Saturday, August 11, 2018

โรคเริม - HSV

“โรคเริม” ใช้ยารักษาอย่างไร ให้หายไว :
Rama Square ช่วง สาระปันยา 8 ก.พ.61
https://www.youtube.com/watch?v=rmOmU70Ss74

เริมที่อวัยวะเพศ มีผลต่อชีวิตคู่ไหม อยากมีลูกแต่กลัว :
พบหมอรามา ช่วง Rama Update 5 มี.ค.61
https://www.youtube.com/watch?v=zkvAmr1AKpM

การรักษาและการปฏิบัติตัวผู้ป่วยโรคเริม
- โรคส่วนใหญ่ อาการไม่รุนแรง และหายเองได้ โดยเฉพาะเริมที่กลับเป็นซ้ำ ควรพักผ่อนและดื่มน้ำมาก ๆ
- ยาต้านไวรัสเช่น acyclovir ไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสที่แฝงตัวอยู่ในปมประสาทได้ การกินยาต้านไวรัสภายใน 48 ชั่วโมงหลังมีอาการนำ จะสามารถลดระยะเวลาการเกิดโรค ลดการแพร่เชื้อ และลดระยะเวลาเจ็บปวดได้ แต่เนื่องจากยามีผลข้างเคียงต่อไต รวมถึงต้องมีการปรับขนาดยาในผู้ป่วยที่มีการทำงานของไตบกพร่อง ผู้ป่วยควรมาพบแพทย์เมื่อเริ่มมีอาการเพื่อพิจารณาเรื่องยาต้านไวรัส
- การทายาต้านไวรัสมีประโยชน์น้อยโดยเฉพาะรอยโรคที่อวัยวะเพศ และอาจทำให้เกิดเชื้อดื้อยาได้
- ถ้าเริมเป็นซ้ำบ่อยมากกว่า 6 ครั้งต่อปีหรือเริมที่เป็นซ้ำอาการรุนแรง หรือ การเป็นซ้ำมีผลลดคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการรับประทานยาต้านไวรัสทุกวันเพื่อป้องกันเริมกลับเป็นซ้ำ

โรคเริม (Herpes simplex)
http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=35

Genital Herpes (HSV) (Thai)
http://www.mhcs.health.nsw.gov.au/publicationsandresources/pdf/publication-pdfs/7430/ssh-7430-tha.pdf

Prevention and Management of Genital Herpes
https://www.uspharmacist.com/article/prevention-and-management-of-genital-herpes
Photo

โรคเริม (Herpes Simplex)

ใช้ยาต้านไวรัสกิน เช่น Acyclovir, Famcyclovir, Valacyclovir ในการรักษาโรคเริมนี้อย่างได้ผลดี และมีแบบชนิดครีมทาด้วย ยาพวกนี้สามารถใช้ในการรักษาและกดการเป็นโรคซ้ำได้ด้วย

ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ 

    การติดเชื้อที่ตา การติดเชื้อไวรัสเริมที่กระจกตา ทำให้เกิดอาการปวดตา แสบตา เคืองตา น้ำตาไหลมาก ตาสู้แสงไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจจะก่อให้เกิดรอยแผลเป็นที่กระจกตาได้ และตาบอดได้ด้วย ปัจจุบันเรามียาในการรักษาเพื่อที่จะกำจัดเชื้ออย่างทันท่วงที เพื่อป้องกันการเกิดรอยแผลเป็นที่กระจกตาได้

    การติดเชื้อในระหว่างการตั้งครรภ์  ในผู้หญิงตั้งครรภ์ที่มีรอยโรคของเริมที่อวัยวะเพศ สามารถแพร่เชื้อให้ลูกได้ในระหว่างการคลอดทางช่องคลอด ซึ่งการติดเชื้อนี้ในเด็กทารกอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อ เด็กทารกได้ เพราะฉะนั้นมารดาที่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีเชื้อ นี้ หรือถ้าจำเป็นก็ควรใส่ถุงยางอนามัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงใกล้คลอด ในรายมารดาที่ใกล้คลอดแล้วมีรอยโรคเกิดขึ้นควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อหาแนว ทางในการป้องกันทารกต่อไป

    เด็กทารกสามารถติดเชื้อเริมได้ทางอื่นที่ไม่ใช่ทางการคลอด เช่น ติดเชื้อจากมารดา หรือพี่เลี้ยงที่กำลังเป็นโรคเริมที่ปากหรือผิวหนังอยู่ก็ได้

    เชื้อเริมสามารถก่ออันตรายถึงชีวิตได้ ในคนที่มีภูมิต้านทานของร่างกายต่ำเช่น ในคนที่เป็นโรคมะเร็ง เอดส์ คนที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ คนที่ป่วยหนักจากโรคอื่นๆ เป็นต้น


http://medicarezine.com/2012/03/herpes-simplex/
http://www2.samitivejhospitals.com/healtharticle_detail/เริม_1234/th
http://www.eccq.com.au/wp-content/uploads/2012/01/THAI_HERPES.pdf

ลักษณะเด่นของเริมคือกลุ่มของตุ่มน้ำคล้ายพวงองุ่นค่ะ แต่ละตุ่มก็มักจะเล็กๆ

1. ยาทาที่นิยมใช้ ได้แก่ Acyclovir จะได้ผลในด้านลดอาการปวด ทำให้ผื่นแห้งเร็วขึ้น ยาทาซึ่งมีส่วนผสมของ steroid ไม่ควรใช้เพราะแผลจะหายช้า

