Wednesday, August 10, 2016

เก๊าท์

Better Pharmacy Chiang Mai

Shared publicly  -  17:16
 
พี่ปูมีอาการปวดเท้าข้างขวาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ และที่เท้าข้างขวาก็มีอาการบวมแดง คุณหมอตรวจเลือดเมื่อเช้า ผลออกมาค่ากรดยูริกสูง
1
Add a comment...

Better Pharmacy Chiang Mai

Shared publicly  -  17:16
 
เก๊าท์มีสาเหตุจากกรดยูริคเกิน และระบบของร่างกายผิดปกติ ทำให้มีการสะสมของกรดยูริคในเซล จนกระทั่งล้นออกมาในเลือด ดังนั้นถ้ากินอาหารที่สลายให้กรดยูริค ก็ต้องเป็นเก๊าท์แน่นอน อย่างเช่น ตับ เครื่องในสัตว์ ปลากระป๋อง
เหล้า เบียร์ ก็จะแย่งการขับกรดยูริคออกจากร่างกาย ถ้ากินเหล้า เบียร์ก็จะทำให้ปวดเก๊าท์ แต่ถ้ากินไวน์ก็ไม่เป็นไร
ควบคุมน้ำหนัก ช่วยลดการเกิดเก๊าท์ได้ (ทำได้ยาก)
โรคที่เกี่ยวข้องกับเก๊าท์ ก็อย่างเช่น โรคไตเรื้อรัง ไขมันสูง ความดันเลือดสูง เบาหวาน

http://contemporaryclinic.pharmacytimes.com/chronic-care/5-gout-counseling-pearls-clinicians-should-share-with-patients
1
Add a comment...

Better Pharmacy Chiang Mai

Shared publicly  -  17:15
 
มักจะเริ่มมีอาการปวดในตอนกลางคืน และมักจะเป็นหลังจากดื่มแอลกอฮอล์ หรือหลังกินเลี้ยง หรือหลังกินอาหารมากผิดปกติ หรือเดินสะดุด

ถ้าไม่ได้รับการรักษาหรือควบคุมโรคให้ดี ในระยะแรก ๆ อาการอาจกำเริบทุก 1-2 ปี โดยจะเป็นที่ข้อเดิม แต่ต่อมาจะเป็นถี่ขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ทุก 4-6 เดือน แล้วเป็นทุก 2-3 เดือน จนกระทั่งเป็นทุกเดือน หรือเดือนละหลายครั้ง และระยะการปวดจะนานวันมากขึ้นเรื่อง ๆ เช่น กลายเป็น 7-14 วัน จนกระทั้งปวดนานขึ้นเป็นหลายสัปดาห์หรือปวดตลอดเวลา ส่วนข้อที่ปวดก็จะเพิ่มจากข้อเดียวเป็น 2-3 ข้อ เช่น ข้อมือ ข้อศอก ข้อเข่า ข้อเท้า นิ้วมือ นิ้วเท้า จนกระทั่งเป็นเกือบทุกข้อ

ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ อย่างน้อยวันละ 3 ลิตร เพื่อป้องกันนิ่วในไต
งดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด โดยเฉพาะยิ่งเบียร์
งดการบีบนวดตรงตำแหน่งที่เจ็บ เพราะยิ่งนวดจะยิ่งปวดและหายช้า
เมื่อมีอาการปวดให้ใช้น้ำอุ่นจัด ๆ หรือใช้น้ำแข็งประคบตรงข้อที่ปวด ประมาณ 20นาท

http://frynn.com/โรคเกาต์/
http://health.kapook.com/view17871.html
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9590000022307
http://www.beauty24store.com/โรคเก๊าท์-อาการของโรคเก๊าท์-วิธีดูแล-และอาหารที่ควรกิน/1368.html

แนวทางเวชปฏิบัติการดูแลรักษาโรคเกาต์ 2555
(Guideline for Management of Gout)
http://thairheumatology.org/attchfile/Guideline%20for%20Management%20of%20Gout.pdf
โรคเก๊าท์ โรคเกาต์ เกิดจากร่างกายมี กรดยูริค มากเกินไป ดังนั้นคนที่เป็น เกาต์ ควรเลือกทานอาหาร อาหารโรคเก๊าท์ ที่ควรทาน ไม่ควรทาน มีอะไรบ้าง ไปอ่านเรื่อง โรคเก๊าท์ กันเลย
1
Add a comment...

