Monday, December 24, 2012

ตกขาวมาจากไหน ?


KP Wellness

10:56  -  Public
ตกขาวมาจากไหน ?
ตกขาวแบบไหนที่ต้องไปพบหมอ ?
การทำออรัลเซ็กซ์จะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดตกขาวไหม ?
เผลอรับประทานตกขาวเข้าไประหว่างปฏิบัติการ จะเป็นอันตรายไหม ?
จะล้างตกขาวด้วยน้ำยาสวนล้างดีไหม ?
Withun Dechabun originally shared this post:
คุยกันเรื่องตกขาว »
http://slimfastter.com/index.php/2011-11-24-00-46-33/761-2012-07-18-02-52-33.html)

KP Wellness

10:53  -  Public
สาระดีดี originally shared this post:
โรคยอดฮิตของผู้หญิง
          เปิดโลกทางนรีเวช ปัญหาหลักของคุณผู้หญิงที่ควรรู้ และค้นหาคำตอบโรคฮอตฮิตที่พบได้บ่อย พร้อมกับวิธีสังเกตเบื้องต้นว่า คุณกำลังอยู่ในกลุ่มเสี่ยงโรคใดหรือไม่

        ช่องคลอดอักเสบ (Vaginitis) เกิดขึ้นบริเวณภายในช่องคลอด (vagina) และปากช่องคลอด(vulva)

         อาการที่พบบ่อย คือ อาการตกขาวผิดปกติ คันกลิ่น ตกขาวปนเลือด แสบร้อนในช่องคลอด ซึ่งการวินิจฉัยโรคสามารถทำโดยการตรวจภายใน ร่วมกับการนำตกขาวไปตรวจ เพื่อหาสาเหตุของเกิดช่องคลอดอักเสบ ว่ามีที่มาจากเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรีย เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง เนื่องจากการรักษาแต่ละสาเหตุมีความแตกต่างกัน ซึ่งสามารถแบ่งได้โดยสังเขป ดังนี้
        - ตกขาวจากเชื้อรา เกิดจากความอับชื้น โดยตกขาวชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นแป้ง และมีอาการคันบริเวณช่องคลอด
        - ตกขาวจากเชื้อแบคทีเรีย ตกขาวจะมีกลิ่นเหม็นคาว หรือมีกลิ่นภายหลังมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น

         ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดช่องคลอดอักเสบ คือ การสวนล้างช่องคลอด การใช้แผ่นอนามัย การใส่กระโปรง หรือกางเกงรัดรูป เนื่องจากจะทำให้ขาบีบชิดกันมากเกินไป ผู้ที่รับประทานยาแก้อักเสบบ่อยๆ หรือผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ ก็จะส่งผลให้สภาพแวดล้อมในช่องคลอดเกิดความเปลี่ยนแปลงไปจึงเกิดตกขาวได้ง่าย เป็นต้นCollapse this post

KP Wellness

10:53  -  Public
MORSENG BANGKOK originally shared this post:
*ตกขาวผิดปกติ*
      บางครั้งผู้ป่วยมีตกขาวเพิ่มขึ้น ถือว่าไม่ใช่ตกขาวที่มีอยู่ตามปกติ ผู้ป่วยมักจะมีอาการคัน หรือปวดแสบปวดร้อน ตกขาวมีกลิ่นเหม็น ที่สำคัญอาการจะไม่หายไปเอง สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการอักเสบติดเชื้อ รองลงมาได้แก่ เนื้องอก ซึ่งหากเกิดจากเนื้องอกแล้วมักจะมีเลือดปนด้วย บางรายเกิดจากสิ่งแปลกปลอม เช่น การใส่วัตถุหรือวัสดุต่างๆ เข้าไปในช่องคลอด ผ้าอนามัยชนิดสอดช่องคลอด หรือถุงยางคุมกำเนิด เป็นต้น เชื้อโรคที่ทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อ เกิดจากเชื้อราเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อราชื่อ Candida albicans รองลงมาพบว่าเกิดจากพยาธิ Trichomonas vaginalis และเชื้อแบคทีเรียบางชนิด ระยะหลังพบตกขาวที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดที่ไม่อาศัยออกซิเจนที่มีชื่อเรียกว่า Garnerella vaginalis ดังนั้นการรักษาจึงขึ้นกับเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุ แพทย์จะทำการตรวจภายในและนำตกขาวมาตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ ซึ่งจะพบลักษณะเฉพาะของการติดเชื้อแต่ละชนิดหรือย้อมสีเพิ่มเติมเพื่อตรวจหาเชื้อก่อเหตุ จากนั้นจึงพิจารณาใช้ยาฆ่าเชื้อโรคเพื่อบำบัดรักษาการอักเสบติดเชื้อ ซึ่งยาที่ใช้มีได้หลายชนิด ทั้งชนิดสอดช่องคลอด ชนิดรับประทาน หรืออาจพิจารณาให้ยาทาภายนอกร่วมด้วยตามความเหมาะสม Collapse this post