2. ยาชนิดรับประทาน ได้แก่ Acyclovir, Valacyclovir, Famciclovir นิยมใช้ในกรณีสำหรับผู้ที่มักจะกลับเป็นซ้ำได้บ่อย 


https://warts59.wordpress.com/tag/โรคเริมที่อวัยวะเพศ/
https://haamor.com/webboard/ห้องปรึกษาปัญหาสุขภาพทั่วไป/1757/?page=1
http://www.oknation.net/blog/DIVING/2008/08/30/entry-1
http://haamor.com/th/เริมที่อวัยวะเพศ/
http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=1086
http://writer.dek-d.com/ritos/story/viewlongc.php?id=465988&chapter=2
http://www.the-than.com/health/1/99.html

 โรคเริมในดวงตา

ผู้ป่วยมักมีอาการได้แก่ ปวดตา สู้แสงไม่ได้ ตามัว น้ำตาไหล ตาแดง เป็นต้น บางคนอาจเคยมีประวัติว่าเป็นโรคเริมที่ดวงตามาก่อน

การติดเชื้อครั้งแรกดังกล่าวข้างต้นว่าอาจไม่มีอาการใด บางรายหากมีอาการมักพบเป็นตุ่มน้ำที่บริเวณเปลือกตา

การติดเชื้อที่ชั้นผิวนอกมักหายได้ภายใน 3 สัปดาห์ แพทย์อาจให้การรักษาด้วยการขูดผิวกระจกตาที่ติดเชื้อออก ร่วมกับการให้ยาต้านไวรัส ซึ่งใช้ได้ทั้งยาหยอดหรือยากิน


    สำหรับการอักเสบติดเชื้อที่ชั้นเนื้อและชั้นในของกระจกตา นอกจากการให้ยาต้านไวรัสแล้ว อาจต้องให้ยาจำพวกสเตียรอยด์ร่วมด้วย ซึ่งแพทย์จะพิจารณาเป็นรายๆ ไป
    สำหรับภาวะกระจกตาเป็นแผลจากเส้นประสาทรับความรู้สึกเสื่อม การรักษาได้แก่ การให้น้ำตาเทียม การอุดท่อน้ำตา เป็นต้น
    ผู้ป่วยบางรายที่มีการติดเชื้อหรือการอักเสบเป็นซ้ำบ่อยๆ อาจต้องได้รับยาต้านไวรัสในระยะยาว

สำหรับการผ่าตัด ได้แก่การผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตากรณีที่กระจกตาขุ่นขาวจากแผลเป็นซึ่งเกิดจากการติดเชื้อหรือการอักเสบ หรือเป็นการผ่าตัดปิดกระจกตาที่บางจนทะลุ 

http://www.isoptik.com/isoptik/datas/eyecare1/eyecare31.php

ให้ระวังแมลงก้นกระดก อาการเป็นคล้าย เริม
http://www.takhli.go.th/webboard_detail.php?id=3015

แมลงก้นกระดก  หรือแมลงเฟรชชี่ 

พิษแมลงเฟรชชี่มีฤทธิ์เป็นกรด  หากมีแมลงชนิดนี้ 
มาเกาะตามผิวหนังให้รีบใช้สบู่ก้อนถูบริเวณที่แมลงเกาะ 
แล้วทิ้งไว้สัก 10 นาฑีจึงล้างออกเพื่อให้ด่างในสบู่ก้อน 
ลดอาการเป็นพิษของแมลง 

หากเผลอไปเกาเข้า แล้วเป็นรอยผื่นแดง 
ให้นำพญายอ  (ไม่มีหนาม) 
เคี้ยวแล้วพอกทิ้งไว้  ทำซ้ำกันวันละ 3-4 ครั้ง 
เป็นระยะเวลา 3-4 วันก็จะหาย 

ไม่เกิน 7วันแผลก็ตกสะเก็ด เมื่อแผลหายก็จะไม่เป็นแผลเป็น 
เคยโดนจนต้องไปให้หมอพ่น แผลยาวเป็นคืบ ให้หมอพ่นก็หายครับ 
วิธีจับง่ายสุดก็เอาน้ำยาล้างจานหยดไปที่ตัวแมลง 
ไม่เกิน 2 นาฑี หงิกครับแล้วใช้ทิชชูเช็ดทิ้งขยะ 

หมายเหตุ - ถ้าหาพญายอสดไม่ได้ ใช้พญายอครีมของอภัยภูเบศร์ หรือ ยาหม่องพญายอของอภัยภูเบศร์ แทนได้ ...
Photo
Photo
2013-10-16
2 Photos - View album

เริมที่อวัยวะเพศ มีผลต่อชีวิตคู่ไหม อยากมีลูกแต่กลัว ศ. พญ.ศศิโสภิณ เกียรติบูรณกุล ภาควิชาอายุรศาสตร์
https://www.youtube.com/watch?v=zkvAmr1AKpM

อุทาหรณ์ ลูกเป็นเริม เพราะจูบของแม่ : พบหมอรามา ช่วง Rama Update 17 พ.ค.61 (1/6) https://www.youtube.com/watch?v=YzmlgaUp3mc

ปัญหาที่ว่านี้มีอะไรบ้างคะ

1. เริมที่ปาก
2. ผื่นแพ้ที่ปาก
3. ริมฝีปากแห้งลอกขุย
4. ปากนกกระจอก
5. ริมฝีปากบวม
 