Better Pharmacy Chiang Mai

Shared publicly  -  17:14
 
เป็นเก๊าท์ให้กิน FISH OIL 2000 มิลลิกรัม พร้อมอาหาร เพื่อลดการอักเสบ (โดยเฉพาะ FISH OIL HIGH EPA)
โรคข้อและโรคภูมิต้านตัวเอง ให้กิน FISH OIL วันละ 3000-6000 มิลลิกรัม
ARTHRITIS FOUNDATION
USA

Purines are found in the meat of the fish but not in highly purified, molecularly distilled fish oil, so it should not affect your gout. I recommend everyone consume at least 2,000 milligrams (mg) per day of EPA and DHA (two fatty acids in fish oil crucial to human health). Those with autoimmune disorders and arthritis should consume 3,000 to 6,000 mg in divided doses with meals.


http://www.arthritis.org/living-with-arthritis/tools-resources/expert-q-a/gout-questions/fish-oil-gout.php
1
Add a comment...

Better Pharmacy Chiang Mai

Shared publicly  -  17:14
 
รู้ทันเกาต์ ป้องกันได้ | โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กรุงเทพ
https://www.youtube.com/watch?v=PNB0R6daW5U

Health club ตอนที่36 โรคเก๊าท์
ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
https://www.youtube.com/watch?v=S2xV8dRSmyQ

เป็นโรคเกาท์ควรกินอย่างไร
institute of nutrition mahidol university
https://www.youtube.com/watch?v=TgQfmgGmB6Y

Healthy Friday [by Mahidol] โรคเกาต์กับอาหารต้องห้าม
https://www.youtube.com/watch?v=xvTS6gP0NF8
1
Add a comment...

Better Pharmacy Chiang Mai

Shared publicly  -  17:14
 
admin เคยโพสต์เรื่อง asymtomatic hyperuricemia ไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ช่วงนี้ก็เหมือนเดิมเลยค่ะ ตรงกับช่วงการตรวจสุขภาพประจำปีของบุคลากรในโรงพยาบาลและข้าราชการทั่วไป ซึ่งยังมีคำถามคล้ายๆกับปีที่แล้วเลยค่ะ จึงขอนำมาลงอีกครั้งและเพิ่มข้อมูลให้ค่ะ

คำถามที่ admin เจอนั้น ได้แก่
1. พี่ตรวจสุขภาพประจำปี แล้วเจอ uric acid สูง พี่จะเป็น gout มั้ย
2. พี่ตรวจสุขภาพประจำปีของรพ. แล้วเจอ uric acid สูง พี่ต้องกินยาลดระดับ uric acid เลยมั้ย
3. พี่ตรวจสุขภาพประจำปี แล้วเจอ uric acid สูง พี่จะเป็นไตวายมั้ย
4. พี่ตรวจสุขภาพประจำปี แล้วเจอ uric acid สูง พี่ต้องทำยังไง
และอีกหลายคำถามที่คล้ายๆแบบนี้เกี่ยวกับการตรวจสุขภาพประจำปีแล้วพบว่า serum uric acid สูงกว่าค่ามาตรฐานจากห้องปฏิบัติการของรพ.

ขอสรุปเนื้อความเป็นประเด็น ดังนี้ค่ะ
1.hyperuricemia ไม่ได้เท่ากับเป็น gout ค่ะ ย้ำเลยนะคะ**** เนื่องจาก uric acid ในร่างกายสูงขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น
-ผู้หญิงหมดประจำเดือนตามวัย หรือมีปัญหาที่ทำให้ร่างกายขาด Estrogen เช่น ถูกตัดรังไข่ออกทั้ง 2 ข้าง ได้ยากดการทำงานของรังไข่ เช่น cyclophosphamide ทำให้ร่างกายเริ่มมี uric acid สูงขึ้น ดังนั้นผู้หญิงที่มีการทำงานของรังไข่ปกติ และมี estrogen ตามปกติ จะไม่มีปัญหา hyperuricemia เพราะ estrogen มีฤทธิ์เป็น uricosuric effect ช่วยขับ uric acid ออกทางไต ทำให้ผู้หญิงไม่เป็น gout หากยังมีประจำเดือนอยู่ตามปกติ
-ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่างที่โรคนั้นๆมีผลทำให้ cell turnover rate มากกว่าปกติหรือมีโรคที่ทำให้การขับ uric acid ออกทางไตลดลง จะทำให้มี uric acid ในเลือดสูงได้ เช่น thalassemia, psoriasis, myeloproliferative disorder, CKD
-ผู้ที่ได้รับยาบางอย่าง ตามตัวย่อที่เคยโพสต์ไว้ค่ะ "CAN'T LEAP" (cyclosporin, ASA low dose< 2 g/d, Nicotinic acid, Thaiazide, Lasix, Ethambutol, Alcohol, Pyrazinamide)