KP Wellness

10:44  -  Public
สาระดีดี originally shared this post:
ภัยเงียบตกขาวถึงขั้นมะเร็ง แนะวิธีสังเกตก่อนอาการลุกลาม
โดยปกติเรามักพูดถึงตกขาวในแง่ติดเชื้อเป็นหลักซึ่งเป็นสิ่งที่พบบ่อย แต่ครั้งนี้ตนขอพูดถึงเรื่องราวของตกขาวที่ถูกมองข้ามมาช่วยเสริมไว้ถือเป็นภัยเงียบคือ

1.ก่อเกิดโรคมะเร็งได้ในรายของคนที่มีตกขาวผิดปกติ แต่งงานตั้งแต่อายุน้อยและตกขาวปนเลือดด้วยให้ระวังมะเร็งปากมดลูกไว้ให้ดี บางท่านมีเชื้อไวรัส HPV ด้วยจากที่เคยเป็นหูดยิ่งมีสิทธิ์เป็นตกขาวมะเร็งได้

2. ไม่มีฮอร์โมน ในท่านที่ถูกตัดมดลูกและรังไข่ไปอาจทำให้ตกขาวผิดปกติในแง่ที่แห้ง ไม่มีทั้งตกขาวและน้ำหล่อลื่นทำให้เกิดอาการเจ็บคันได้ ให้สังเกตจากปริมาณตกขาวที่เปลี่ยนไปและอาการคันแห้งผิดปกติ

3.โดนท่อปัสสาวะ อาการทางเดินปัสสาวะอักเสบเข้ามาร่วมด้วยได้มากจากตกขาว เพราะถ้าเป็นตกขาวติดเชื้อจะมีการปนเปื้อนในท่อปัสสาวะที่อยู่ใกล้ๆได้อย่างสบาย รายที่เป็นจะมีทั้งตกขาวและปัสสาวะบ่อยทีละน้อยเหมือนไม่สุด

4. สะอาดเกิน ล้างมากไป ใช้ทั้งน้ำยาและน้ำฉีดเกิดระคายเคืองต่อมดลูกทำให้เกิดตกขาวมาก หรือบางรายก็มีกลิ่นอับๆได้จากเชื้อฉวยโอกาสที่เข้ามาเวลาที่เราฆ่าเชื้อดีๆเสียจนหมด

5.พยาธิเดินไช ในตกขาวมีได้ทั้งเชื้อรา,แบคทีเรียและพยาธิ โดยชนิดที่พบก็คือ “ทริโคโมแนส(Trichomonas)” ทำให้ตกขาวมีฟอง มีกลิ่นและคันภายใน

6.ได้ชีวิตใหม่ ในคุณแม่ตั้งครรภ์จะมีตกขาวได้เป็นเรื่องธรรมดา ตราบใดที่ตกขาวนั้นยังไม่คัน มีกลิ่นอับหรือสีเปลี่ยนเป็น เขียวๆเหลืองๆแดงๆ ฉะนั้นการตกขาวที่ประจำเดือนไม่มาหรือมาผิดปกติก็ขอให้ท่านนึกถึงการตั้งครรภ์เอาไว้ด้วย

7.ใส่กางเกงฟิต ฤทธิ์ของกางเกงยีนรุ่นใหม่หรือกระโปรงเอวต่ำไปทำให้ภายในอับจนตกขาวออกมาได้

8.ชีวิตไม่พัก ท่านที่ตรากตรำทำงานหนักร่างกายเหนื่อยล้าต้องนอนดึกตลอดจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดตกขาวผิดปกติได้ บางทีเป็นเชื้อง่ายๆอย่างยีสต์ธรรมดา แต่ว่าก็สร้างความรำคาญให้ได้ไม่น้อย

9.รักของหมักดอง การรับประทานอาหารจำพวกหมักดองต้องเพลาลงบ้าง เพราะในอาหารหมักดองและซีฟู้ดส์มีสารเคมีกระตุ้นตกขาวเกิดปฏิกิริยาอักเสบระคายเคืองในร่างกาย ท่านที่มีตกขาวลองสังเกตดูว่าเกิดหลังจากกินส้มตำปลาร้าหรือว่าผลไม้ดองของโปรดหรือเปล่า