6. ผื่นแพ้ยาที่ปาก
7. ริมฝีปากดำคล้ำ
8. แผลร้อนในที่ปาก
9. มะเร็งที่ริมฝีปาก
10. ตุ่มนูนเล็กๆ ที่ริมฝีปาก ฯลฯ

http://www.inderm.go.th/inderm_sai/skin/skin99.html

เป็นโรคเริม กินยาอะไรดี
CDC กำหนดไว้ใน GUIDELINE ปี 2015 ว่าให้กิน
Acyclovir 400 mg วันละ 3 ครั้ง นาน 7–10 days

อาหารเสริมเพิ่มภูมิต้านทานมีอะไรบ้าง
LYSINE, PROPOLIS, ZINC (30 มิลลิกรัม เช้า เย็น)

นอกจากนี้ก็มี
วิตะมินซี 1000 มิลลิกรัม วันละครั้ง
วิตะมินบีรวม 50 มิลลิกรัม วันละครั้ง

งดเหล้า น้ำตาล อาหารที่เป็นกรดพวกส้ม มะเขือเทศ
จำกัดอาหารทีมีอาร์จินีนสูง เช่น แป้งขัดสี ชอกโกแลต

https://www.cdc.gov/std/tg2015/herpes.htm
http://umm.edu/health/medical/altmed/condition/herpes-simplex-virus
https://draxe.com/how-to-get-rid-of-herpes/

เป็นเริม​ งดสัมผัสกับผู้ที่มีภูมิคุ้มกัน​ต่ำ​

Doctor B

วันนี้เป็นเรื่องโรคทางผิวหนังที่เรียกว่าเจอได้บ่อยค่ะ คือ เริม เพื่อไม่ให้ผู้อ่านบอกว่ายาวจัง ขอเริ่มเป็นแบบหัวข้อๆที่ควรทราบนะคะ ไม่ถึงกับยาวมากค่ะ แต่สั้นกว่านี้ลำบากเพราะก็เป็นเนื้อหาที่ควรทราบค่ะ ถ้าผู้อ่านได้อ่านและเล่าให้เพื่อนฝูงหรือญาติฟังก็จะเป็นการช่วยกันลดการแพร่กระจายและได้บุญนะคะ ทนอ่านนิดนึงนะคะ
smile emoticon

(คำอธิบายรูปแต่ละรูป อยู่ที่ Comment แรกของรูปนั้นๆ กดที่รูปเพื่ออ่านคำอธิบายรูปนะคะ)

เริมเป็นโรคติดเชื้อไวรัส มี 2 ชนิดใหญ่ๆ (แบ่งตามตำแหน่งที่เป็น) คือ (จะพูดรวมกันเพราะ มีลักษณะที่คล้ายกันค่ะ)

1. เริมที่ริมฝีปาก (Herpes simplex labialis, ,cold sores มักเกิดจากเชื้อไวรัส HSV1 )
2.เริมที่เกิดขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ( Herpes simplex genitalia,มักเกิดจากเชื้อHSV2 ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นซ้ำได้บ่อย จริงๆแล้วสามารถเกิดจาก HSV1 ได้ด้วยค่ะ ) ไม่มีรูปแสดงให้ดูนะคะ เพราะจะไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่ แต่ลักษณะตัวผื่นก็มีลักษณะคล้ายกัน แค่เปลี่ยนบริเวณที่เป็นค่ะ

เริม เป็นการติดเชื้อไวรัสกลุ่ม herpes virus โดยอาการจะเกิดหลังได้รับเชื้อประมาณ 2-20 วัน (การได้รับเชื้อก็มาจากการสัมผัสที่ผิวหนังเช่นการจูบ จากผู้ที่กำลังมีอาการคือเห็นมีตุ่มน้ำ หรือบางครั้งก็ไม่แสดงอาการให้เราเห็น (คือคนแพร่เชื้อไม่มีตุ่มน้ำ แต่ผู้รับเชื้อก็มีอาการเป็นตุ่มน้ำได้ ส่วนการจะทราบได้อย่างไรว่าเรากำลังสัมผัสกับผู้มีเชื้อที่เค้าไม่แสดงอาการ คำตอบคือ ไม่สามารถทราบได้ค่ะ)

ลักษณะผื่น จะเป็นตุ่มน้ำใสถ้าชนิดที่เกิดขึ้นที่ปากก็จะเหมือนตามรูปที่ 2-4 ลักษณะตุ่มน้ำเป็นเหมือนพวงองุ่นน้ำใสๆ มีทั้งส่วนที่เป็นผิวหนังธรรมดาและขึ้นคาบเกี่ยวไปบริเวณริมฝีปาก จะเกิดริมฝีปากบน ,ล่าง หรือทั้งบนและล่าง และหลายจุดได้ด้วย

อาการ แรกๆก็จะมีอาการคันๆ บางคนก็แสบๆ ต่อมาตุ่มน้ำใสก็จะขุ่นขึ้นและเป็นสะเก็ดแห้งๆ ซึ่งใกล้จะหายในครั้งนั้นๆแล้วค่ะ (ตามรูปที่ 4 ค่ะ) ถ้าเป็นที่อวัยวะเพศก็มีอาการแสบเวลาปัสสาวะได้ นอกจากนี้ก็มีอาการบวมแดงที่ผิวหนังที่มีตุ่มน้ำได้ ส่วนอาการไข้ ปวดเมื่อยตามตัว จะเจอได้น้อย สรุปว่าส่วนใหญ่อาการไม่แย่มาก แต่ตุ่มน้ำไม่ค่อยน่าดู อาการจากการเป็นครั้งแรกสุดมักจะมีอาการมากสุด ส่วนอาการเวลาขึ้นซ้ำจะน้อยกว่า แต่อาจมีอาการเตือนก่อนเป็นตุ่มน้ำคือมีอาการรู้สึกแสบๆ แปล๊บๆบริเวณที่ตุ่มจะขึ้น (โดยทั่วไปก็ขึ้นบริเวณที่เคยเป็น )