ดังนั้นหากตรวจเจอ uric acid สูงในเลือด อย่าพึ่งวิตกกังวลว่าจะเป็น gout นะคะ ลองทบทวนสาเหตุเบื้องต้นดูค่ะ บางสาเหตุแก้ไขได้ เช่น การดื่มสุรา การใช้ thaiazide การควบคุมโรคที่ส่งผลกับ uric acid แต่บางสาเหตุแก้ไขไม่ได้ก็ใช้วิธีติดตามค่ะ

2.การตรวจพบ uric acid สูงในเลือด หากมีอาการข้ออักเสบที่พิสูจน์แล้วว่าเป็น gout แล้ว ณ ปัจจุบันมีข้อบ่งชี้การให้ uric lowering agent แค่ 4 ข้อ ดังนี้ค่ะ
-gout attack มากกว่าเท่ากับ 2 ครั้งต่อปี
-CKD มากกว่าเท่ากับ stage 2
-ตรวจพบ tophi ทั้งจากการตรวจร่างกายและภาพถ่ายทางรังสี
-มีประวัติหรือยังเป็นนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ
หากมีข้อใดข้อหนึ่งให้เริ่ม uric lowering agent ได้เลยค่ะ โดยเลือก Allopurinol เป็นตัวแรกนะคะ หากไม่มีข้อห้ามใดๆ

3.การตรวจพบ uric acid สูงในเลือดมีโอกาสเป็นไตวายได้ค่ะ แต่ไม่ได้เจอได้บ่อยนัก ส่วนใหญ่จะมีโรคอื่นๆแทรกหรือได้รับยาบางอย่างที่จะทำให้การทำงานของไตแย่ลง หรือได้รับการรักษา gout ที่ไม่ถูกวิธี เช่น การให้แต่ NSAIDs ในผู้ป่วย gout ก็ทำให้การทำงานของไตแย่ลงได้ค่ะ

หากต้องเริ่มกิน uric lowering agent เป็น allopurinol แล้ว มีหลักในการเริ่มยานะคะ อย่าผลีผลามใจร้อนให้ขนาดสูงโดยเด็ดขาด (ต้องแยกจากประเด็นการให้ allopurinol ป้องกัน tumor lysis syndrome ที่ให้เต็มที่ 300 mg/d นะคะ) allopurinol มีขนาด 100 และ 300 mg ใช้หลักการ "START LOW, GO SLOW" ค่ะ นั่นคือเริ่มน้อยๆ หลายคนชอบถามว่าน้อยแค่ไหน หลักการง่ายๆคือ เริ่ม allopurinol ในขนาดประมาณ 1.5 เท่าของค่า GFR ในผู้ป่วยรายนั้นๆค่ะ เช่น คิด GFR ได้ 30 ก็เท่ากับ 45 mg ดังนั้นก็จะสั่ง allopurinol(100) 1/2 tab po OD แล้วติดตามระดับ uric acid ในเลือดว่าลดลงหรือไม่ในอีกประมาณ 2-4 สัปดาห์ค่ะ หากไม่มีอาการแพ้ยาหรือผิดปกติอื่นๆ ก็เพิ่มขนาดยาครั้งละ 25-50 mg ค่ะ โดยให้ผู้ป่วยกินยาเพียงวันละ 1 ครั้งได้นะคะ ขนาดสูงสุดที่ใช้ได้คือ 600-800 mg/d ค่ะ ไม่ต้องแบ่งมื้อ

คำถามถัดมาคือ เป้าหมายของ uric acid อยู่ที่เท่าไหร่ ต้องแบ่งเป็น 2 กรณีค่ะ
1. หากไม่มี tophi ตั้งเป้า uric acid น้อยกว่า 6 mg/dl
2. หากมี tophi แล้วตั้งเป้า uric acid น้อยกว่า 5 mg/dl
ซึ่งควรให้ต่ำกว่าเป้าหมายนานอย่างน้อย 6 เดือนโดยไม่มีโรคกำเริบเลยนะคะและtophi ต้องยุบหายไปด้วย แล้วห้ามหยุดยาค่ะ แนะนำว่ากินตลอดชีวิต แต่อาจลองลดขนาดยาลงได้ว่า uric acid จะสูงขึ้นอีกหรือไม่ค่ะ