10.ต้องนอนกับแฟน การมีเพศสัมพันธ์เป็นเหตุหลักประการหนึ่งของตกขาว คู่แต่งงานใหม่ฝ่ายภรรยาอาจเจอตกขาวได้ หรือในคู่สมรสกันมายาวนานถ้าอยู่ๆมีตกขาวก็ต้องนึกถึงเรื่องโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้ แต่อย่าเพิ่งไปปรักปรำนะให้ลองเข้ารับการตรวจย้อมเชื้อดูก่อน ส่วนท่านที่เป็นตกขาวแล้วก็ขอให้เลี่ยงเพศสัมพันธ์ไว้ก่อนได้เป็นดีที่สุด

นอกจากนี้คุณผู้หญิงควรระลึกไว้เสมอว่า ถ้ามีของใหม่ที่ผิดปกติไปจากเดิม ก็ต้องระวังมานั่งหาสาเหตุกันแล้วว่าเกิดจากอะไร อย่าคิดว่าไม่เป็นไร เช่นแต่ก่อนตกขาวใสๆ ธรรมดา อยู่มามีตกขาวสีขุ่น หรือไม่เคยมีกลิ่นแล้วมามีกลิ่นดูให้ดีนะคะCollapse this post


KP Wellness

12:02  -  Public
สาระดีดี originally shared this post:
วิธีเอาชนะกลิ่นอับในจุดซ่อนเร้น
       เรื่องกลิ่นเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับสาวๆทุกท่านและยิ่งเป็นกลิ่นในที่ ซ่อนเร้นแล้วเราต้องรักษาสุขภาพและความงามอยู่เสมออย่าทำหน้าแดง หรือหันหน้าหนี ที่เอาเรื่องตรงนั้นมาบอกเล่าให้ฟัง เพราะความเป็นจริงแล้ว อวัยวะเพศก็คืออวัยวะหนึ่ง ของร่างกายที่ควรได้รับการดูแลไม่แพ้ใบหน้า
       ดังนั้นไม่ต้องอาย เพราะคนที่อายทำเมินเฉยต่ออวัยวะเพศจนเกิดปัญหา ติดโรคเพราะดูแลไม่ดีมาหลายรายแล้ว โดยเฉพาะเรื่องกลิ่น ถ้าใครมีล่ะก็ ฟังทางนี้เลย ปกติแล้ว อวัยวะเพศของเราจะไม่มีกลิ่นรุนแรงนะคะ จะมีก็แค่น้อยๆ เท่านั้น ถ้ามีกลิ่นรุนแรง ขอให้สังเกตต่อด้วยว่า…
         1. มีอาการตกขาวที่มีสีเหลืองอ่อนๆ หรือมีฟองเหนียวๆ ไหม
         2. มีอาการคันหรือเปล่า
         3. ก่อนหน้านี้เคยมีปัญหากลิ่นรุนแรงแบบนี้หรือเปล่า
       ถ้า เป็นไปตามที่บอกมา ขอให้รับรู้เลยว่า เรากำลังเกิดอาการผิดปกติค่ะ ต้องไปพบคุณหมอ เพราะอาจกำลังเกิดเชื้อราตรงบริเวณนั้นก็ได้นะจ๊ะนอกจากนี้แล้ว ขอแนะนำวิธีการดูแล ส่วนนั้นของเราให้สะอาด ปราศจากกลิ่นดังนี้เลยจ้า
      1. ไม่ต้องโกนขนตรงนั้น เพราะมีหน้าที่ป้องกันไม่ให้กลิ่นจากภายในออกมาเหม็นไปทั่ว นอกจากไม่โกนแล้ว ไม่ควรดึง ถอน หรือทำสีด้วยนะ เต็มที่ก็แค่ให้ตัดแต่งได้นิดๆ หน่อยๆ จ้า
      2. ล้างส่วนนั้นด้วยน้ำอุ่นสะอาด อาจใช้สำลีชุบน้ำอุ่นช่วยได้บ้าง
      3. สบู่สำหรับล้างตรงส่วนนั้น ให้ใช้ได้แต่ไม่บ่อยนัก เพราะสบู่จะไปฆ่าแบคทีเรียชนิดดีที่ ช่วยรักษาส่วนนั้นของเราจนตายไปหมด อาจจะทำให้ติดเชื้อง่าย หรือมีกลิ่นรุนแรงขึ้น
      4. หลังล้างตรงส่วนนั้นแล้วใช้ผ้าขนหนูซับเบาๆ ห้ามถูแรงๆ
      5. เมื่อมีประจำเดือน ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ
      6. สวมกางเกงชั้นในที่สะอาด ผ้านุ่ม สบาย และไม่อับชื้น