การติดต่อ (อันนี้สำคัญมากค่ะ ในแง่การป้องกันด้วยค่ะ )

เริมที่ริมฝีปาก การได้รับเชื้อก็มาจากการสัมผัสที่ผิวหนังเช่นการจูบ จากผู้ที่กำลังมีอาการ หรือบางครั้งก็ไม่แสดงอาการให้เราเห็น (คือไม่มีตุ่มน้ำ แต่ผู้รับเชื้อก็มีอาการเป็นตุ่มน้ำได้ซึ่งผู้รับเชื้อไม่สามารถทราบได้ค่ะ เรียกว่า asymptomatic viral shedding) เริมที่ริมฝีปากมักจะหายภายใน 1 สัปดาห์

เริมที่อวัยวะเพศ ติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งก็มีผู้แพร่เชื้อซึ่งไม่ได้แสดงอาการให้เห็นได้ด้วย การแสดงตุ่มน้ำที่อวัยวะเพศเกิดขึ้น 4-7 วัน หลังมีเพศสัมพันธ์ โดยทั่วไปเริมที่อวัยวะเพศจะแห้งและหายช้ากว่าเริมที่ปาก คือประมาณ 2-3 สัปดาห์ ในการเป็นครั้งแรก( และในการเป็นซ้า ก็จะเป็นและหายได้ในระยะเวลาที่สั้นลง)

การป้องกัน ก็ยากเหมือนกันค่ะ ก็พยายามเลี่ยงสิ่งที่จะสัมผัสผิวหนังเช่นดื่มน้ำแก้วเดียวกันกับเพื่อน, ใช้ช้อนเดียวกันทานด้วยกัน,จูบปากในขณะที่แฟนมีตุ่มน้ำที่ปาก (แต่ถ้าคนแพร่เชื้อไม่มีตุ่มน้ำให้เห็น ก็ไม่ทราบค่ะ) ส่วนเริมที่อวัยวะเพศก็ต้องไม่มีเพศสัมพันธ์ในขณะที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเป็นตุ่มน้าอยู่ค่ะ

การรักษา ทางการแพทย์แผนปัจจุบัน(แบบที่หมอเรียนมา) เป็นการใช้ยาต้านไวรัสทั้งแบบทา และรับประทานค่ะ ( แต่จะไม่ได้แนะนำให้ไปซื้อยามาใช้เอง แนะนำว่าในการเป็นครั้งแรก ควรไปพบแพทย์และให้แพทย์วินิจฉัยชัดเจนก่อนว่าเป็นเริม เพราะก็มีผื่นแพ้บางชนิดเป็นลักษณะที่คล้ายกันได้และรักษาต่างกัน แต่ถ้าเคยเป็นแล้วขึ้นซ้ำ เคสก็มักจะทราบได้เองเพราะมีอาการต่างคล้ายกับที่เคยเป็น) ส่วนยาสมุนไพรหมอก็ไม่ได้เรียนมาและโดยส่วนใหญ่มักไม่มีงานศึกษาวิจัยติดตามผล ข้อดีข้อเสียในระยะยาว จึงไม่ขอ comment และรบกวนอย่า comment แนะนำกันในเฟสบุ๊คคลินิคหมอนะคะ เพราะจะกลายเป็นหมอรับรองไปด้วย ซึ่งหมอแจ้งแล้วนะคะว่าหมอไม่มีความรู้ด้านสมุนไพรค่ะ

การเกิดขึ้นซ้ำ พบว่าเมื่อหายรอยโรคที่ผิวหนังแล้ว เชื้อจะยังอยู่ในร่างกายของผู้นั้น โดยไปแอบตามปมประสาทแล้วบางช่วงก็เกิดขึ้นมาใหม่เอง เช่นผู้หญิงหลายคนเกิดตุ่มน้ำเวลาใกล้มีรอบเดือน บางครั้งก็ช่วงเครียด ,พักผ่อนน้อย

การป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำ มีงานวิจัยหลายอันที่เชื่อถือได้ว่าการให้รับประทานยาต้านไวรัสในครั้งแรกที่เป็นในวันแรกๆจะช่วยป้องกันการเกิดขึ้นซ้ำ ในครั้งต่อมา( แพทย์ที่ได้ตรวจและยืนยันว่าเคสนั้นเป็นจะเป็นผู้สั่งยา) ส่วนยาทาแบบครีมนั้นไม่ได้ป้องกันการขึ้นซ้ำ แต่ช่วยให้ตุ่มน้ำในครั้งนั้นๆแห้งลงเร็วขึ้นได้ เคยมีเคสผู้หญิงบอกกับหมอว่าคุณเค้าเป็นตุ่มน้ำบ่อยมากๆเวลามีรอบเดือน และยิ่งมีอาการคันมากในช่วงที่มีรอบเดือน ฉะนั้นการรับประทานยาก็สำคัญเพื่อช่วยลดโอกาสที่จะเป็นซ้ำซึ่งก็จะดีมากสำหรับคุณภาพชีวิตที่ไม่ต้องเป็นเรื่อยๆ (ท่านที่เคยเป็นหลายครั้งแล้ว การรับประทานยาก็อาจจะลดความถี่ของการเกิดขึ้นซ้ำ แต่ผลการรักษาไม่ดีเท่ากับเคสที่เป็นครั้งแรกแล้วได้ยารับประทาน) การรักษาสามารถทายาร่วมกับการรับประทานยาได้