หากแพ้ allopurinol อย่างรุนแรงก็หยุดใช้ทันทีค่ะ แล้วพิจารณาใช้ uricosuric agent ในไทยมี probenecid, sulfinpyrazone, benzbromarone ให้ใช้ค่ะ โดยผู้ป่วยต้องไม่มีนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ และต้องมี GFR มากกว่า 30 นะคะ

การส่งตรวจ HLA-B*5801 ปัจจุบันยังเสียค่าใช้จ่ายแพงค่ะและทางรัฐไม่ได้รับรองค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ตัว admin เองก็ไม่ได้ส่งตรวจค่ะ ใช้ใช้หลักการ "START LOW, GO SLOW" และแนะนำผู้ป่วยให้สังเกตว่าจะมีอาการแพ้ allopurinol หรือไม่ค่ะ โดยส่วนตัวการใช้วิธีนี้ยังไม่เคยเจอแบบแพ้ยารุนแรงเลยค่ะ

ผู้ป่วยที่แพ้ allopurinol เกือบครึ่งหนึ่งที่ส่งมาปรึกษา admin ไม่มีข้อบ่งชี้ที่ต้องกินยานี้เลยค่ะ แต่ได้กินเพราะความไม่รู้หรือเข้าใจว่ากันว่าตรวจพบ uric acid สูงแล้วต้องกินยา

ส่วนทางเลือกอื่น หากมีข้อห้ามการใช้ uricosuric agent แต่ต้องรักษา gout จะทำอย่างไร ก็จะมียาที่พึ่งเข้ามาในไทยค่ะ ชื่อ febuxostat เป็นกลุ่มเดียวกับ allopurinol คือ xanthine oxidase inhibitor แต่โครงสร้างทางเคมีแตกต่างกัน ดังนั้นถึงแพ้ allopurinol ก็ยังกิน febuxostat ได้ค่ะ ขนาดเม็ดละ 80 mg แต่ยังเป็นยานอกบัญชียาหลักแห่งชาตินะคะ ราคาก็หลายตังค์อยู่ค่ะ ประมาณ mg ละ 1 บาท

อีกประเด็นคือเมื่อผู้ป่วยเป็น gout แล้วต้องให้ uric lowering agent ในช่วงแรกจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับ uric acid ในเลือดทำให้มีการกำเริบของโรคได้ จึงต้องให้ colchicine prophylaxis ด้วยนะคะ ขนาด 1-2 เม็ดต่อวัน เมื่อคุมโรคและระดับ uric acid ตามเป้าและนิ่งแล้ว สามารถลดขนาดหรือหยุด colchicine ได้ค่ะ โดย colchicine เองไม่ได้ทำให้การทำงานของไตแย่ลงนะคะ แต่หากไตไม่ดีจะทำให้เกิด colchicine toxicity ได้ค่ะ

gout เป็นโรคที่รักษาหายได้ไม่ยากค่ะ ไม่ซับซ้อน นอกจากการใช้ยาต่างๆแล้ว ก็อย่าลืมลดน้ำหนัก งดสุรา งดบุหรี่ ดื่มน้ำให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอด้วยนะคะ และติดตามการทำงานของไต uric acid ทุกครั้งที่ผู้ป่วยมาตรวจติดตามค่ะ



อายุรศาสตร์ โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ (Internal Medicine, Uttaradit hospital)
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=873948282736388&id=201051706692719
1
Add a comment... 

Better Pharmacy Chiang Mai

Shared publicly  -  18:21
 
มีงานวิจัยมานานแล้ว ว่ากิน Grape seed คู่กับวิตะมินซี ช่วยลดการอักเสบในผู้ป่วยรูมาตอยด์ ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ และโรคเก๊าท์
ขมิ้นชันสกัด อบเชย ก็มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคเก๊าท์เทียบเท่ากับยา ALLOPURINOL

Bilberry
Celery seed
Grape seed extract
Turmeric
Quercetin
Alfalfa

Red grapes contain a bioflavonoid known as quercetin. This powerful antioxidant operates with Vitamin C to stimulate the immune system to fight infection, cancer, and inflammation and to relieve painful rheumatoid arthritis symptoms offering joint and muscle pain relief for gout and arthritis patients.

