็มีเสมหะไม่หยุดเลย แต่เสมหะไม่ได้มีสีเขียวเข้ม เป็นแค่สีขาวๆใสๆ เพียงแค่เหนียวมาก ไม่อยากทานยา แต่ไปหาหมอ หมอให้ยามา6ชนิดเลย มีทั้งยาแก้อักเสบติดเชื้อ AMOXYCILLIN 500 MG ยาแก้ไอละลายเสมหะBROMHEXINE 8 MG ยาแก้แพ้อากาศ LORATADINE(carinose) 10 MG ยาแก้แพ้ ลดน้ำมูก CPM 4 MG (อันนี้ง่วงมาก) วิตามิน VIT 500 MG และพารา PARACETAMOL(patblu) และเวลาไอก็เจ็บที่ท้องน้อยมาก
http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=11813a44260c9455
1
Add a comment...
ด้วยความห่วงใย
.....................
BETTER PHARMACY เจ็ดยอด เชียงใหม่
เราคัดสรรสิ่งที่ดี มีคุณภาพ เพื่อคุณ
FACEBOOK/BetterPharmacyCMG
LINE ID - BETTERCM
.....................
UPDATE 2016.07.23