.... ส่วนเริมที่อวัยวะเพศ ถือเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ชนิดนึง ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ นอกจากที่อวัวะเพศทั้งหญิงและชาย ในหลายคนก็จะมีลักษณะตุ่มนี้ที่รอบรูทวารหนักได้ด้วย

เคยมีคนถามว่าคล้ายแผลร้อนในมั้ย จริงๆก้ไม่คล้ายนะคะ ยกเว้นตุ่มน้ำแตกจนดูเป็นแผลตื้นๆก็อาจคล้ายกันได้ ลักษณะเด่นของเริมคือกลุ่มของตุ่มน้ำคล้ายพวงองุ่นค่ะ แต่ละตุ่มก็มักจะเล็กๆ (ตามรูปเลยค่ะ ดูรูปแล้วก็จะจำได้ค่ะ แล้วก็อ่านการติดต่อกับการรักษาก็โอเคแล้วค่ะ )

นอกจากนี้มีการเกิดเริมตั้งแต่แรกคลอดได้ โดยติดต่อจากสตรีที่ตั้งครรภ์คือคุณแม่เป็นเริมที่อวัยวะเพศแล้วคลอดบุตรทางช่องคลอดซึ่งบางทีถ้าถึงเวลาต้องคลอดและคุณแม่มีอาการตุ่มน้ำมากบริเวณช่องคลอด บางทีสูตินรีแพทย์ก็พิจารณาการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง เพื่อลดการเป็นในเด็กแรกคลอดซึ่งยังมีภูมิต้านทานไม่ค่อยดี เด็กจะมีอาการจะรุนแรงได้ค่ะ


https://www.facebook.com/DoctorBClinic/posts/937441956271264
Photo

 แนะนำให้ใช้น้ำมันมะพร้าวพรหมจรรย์ (virgin coconut oil) ทาไปบริเวณที่เป็นเริม ให้สกิดตุ่มน้ำใสๆให้แตกเอา กระดาษทิชชู่ซับแผล  แล้วใช้น้ำมันมะพร้าวทาบริเวณที่เป็น 2-3 ครั้ง แผลหายสนิท อยากจะบอกว่า 
 
    เป็นสุดยอดน้ำมันมหัศจรรย์ หลังจากที่เคยเป็นเริมมาเป็นเดือนกว่าจะหาย พี่ชายเพื่อนยังแนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหาร เช่น ข้าวโพด ถั่วเปลือกแข็งทุกชนิด เบียร์ เนย ช็อกโกแลต ซีเรียล เพราะโปรตีนที่มีแอลอาร์จินินสูง   เชื้อเริมชอบมาก
 
        ให้กินมันฝรั่ง ถั่วฝักยาว ผักต่างๆ ปลาทะเล น้ำมันปลา สาหร่ายทะเล น้ำมะพร้าวอ่อน ไข่ไก่ เพราะมีโปรตีนที่มี แอลไลซีนสูง เชื้อเริมไม่ชอบ
        ตั้งแต่ได้รับคำแนะนำโรคเริมที่เคยเป็นก็ห่างหายไปนาน ถ้าไปดื่มเบียร์ กับเพื่อนก็จะมีอาการ

https://www.gotoknow.org/posts/331254

ไม่ควรแปรงฟันก่อนมีoral sex ทั้งนี้เพราะการแปรงฟันจะทำให้เกิดบาดแผลถลอกเล็กๆน้อยๆที่ตามเหงือกซึ่งช่วยให้เชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น

ความเสี่ยงของผู้ถูกทำที่พบบ่อยที่สุดคือเป็นแผลเพราะถูกกัด(being bitten) รองลงมาก็คือติดโรคเริมถ้าผู้ที่ทำ oralsex ให้เป็นเริมที่ริมฝีปาก โรคเริมนี้อาจติดต่อได้ตั้งแต่ก่อนระยะที่เป็นตุ่มน้ำใสขึ้นมา ให้เห็นคือก่อนมีตุ่มน้ำใสบางคนจะเจ็บๆคันๆที่ริมฝีปากมาก่อนระยะนี้เชื้อ ไวรัสเริ่มติดต่อได้ดังนั้นจึงเป็นอันตรายสำหรับฝ่ายผู้ถูกทำเพราะไม่มี โอกาสทราบได้ว่าริมฝีปากนั้นมีเชื้อเริมแอบแฝงอยู่หรือไม่

www.kodhit.com/เตือน-ทำออรัลเซ็กซ์-เสี่ยงติดเชื้อได้

การรักษาในรายที่ติดเชื้อครั้งแรก ต้องให้การรักษาด้วยยาต้านไวรัส ส่วนในรายที่เป็นซ้ำ มักให้การรักษาตามอาการ โรคเริมสามารถควบคุมและรักษาได้ เมื่อเริ่มมีอาการของโรคเริม การดูแลแผลเริมอย่างถูกวิธีจะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น และลดโอกาสการแพร่กระจายไปถึงผู้อื่น

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1383020284

เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี (เด็กโตพบเป็นส่วนน้อย) ที่มาด้วยเรื่อง ไข้สูงเฉียบพลัน มีอาการ เจ็บคอ น้ำลายไหล งอแง ไม่กินนม ไม่กินข้าว เมื่อตรวจดูในช่องปากพบว่ามีแผลขาวบนพื้นแดงอักเสบ ทั้งบริเวณ กระพุ้งแก้ม เหงือก ภายในช่องปาก เพดานปากทั้งนอกและใน ด้านข้างทอนซิล ลิ้นไก่
ร่วมกับตรวจบริเวณ มือ เท้า หัวเข่าและก้น ไม่พบแผลหรือตุ่มใสของโรคมือเท้าปาก บอกได้เลยว่าเป็นโรคแผลเริมเต็มช่องปากหรือเหงือกและช่องปากอักเสบจากเชื้อเริม (Primary herpetic gingivostomatitis)