The seeds in grapes contain a substance called pycnogenols. Another antioxidant, pycnogenols aid in fighting all forms of arthritis pain, cardiovascular problems, stress, and allergies.


http://www.webmd.com/diet/grape-seed-extract
http://www.naturalnews.com/028801_grapes_gout.html
http://blog.lifeextension.com/2011/09/how-to-stop-pain-and-break-cycle-of.html
http://www.naturalhealthnewsreport.com/page/nhn/articles/specialreport/2012-05-02-013.html
http://goutremediesonline.com/herbal-gout-remedies
1
Add a comment...

Better Pharmacy Chiang Mai

Shared publicly  -  17:51
 
Celery Seed Extract
Black Cherry Juice
Nettles
Fish Oil
Proteolytic Enzymes
Magnesium

ควรกินอาหารที่มีกากใยสูง
ควรกินอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น อะโวกาโด น้ำมะพร้าว ปลาซาลมอน กล้วย อะปริคอท
กินสตรอเบอรี่ เชอรี่ ลูกหม่อน
ดื่มน้ำ 200-250cc. ทุก 2 ชั่วโมง

หลีกเลี่ยงอาหารที่มีพิวรีนสูง เช่น เนื้อแดง หอย เครื่องในสัตว์ ถั่ว ผักโขม
งดอาหารทอดด้วยน้ำมันผ่านกรรมวิธี เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด น้ำมันคาโนล่า
งดเหล้า
จำกัดอารประเภทแป้ง และ น้ำตาล

ใครที่กินน้ำอัดลมมากๆ อนาคตมีสิทธิเป็นเก๊าท์ได้นะ

https://draxe.com/gout-remedies/
http://goutremediesonline.com/herbal-gout-remedies
Do you suffer from gout symptoms? Follow the gout diet and these six natural gout remedies to heal the condition in 24 hours or less!
1
Add a comment...

Better Pharmacy Chiang Mai

Shared publicly  -  17:35
 
โดยทั่วไปจะคิดว่าอาหารที่มีพิวรีนสูง เช่น ไก่ ก่อให้เกิดโรคเก๊าท์ จากการศึกษาพบว่าอาหารอีกหลายชนิดก่อให้เกิดโรคเก๊าท อย่างเช่น อาหารหรือผลไม้น้ำตาลฟรุกโตสในปริมาณสูง (high-fructose corn syrup - HFCS) เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ เค้ก คุ้กกี้

ปัจจัยเสี่ยงอีกประการที่ก่อให้เกิดโรคเก๊าท์ คือ ความอ้วน และอย่างที่เคยบอกไปแล้ว คือ เหล้า เบียร์ ก่อให้เกิดโรคเก๊าท์ ไวน์ไม่ทำให้เกิดโรคเก๊าท์ แต่ไวน์ก็ทำให้ระดับอินซุลินสูงขึ้นได้

ถ้าควบคุมระดับยูริคได้ ต้องออกกำลังกายเป็นประจำ กินสตรอเบอรี่ หรือ ลูกไม้อื่นๆ เช่นลูกหม่อน เนื่องจากมีสาร anthocyanins และ bioflavonoids ต้านการอักเสบ

http://articles.mercola.com/sites/articles/archive/2010/01/19/five-steps-to-overcoming-gout-naturally.aspx
1
Add a comment...

Better Pharmacy Chiang Mai

Shared publicly  -  17:17
 
ผักคาวตองเป็นพืชตระกูลเดียวกันกับพลู มีปลูกกันมากทางภาคเหนือของไทย คณะวิจัยทางแพทย์ได้นำมาทดลองกับผู้ป่วยโรคมะเร็ง โดยใช้ดื่มบำรุงควบคู่กับการรักษาของแพทย์โดยการฉายรังสี ปรากฏว่าทำให้ผู้ป่วยมะเร็งหายจากโรคร้ายชนิดนี้ได้อย่างรวดเร็วกว่าการรักษาแบบเดิม จากการวิจัยได้ทราบถึงข้อเท็จจริงที่ว่าสีแดงภายใต้ใบของคาวตอง เป็นสารเฮลตี้แบคทีเรีย มีจุลินทรีย์และแลคโตบาซิลัสสายพันธุ์หนึ่ง ซึ่งไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายของมนุษย์ให้ทำงานดีขึ้นไป หยุดการเจริญเติบโตและต้านทานเนื้องอกพร้อมกับขับสารพิษที่ก่อให้เกิดมะเร็งออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังสามารถบรรเทาอาการของเบาหวาน อาการวิงเวียน โรคลม และบำรุงเลือด โรคไมเกรน ปวดศีรษะ ความดันโลหิตสูง-ต่ำ เส้นเลือดตีบตัน โรคกระเพาะลำไส้ไม่ปกติ ระบบขับถ่ายมีปัญหา โรคเก๊าท์ ปวดตามข้อตามกระดูกต่าง ๆ ริดสีดวงทวาร ประจำเดือนมาไม่ปกติ อาการวัยทองทั้งหญิงและชาย โรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน

ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของสมุนไพรคาวตอง
1. ฤทธิ์ทางเสริมภูมิคุ้มกัน โดยกระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด Macrophage และ Lymphocyte ที่ทำหน้าที่ภูมิคุ้มกันเช่น การจับกินสิ่งแปลกปลอมโดยเพิ่มปริมาณของ Lysomal enzyme เช่น acid phosphatase, lysozyme และIL-1β และ IL-2 ได้

2. ฤทธิ์ในการทำลายเซลล์มะเร็ง 5 ชนิด ได้แก่ A-549 (เซลล์มะเร็งปอด) , SK-OV-3 (เซลล์เนื้องอกที่เป็นเนื้อร้าย) , XF-498 (เซลล์มะเร็งสมอง) , HCT-15(เซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่) และเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว(Antileukemic activity) โดยส่วนสกัดด้วยน้ำของคาวตองสามารถยับยั้งการเจริญของเซลล์เม็ดเลือดขาวเพาะเลี้ยง 5 ชนิด (L1210, U937, K526, Raja, P3HR1)

3. ฤทธิ์ในการต้านเชื้อไวรัส (Anti Virus) ชนิด HSV-1. HIV1. ไข้หวัดใหญ่ เริม งูสวัด หัด หัดเยอรมัน โดยไม่ทำลาย Host cell

4. ฤทธิ์ต้านเชื้อรา เช่น กลาก เกลื้อน สังคัง ฮ่องกงฟุต สะเก็ดเงิน สะเก็ดทอง เยื่อหุ้มสมองอักเสบที่เกิดจากเชื้อรา ปอดอักเสบ

5. ฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย เช่น โรคท้องร่วง โรคที่เกิดจากการติดเชื้อทางเดินหายใจ ฝี โรคระบบสืบพันธุ์ ตกขาว

6. ฤทธิ์ต้านอักเสบ เช่น หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบในเด็ก รูมาตอย แผลหลังผ่าตัด แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หนองใน ปวดฟัน เป็นต้น

7. มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ มีผลในการขยายหลอดเลือดฝอยฝอย ทำให้อัตราการไหลเวียนของเลือดและการขับปัสสาวะเพิ่มขึ้น

http://www.herborgthailand.com/article-detail/37/
1
Add a comment... 

Better Pharmacy Chiang Mai

Shared publicly  -  23 Dec 2015
 
ผู้ที่มีกรดยูริคสูง จึงไม่ได้เกิดจากการกินอาหาร “แสลง” หรือโปรตีนมากเกินไปดังที่เข้าใจผิดกันบ่อยๆ แต่มักจะเกิดจากความผิดปกติของร่างกายเกี่ยวกับการสร้างมากเกินไป หรือไตขับกรดยูริคน้อยเกินไป

ยาหลักจะประกอบด้วย ยากินประจำเพื่อป้องกันไม่ใช้โรคเก๊าท์กำเริบอีก ร่วมกับยากิน เพื่อลดระดับของกรดยูลิคในเลือดให้ต่ำลงมาก และนานพอที่จะไปสลายผลึกยูเรทที่สะสมในร่างกายผู้ป่วยให้ค่อยๆ หมดไป เมื่อผลึกยูเรทถูกละลายหมดแล้ว ผู้ป่วยก็หายขาดจาดโรคเก๊าท์ได้

ถ้าผู้ป่วยได้รับยารักษาที่ถูกต้องจนสามารถควบคุมระดับกรดยูลิค ให้ต่ำกว่าปกติแล้ว ผู้ป่วยก็สามารถกินอาหารทุกอย่างเหมือนคนทั่วไปได้ จึงไม่จำเป็นต้องงดอาหารเหล่านี้อีกต่อไป แต่ควรหลีกเลี่ยง งดหรือลดปริมาณเครื่องดื่มประเภทเหล้าหรือเบียร์ ซึ่งเป็น “แสลง” สำหรับสุขภาพทุกคนโดยเฉพาะโรคเก๊าท์

http://www.phyathai.com/medicalarticledetail/1/10/705/th 
1
Add a comment...