KP Wellness

11:50  -  Public
ตกขาวปกติจะมีลักษณะเป็นมูกใสๆ หรือขาวขุ่นคล้ายนม ไม่มีตกขาวเป็นก้อนหรือมีสีครีม สีเหลือง สีเขียว ไม่มีลักษณะคล้ายหนอง ไม่มีเลือดออกมาเจือปน อาจมีกลิ่นอ่อนๆ หรือไม่มีกลิ่น
ประเภทกลิ่นเหม็นบูด เหม็นเปรี้ยว เหม็นเขียว เหม็นคาว เหม็นเน่านั้น ถือว่าเป็นตกขาวไม่ปกติทั้งสิ้น
ทั้งตกขาวปกติอาจจะมีตกขาวร่วมกับการปวดปีกมดลูกจากไข่ตกได้ แต่ต้องไม่มีไข้ ไม่มีปัสสาวะแสบขัด ไม่มีอาการคัน แสบ ปวด ร้อน อวัยวะเพศ
นอกจากนั้นตกขาวปกติมักจะไม่มีมากตลอดเวลา แต่มีมากในสองช่วงเวลาคือ ในช่วงไข่ตก และช่วงก่อนเป็นประจำเดือน
Thanakrit Kokaeowichian originally shared this post:
ตกขาว!!! เป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์หรือไม่ : ศุกร์กับเซ็ก มีคำตอบให้ค่ะ ... 
ตกขาวเป็นสัญญาณการตั้งครรภ์หรือไม่ คมชัดลึก : ไลฟ์สไตล์ : ข่าวทั่วไป »
ศุกร์กับเซ็กส์:ตกขาวเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์หรือไม่:พญ.ชัญวลีศรีสุโขchanwalee@srisukho.com

KP Wellness

11:07  -  Public
สาระดีดี originally shared this post:
9 สัญญาณ บอกโรคจากประจำเดือน

1. ประจำเดือนสีเข้มจัด ออกน้อย มีอาการเหนื่อยง่ายเวลาต้องออกแรง อ่อนเพลียกว่าปกติ เวียนศีรษะ อาจบ่งบอกว่าเป็นสัญญาณของโรคโลหิตจางได้

2. ประจำเดือนออกมาเป็นลิ่มเลือดคล้ายเลือดหมู มีเลือดออกภายในค่อนข้างมาก อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า กำลังอุ้งเชิงกรานอักเสบ

3. มีกลิ่นผิดปกติ คัน เจ็บแสบในช่องคลอด ถ้าร่วมกับมีอาการตกขาว แสดงว่าตกขาวจากเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา พยาธิในช่องคลอด หรือติดเชื้อในมดลูก มีอุ้งเชิงกรานอักเสบ

4. ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอไม่ปกติ ให้สังเกตว่า มีอาการปวดศีรษะเรื้อรัง ตามืดมัวลงเรื่อย ๆ มีหนวดและขนขึ้นผิดธรรมชาติ น้ำนมออกผิดปกติ ถ้ามีอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์ เพื่อตรวจหาเนื้องอกของรังไข่ หรือตรวจหาความผิดปกติของต่อมหมวกไตหรือต่อมใต้สมอง

5. ประจำเดือนมาน้อยและมีอาการอ่อนเพลีย เฉื่อยเนือย เต้านมแฟบ ขนรักแร้และขนที่อวัยวะเพศร่วง อาจจะเคยตกเลือดอย่างรุนแรง หรือเป็นลมขณะคลอดบุตร ควรพบแพทย์ เพื่อตรวจหาโรคซีแฮน หรือโรคที่ต่อมใต้สมองขาดเลือด ทำให้ทำงานน้อยลงและทำให้รังไข่ทำงานน้อยลงด้วย

6. ประจำเดือนมามากจนมีอาการซีด ควรไปพบแพทย์ แต่ที่ไม่ควรนิ่งนอนใจ คือถ้าเลือดที่ออกมามีกลิ่นเหม็น และมีอาการปวดบริเวณท้องน้อย ต้องระวังเรื่องปีกมดลูกอักเสบ

7. ประจำเดือนมามากร่วมกับมีอาการปวดประจำเดือน หรือรู้สึกเจ็บเวลาร่วมเพศ และคลำพบก้อนที่ท้องน้อยอันนี้ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะอาจจะเป็นเนื้องอกในมดลูกได้

8. ปวดประจำเดือนมากจนหน้าซีดหน้าเซียว หรือยิ่งในวันท้าย ๆ ยิ่งปวดมากขึ้น อย่างนี้ควรจะไปตรวจโรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ หรือถุงช็อกโกแลตซีสต์ได้แล้วค่ะ