โดยเฉพาะที่บริเวณเหงือก หากมีการอักเสบ (Gingivitis) บวมแดง สีม่วงคล้ำ เลือดออกง่าย พบได้เฉพาะในโรคนี้เท่านั้น แตกต่างจากโรคมือเท้าปาก ที่มีแผลอักเสบคล้ายกันกระจายทั่วช่องปากได้เช่นกัน แต่ไม่มีการอักเสบของเหงือก

การดูแลรักษาโรคแผลในปากจากเชื้อเริมที่เป็นมากๆ
1.การรักษาเพิ่มเติมด้วยเครื่องเพิ่มความชื้นแบบละอองเย็น (Ultrasonic humidifier)
2.คำแนะนำในการดูแลรักษาคนไข้แผลในปากจากเชื้อไวรัสในเด็ก
2.1.สิ่งที่ทำให้แผลในปากเจ็บ และอักเสบมากขึ้นคืออาหารที่เป็นของแข็งและของร้อนๆ เช่น ข้าว นมร้อนๆ ห้ามรับประทาน
2.2.สิ่งที่ทำให้แผลในปากหายเจ็บ และอักเสบน้อยลงคืออาหารที่เป็นของเหลว น้ำและของเย็นๆ เช่น น้ำเย็นๆ นมเย็นๆ ไอสครีม ให้รับประทาน
2.3.แก้ภาวะขาดน้ำของเด็กจะช่วยทำให้แผลในปากหายเร็วขึ้น หายเจ็บ อาการทั่วไปดีขึ้น หายเพลียและซึมได้
2.4.ระยะแรกอาจต้องงดข้าวและนมก่อน แล้วให้รับประทานน้ำเกลือแร่เป็นผงผสมน้ำเย็นๆ รับประทานน้อยๆ บ่อยๆ เรื่อยๆ ทั้งวันทั้งคืน เมื่ออาการเจ็บแผลในปากดีขึ้น จึงรับประทานนมเย็นๆและไอสครีมได้ในภายหลัง

https://www.facebook.com/HandFootMouthDisease/videos/423042694546849/
https://www.facebook.com/HandFootMouthDisease/posts/304761069708346
https://www.facebook.com/HandFootMouthDisease/videos/304648699719583/
https://www.facebook.com/HandFootMouthDisease/posts/304639613053825

Update in Sexually Transmitted Diseases
LAST UPDATED ON 19 MAY 2015 BY วีรวิชญ์ พรวัฒนไกรเลิศ

1.โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ทำให้เกิดท่อปัสสาวะอักเสบ และปากมดลูกอักเสบ
Urethritis
Cervicitis

2.โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ทำให้เกิดแผลบริเวณอวัยวะเพศ
แผลริมอ่อน (Chancroid)เริมบริเวณอวัยวะเพศ (Genital HSV infection)
แผลริมแข็ง (Chancre / Syphilis)
ฝีมะม่วง (Lymphogranulomavenerum: LGV)
แผลกามโรคเรื้อรังที่ขาหนีบ (Granuloma inguinaleหรือ Donovanosis)

>>>>>>>>>>>

Chlamydial infection and non-gonococcal urethritis
Recommended regimens
Azithromycin 1 g orally in asingle dose หรือ
Doxycycline 100 mg orally twice a day for 7 days

หากผู้ป่วยตั้งครรภ์
Recommended regimens
Azithromycin 1 g orally in a single dose หรือ
Amoxycillin 500 mg orally three times a day for 7 days

>>>>>>>>>>>

Uncomplicated gonococcal infection
Recommended regimens
Ceftriaxone 250 mg IM in a single dose หรือ
Cefixime 400 mg orally in a single dose
ร่วมกับ
Azithromycin 1 g orally in a single dose หรือ
Doxycycline 100 mg orally twice a day for 7 days

>>>>>>>>>>>

แผลริมอ่อน
Azithromycin 1 g orally in a single dose หรือ
Ceftriaxone 250 mg IM in a single dose หรือ
Ciprofloxacin 500 mg orally twice a day for 3 days หรือ
Erythromycin base 500 mg orally three times a day for 7 days

>>>>>>>>>>>

เริมบริเวณอวัยวะเพศ
Acyclovir 400 mg orally three times a day for 7-10 days หรือ
Acyclovir 200 mg orally five times a day for 7-10 days หรือ
Famicyclovir 250 mg orally three times a day for 7-10 days หรือ
Valacyclovir 1 g orally twice a day for 7-10 days

Regimens for recurrent (episodic therapy)
Acyclovir 400 mg orally three times a day for 5 days หรือ
Acyclovir 800 mg orally twice a day for 5 days หรือ
Acyclovir 800 mg orally three times a day for 2 days หรือ
Famciclovir 125 mg orally twice daily for 5 days หรือ
Famciclovir 1000 mg orally twice daily for 1 day หรือ
Famciclovir 500 mg once, followed by 250 mg twice daily for 2 days หรือ
Valacyclovir500 mg orally twice a day for 3 days (Effective น้อยที่สุดโดยเฉพาะถ้าเป็น > 10 ครั้งต่อปี) หรือ
Valacyclovir1 g orally once a day for 5 days