Better Pharmacy Chiang Mai

Shared publicly  -  24 Nov 2014
 
ARCOXIA เป็นยาแก้ปวดลดอักเสบที่ออกฤทธิ์เร็วภายในเวลา 24 นาที และมีฤทธิ์นาน 1 วัน จึงกินยานี้เพียงครั้งละ 1 เม็ด วันละครั้ง

ผู้ที่ห้ามใช้ยานี้คือ ผู้ป่วยโรคกระเพาะ ตับ ไต หัวใจ ความดัน หอบหืด
ผู้ที่ต้องการจะตั้งครรภ์ หญิงมีครรภ์ หญิงให้นมบุตร อายุต่ำกว่า 12 ปี

ผู้ที่ต้องใช้ยาด้วยความระมัดระวังคือ ผู้ป่วยความดัน ไขมัน เบาหวาน สูบบุหรี่ ผู้ที่กินยาคุมกำเนิด หรือ ฮอร์โมนเพศหญิงอื่นๆ

ARCOXIA 120 มิลลิกรัม ห้ามใช้เกิน 1 อาทิตย์  และควรใช้ในกรณ๊ ปวดเฉียบพลันเท่านั้น อาทิเช่น ปวดข้อเฉียบพลันจากโรคเก๊าท์ ปวดประจำเดือน ปวดอย่างเฉียบพลันหลังการผ่าตัดทางนรีเวช

ARCOXIA 90 มิลลิกรัม ใช้ในกรณีข้ออักเสบรูมาตอยด์ กระดูกสันหลังยึดติด ปวดหลังการผ่าตัดฟัน ปวดอย่างเฉียบพลันหลังการผ่าตัดฟัน

ARCOXIA 60 มิลิลกรัม ใช้ในกรณีปวดเรื้อรัง ข้อเสื่อม

ปล.ในกรณีของการปวดฟัน ยังมียาตัวอื่นให้เลือก ในราคาที่ย่อมเยาว์กว่า และออกฤทธิ์เร็ว อาทิเช่น NUROFEN ZAVANCE 200 mg หรือ 400 mg, GOFEN 400, PONSTAN 500, IBUGAN หรือแม้แต่ PANADOL ACTIFAST 
2 photos
1
Add a comment...

Better Pharmacy Chiang Mai

Shared publicly  -  23 Oct 2013
 
บันทึกห้องพยาบาล โรคเก๊าท์ ดูแลได้ง่ายจัง
http://www.oknation.net/blog/nsdiary/2013/10/22/entry-1

ดื่มน้ำทีละน้อย บ่อยๆ (จิบช้าๆ กลั้วแล้วกลืน)
อาหารที่มีเกลือเป็นส่วนผสม ผงฟู ที่พบในขนมปัง ขนมกรุบกรอบ  ผงชูรส
แกว่งแขนเป็นรอบๆ ตามแต่เวลาจะอำนวย  ให้ได้วันละ ๒๐๐ ถึง ๕๐๐ ครั้ง
ลด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกรดยูริคสูง พวกยอดผัก สัดว์ปีก
High Carbo Low Pro. Low salt 
1
Add a comment...

Better Pharmacy Chiang Mai

Shared publicly  -  28 May 2013
 
โรคไต การป้องกันและการรักษา สาระน่ารู้เรื่องสุขภาพ โรงพยาบาลวิภาวดี -http://www.vibhavadi.com/health_detail.php?id=147

ใครมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรค ไต
                   1.  อายุเกิน 60 ปีขึ้นไป   ไต จะเริ่มเสื่อม
                   2.  ความดันโลหิตสูง
                   3.  โรคหัวใจ   เช่น  หลอดเลือดหัวใจตีบ
                   4.  โรคหลอดเลือดสมอง
                   5.  โรคเบาหวาน
                   6.  โรคเก๊าท์
                   7.  โรคไตอักเสบชนิดต่าง ๆ
                   8.   มีสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคไต
                   9.   โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบจากการติดเชื้อ
                  10.   ใช้ยาแก้ปวด   หรือสัมผัสสารเคมีบางชนิดติดต่อกันเป็นเวลานาน