9. ประจำเดือนมานานผิดปกติเกินกว่า 7 วัน อาจเป็นตอนหลังคลอดใหม่ ๆ หรือหลังใส่ห่วงคุมกำเนิดก็ถือเป็นเรื่องปกติ ทำนองเดียวกับประจำเดือนที่ขาด ๆ หาย ๆ แล้วพอมาก็มามาก แต่ก็ไม่มีผิดปกติอื่น ๆ และไม่ได้ตั้งครรภ์ มักจะเป็นในช่วงที่อ้วนเกินไป เครียด ออกกำลังกายมากเกินไป

         ประจำเดือนเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างมาเพื่อผู้หญิงทุกคน หากเราหมั่นสังเกตสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้อย่างสม่ำเสมอและหมั่นดูแลตัวเองให้ดี ก็จะสามารถช่วยป้องกันโรคได้เป็นอย่างดีค่ะ

KP Wellness

10:59  -  Public
สาระดีดี originally shared this post:
ฝนตกอากาศชื้นระวังเชื้อรา
 สาว ๆ รู้ไหมว่า ในช่วงที่ฝนตกบ่อย ๆ การสวมใส่ชุดชั้นในที่อับชื้นอาจเป็นต้นเหตุทำให้เกิดเชื้อราในช่องคลอดได้ โดยเฉพาะการสวมใส่ชุดชั้นในที่ทำจากไนลอนที่ก่อให้เกิดความอับชื้นได้ง่ายยิ่งขึ้น

        สำหรับเชื้อราในช่องคลอดนี้มีทั้งแบบที่แสดงอาการและไม่แสดงอาการ ซึ่งนอกจากอาการคันแล้วอาจยังมีตกขาวร่วมด้วย แล้วรู้หรือไม่ว่า การกินยาปฏิชีวนะแบบไม่ถูกต้องและไม่จำเป็นนั้น ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดเชื้อราในช่องคลอดได้เช่นกันนะ

         เมื่อพูดถึงการรักษา ต้องบอกว่าเชื้อราในช่องคลอดนั้นสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็กลับมาเป็นซ้ำได้อีกเช่นกัน ดังนั้น หันมาป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นจะดีกว่า ซึ่งก็ทำได้โดยไม่สวมชุดชั้นในติดต่อกันเป็นเวลานานจนเกิดความอับชื้น และไม่ควรใส่แผ่นอนามัยตลอดเวลา นอกจากนี้ควรตรวจภายในเป็นประจำทุกปี เพื่อตรวจหาความเสี่ยงในการเป็นโรคต่าง ๆ ด้วย

KP Wellness

10:57  -  Public
สาระดีดี originally shared this post:
อาหารดองอร่อย..อันตราย!

ของดองรสจัดจ้านเป็นอาหารที่ถูกปากลูกผู้หญิงทุกระดับชั้น ไม่เว้นแม้กระทั่งฝรั่งมังค่าที่หลงมาเที่ยวเมืองไทย เราเลยต้องพาคุณมารู้จักกับอันตรายจากอาหารหมักดองกันด่วนจี๋ ก่อนที่คุณจะเผลอกินไปมากกว่านี้

อาหารหมักดองมีโซเดียมมาก ทำให้ลำไส้เกิดอาการเกร็ง ถ้ากินในช่วงที่มีประจำเดือนคุณจะปวดท้องมากกว่าปกติ โดยเฉพาะในช่วง 1-2 วัน แถมยังเป็นอาการปวดที่กินยาช่วยเท่าไรก็ไม่หายเสียทีด้วย

หลังจากกินของดองแล้วจะสังเกตได้ว่าจะมีตกขาวสีขุ่นๆ ออกมาและมีกลิ่นค่อนข้างแรงด้วย นั่นเพราะของดองร้อยทั้งร้อยมีน้ำตาลสูง และน้ำตาลก็เป็นอาหารชั้นดีของแคทีเรียในช่องคลอด ยิ่งกินมากแบคทีเรียก็ออกมาลูกออกหลานให้ร่างกายต้องกำจัดทิ้งในรูปของตกขาวนั่นเอง

คันที่จุดซ่อนเร้น เป็นอาหารจากการมีตกขาว ถ้ามีอาการนี้ควรทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นและเปลี่ยนกางเกงในตัวใหม่ทันที อย่างทิ้งไว้จนเกิดการหนักหมม เพราะนั่นจะเป็นต้นเหตุของมะเร็งปากมดลูก 




No comments:

Post a Comment