หญิงตั้งครรภ์ที่มีประวัติติดเชื้อเริมบริเวณอวัยวะเพศบ่อยๆ แนะนำให้ยารักษาไปเลย โดยให้เริ่มยาที่อายุครรภ์ 36 สัปดาห์ ซึ่งยาที่สามารถใช้ในการรักษา คือ
Acyclovir 400 mg orally three times a day หรือ
Valacyclovir 500 mg orally twice a day

>>>>>>>>>>>

แผลริมแข็ง --- หาหมอจ้ะ

>>>>>>>>>>>

ฝีมะม่วง
Doxycycline 100 mg orally twice a day for 21 days

>>>>>>>>>>>

แผลกามโรคเรื้อรังที่ขาหนีบ
Azithromycin 1 g orally once per week
or 500 mg daily for at least 3 weeks and until all lesions have completely healed

ถ้าเป็นแผลแอฟทัส อาจให้อมและกลั้วน้ำยา วันละ 3-4 ครั้ง ในรายที่เป็นแผลขนาดใหญ่และเจ็บปวดรุนแรง แพทย์อาจให้กินยาสตีรอยด์-เพร็ดนิโซโลน เพื่อบรรเทาอาการอักเสบประมาณ 5-7 วัน ยานี้อาจมีผลข้างเคียงมากมาย ควรให้แพทย์เป็นผู้พิจารณาสั่งให้เท่านั้น

ในรายที่เป็นแผลเรื้อรังนานเกิน 3 สัปดาห์ ซึ่งอาจมีสาเหตุร้ายแรง อาจต้องตัดเอาชิ้นเนื้อตรงบริเวณแผลไปพิสูจน์ ถ้าเป็นมะเร็งอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัดหรือฉายรังสี

โรคนี้เป็นสิ่งที่สามารถวินิจฉัยได้ง่าย แต่อย่างไรก็ตาม อาการปากเปื่อยเป็นแผลยังอาจมีสาเหตุอื่นๆ เช่น

แผลที่เกิดจากการบาดเจ็บ เช่น ถูกแปรงสีฟันครูดหรือกระแทก ถูกฟันกัด ถูกฟันปลอมเสียดสี ควรบ้วนปากด้วยน้ำเกลือวันละ 2-3 ครั้ง และกินยาแก้ปวดถ้ารู้สึกปวด

แผลเริมขึ้นที่ปาก ในผู้ใหญ่จะขึ้นเป็นตุ่มน้ำใสๆ ขึ้นเป็นกระจุกเดียวตรงริมฝีปากภายนอก และเห็นเป็นตุ่มน้ำใสๆ ก่อนที่จะแตกเป็นแผล
ในเด็กเล็ก แผลเริมมักจะขึ้นในช่องปากทำให้มีแผลเปื่อยขึ้นทั่วปาก นอกจากนี้จะมีอาการเหงือกบวมแดง เด็กจะมีไข้ อ่อนเพลีย ต่อมน้ำเหลืองบริเวณใต้คางและข้างคอจะบวมและเจ็บ ควรรักษาด้วยการดื่มน้ำมากๆ บ้วนปากด้วยน้ำเกลือบ่อยๆ ทาแผลด้วยกลีเซอรีนโบแรกซ์

แผลมะเร็งในช่องปาก พบมากในวัยกลางคนขึ้นไป โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่กินหมาก จุกยาฉุน สูบบุหรี่ ดื่มเหล้าเพียวๆ ฟันเกหรือใส่ฟันปลอมที่ไม่กระชับ ทำให้เกิดแผลเรื้อรังที่ริมฝีปาก กระพุ้งแก้ม ลิ้น เหงือก หรือเพดานปาก นานเป็นแรมเดือนแรมปี โดยมากจะไม่รู้สึกเจ็บปวด แผลจะโตขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นก้อน บางคนในระยะแรกอาจเริ่มด้วยฝ้าขาวๆ หนาๆ คลำดูรู้สึกสากๆ ไม่เจ็บ ซึ่งจะเป็นอยู่นานเป็นแรมปีก่อนจะกลายเป็นก้อนมะเร็ง

http://www.bangkokhealth.com/health/article/แผลร้อนใน-1616

ยาครีม Acyclovir หรือ พญายอครีมค่ะ
ส่วนตัวเกิร์ลจะขอแนะนำตัวหลังคือพญายอครีมมากกว่า
เพราะการเป็นซ้ำครั้งหลังๆ Acyclovir cream อาจจะไม่ช่วยให้หายเร็วขึ้น
หากจะใช้ยา Acyclovir ก็ควรใช้ในรูปแบบยาเม็ดมากกว่า
-ถ้ามีอาการปวดก็ทานพาราเซตามอลบรรเทาอาการปวด

ยาสเตียรอยด์ ห้ามมมมมมมมมใช้รักษาเริมที่ปากนะคะทุกท่าน
มันจะทำให้อาการของคุณรุนแรงขึ้น แย่มากขึ้น

http://www.joyyim.com/2014/04/steroidherpes-labialis.html


KP150320

10 ปีที่ผ่านมา โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีแนวโน้มสูงขึ้น
แบ่งเป็น หนองใน จำนวน 6,731 ราย โรคหูดอวัยวะเพศและทวารหนัก 2,491 ราย โรคซิฟิลิส 2,369 ราย หนองในเทียม 1,981 ราย เริม 1,941 ราย แผลริมอ่อน 605 ราย และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ 17,192 ราย ขณะที่โรคเอดส์ มีรายงานผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการป่วย 25 จังหวัด รวม 1,671 ราย ปัจจัยเสี่ยงมาจากเพศสัมพันธ์มากที่สุดร้อยละ 84.20

เมื่อจำแนกโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สำคัญ กลุ่มที่มีอัตราป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สูงสุด คือ กลุ่มอายุ 15-24 ปี รองลงมาคือกลุ่มอายุ 25-34 ปี และ 35 ปีขึ้นไป อัตราส่วนการป่วยเพศชายมากกว่าเพศหญิงประมาณเท่าตัว

จังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยมากที่สุด คือ จ.ภูเก็ต รองลงมาคือ จ.ตราด ระยอง พิษณุโลก เชียงใหม่ จันทบุรี เชียงราย ศรีษะเกษ นครสวรรค์ และ จ.เพชรบุรี

http://hot.ohozaa.com/hot-5-15-165090

Triamcinolone Acetonide Dental Paste USP, 0.1%

ยาทาแผลในปาก

มีฤทธิ์ลดการอักเสบ แก้คัน และทำให้หลอดเลือดหดตัว โดยไม่ได้ฆ่าเชื้อโรคและไม่ได้แก้ปวด ใช้นิ้วป้ายยา ทาบางๆ วันละ 2-4 ครั้ง หลังอาหาร และ ก่อนนอน

ห้ามใช้ในช่องปากและลำคอที่เกิดจากเชื้อรา แบคทีเรีย ไวรัส เช่น อีสุกอีใส เริม งูสวัด วัณโรค
ผลข้างเคียงคือกดภูมิต้านทาน ถ้าใช้ไปนานๆ อาจเกิดเชื้อราในช่องปาก ถ้าทาแล้วไม่ดีขึ้นใน 2 สัปดาห์ ให้หยุดยา และไปพบทันตแพทย์ หรือ แพทย์

เนื่องจากยาทาในช่องปากจะมีการดูดซึมเหมือนการกินยา การใช้ในหญิงมีครรภ์ หญิงให้นมบุตร และเด็ก จึงควรพิจารณาระหว่างข้อดีและข้อเสียที่อาจจะเกิดขึ้น

เก็บยานี้ที่เย็น หรือ อุณหภูมิห้อง อย่าเก็บยาในช่องแช่แข็ง
ถ้าทิ้งไว้นานยาจะแข็งใช้ไม่ได้

ใช้ยาระวังพิษ รักชีวิตอย่าคิดลองยา
มีปัญหาเรื่องการใช้ยา โปรดปรึกษาเภสัชกร

https://www.drugs.com/pro/triamcinolone-paste.html
http://www.sukumvithospital.com/content.php?id=3
Photo

เป็นที่รู้กันว่า LYSINE - ARGININE จะต้านฤทธิ์กัน
โดย LYSINE จะต้านฤทธิ์ของ ARGININE ซึ่งเป็นส่วนประกอบของโปรตีนโรคเริมงูสวัส ดังนั้นเมื่อกินอาหารที่อุดมไปด้วย LYSINE ก็จะทำให้อาการดีขึ้น ในขณะเดียวกัน ถ้ากินอาหารที่อุดมไปด้วย ARGININE ก็จะทำให้อาการแย่ลง

อาหารที่อุดมไปด้วย LYSINE ก็อย่างเช่น เนื้อ นม ไข่ ปลา โยเกิร์ต ชีส แอปเปิล ลูกแพร์ อะโวกาโด สัปปะรด ถั่วเขียว แอสพารากัส

อาหารที่อุดมไปด้วย ARGININE ก็อย่างเช่น มะเขือเทศ วีทเจอร์ม มะม่วงหิมพานต์ องุ่น เมล้ดฟักทอง ถั่ว แบลคเบอรี่ บลูเบอรี่ ชอกโกแลต น้ำตาล

http://healthwyze.org/reports/370-how-to-eliminate-shingles-quickly-and-naturally-using-alternative-holistic-methods
http://www.anh-usa.org/herpes-why-is-conventional-medicine-ignoring-the-obvious-solution/
Photo

ยา 10 ชนิดที่ทำลายไต
ยาฆ่าเชื้อ ciprofloxacin ยาซัลฟา เพนนิซิลลิน และยาล้างไต Rifampicin
ยาแก้ปวดกลุม NSAID เช่น บรูเฟน โกเฟน นูโรเฟน โซพรอกเซน
ยากลุ่ม COX-2 inhibitors เช่น Celebrex, ARCOXIA
ยาลดกรดกลุ่ม PPI เช่น MIRACID, Nexium, PREVACID
ยาฆ่าเชื้อไวสัส เช่น ยารักษาโรคเริม งูสวัส HIV
ยาลดความดันกลุ่ม ACEI เช่น captopril Enalapril Lisinopril
ยาแก้ปวดข้อรูห์มาตอยด์ SLE
ลิเทียม รักษาโรคไบโพล่าร์
ยากันชัก เช่น phenytoin
ยาเคมีบำบัด อินเตอร์ฟีรอน ยาต้านไทรอยด์

>>>>>>>>>>>>
http://www.empowher.com/kidney-failure/content/top-ten-drugs-cause-kidney-damage
Drug Prescribing in Renal Impairment
http://patient.info/doctor/drug-prescribing-in-renal-impairment Drug-Induced Nephrotoxicity
http://www.aafp.org/afp/2008/0915/p743.html







ด้วยความห่วงใย
.....................
BETTER PHARMACY เจ็ดยอด เชียงใหม่
เราคัดสรรสิ่งที่ดี มีคุณภาพ เพื่อคุณ

FACEBOOK / BetterPharmacyCMG
LINE ID - BETTERCM
.....................




UPDATE  -  2018.08.11

No comments:

Post a Comment