อาการแสดงเมื่อเป็นโรคไต

                    1.   หนังตา   ใบหน้า   เท้า   ขา  และลำตัวบวม
                    2.   ปัสสาวะผิดปกติ
                          เช่น   ขุ่น  เป็นฟอง  เป็นเลือด  สีชาแก่  / น้ำล้างเนื้อ
                    3.   การถ่ายปัสสาวะผิดปกติ
                          เช่น   บ่อย  แสบ ขัด  ปริมาณน้อย
                    4.   ปวดหลัง   คลำได้ก้อน บริเวณไต
                    5.   ความดันโลหิตสูง
                    6.   ซีด  อ่อนเพลีย  เหนื่อยง่าย  ไม่มีแรง  ไม่กระฉับกระเฉง
                    7.   ท้องอืด   ท้องเฟ้อ   คลื่นไส้   อาเจียน
                    8.   เบื่ออาหาร   การรับรสอาหารเปลี่ยนไป
                    9.   ปวดศีรษะ   นอนหลับไม่สนิท
1
Add a comment...

Better Pharmacy Chiang Mai

Shared publicly  -  4 Apr 2016
 
คนปกติโดยทั่วไปจะไม่เป็นโรคไตวายเรื้อรัง แต่ปัญหาที่สะสมมานาน โดยเฉพาะการใช้ยาบางชนิดต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนาน จะทำให้เกิดโรคไตได้ ซึ่งทั้งผู้ใช้ยา เภสัชกร แพทย์ และ บริษัทยา จะต้องพึงสังวรณ์ไว้ ....

>>>>>>>>>>>>>>

ไตวายเรื้อรัง เป็นมหันตภัยเงียบ เพราะผู้ป่วยด้วยโรคนี้จำนวนมากไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรค และเมื่อโรคนี้ลุกลามไปมากจนไม่สามารถจะทำให้ไตกลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว สุดท้ายผู้ป่วยก็จะลงเอยด้วยการฟอกเลือด

 ผู้ที่จะเกิดโรคไต แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
    กลุ่มที่มีโรคที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคไตอยู่ก่อน เช่น เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคนิ่วในไต เก๊าท์ หรือผู้ที่มีญาติเป็นโรคไตวาย กลุ่มนี้ ต้องดูแลและใช้ยาให้ได้ผลตามเป้าหมายที่แพทย์และพยาบาลแนะนำ
    กลุ่มที่มีโรคซ่อนอยู่แต่ไม่รู้ตัว ซึ่งกลุ่มนี้มักจะไม่มีอาการ แต่จะทราบได้ก็ต่อเมื่อตรวจเลือดหรือตรวจปัสสาวะ ดังนั้นการพบหมอเพื่อตรวจร่างกายประจำปีจะสามารถหาโรคไตตั้งแต่เริ่มแรกหรือ เมื่อยังไม่แสดงอาการ

อาการซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายว่าอาจเป็นโรคไต
     ในทางการแพทย์มีอาการสำคัญ 6 อย่าง ที่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าอาจมีโรคไต ได้แก่
    ปัสสาวะขัดหรือปัสสาวะลำบาก
    ปัสสาวะกลางคืน ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ
    ปัสสาวะเป็นเลือดสีน้ำล้างเนื้อหรือขุ่นผิดปกติ
    อาการบวมรอบตา บวมหน้า บวมเท้า
    ปวดเอว ปวดหลัง
    ความดันโลหิตสูง

http://www.siphhospital.com/th/news/article.php?cate_id=6
http://www.kalasin3.go.th/view.php?article_id=2368
http://www.piyavate.com/article/frontend/article_detail/id/89

http://www.kalasin3.go.th/view.php?article_id=2368
https://www.doctor.or.th/article/detail/11952
http://www.saintlouis.or.th/index.php/he
https://www.bumrungrad.com/th/nephrology-kidney-center-bangkok-thailand/ckd-care-chronic-disease
ข่าวสารและกิจกรรม
โรคไตเรื้อรังไม่ยากเกินเข้าใจ. ไตเป็นอวัยะที่สำคัญไม่น้อย หากเราไม่ดูแลสุขภาพให้ดี ไตของเราก็อาจทำงานผิดปกติ ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของโรคไตเรื้อรัง. อ่านต่อ · ปรับพฤติกรรมสกัดเบาหวาน...ยับยั้งโรคไต. 1 ใน 3 ของผู้ป่วยโรคเบาหวาน มักมีอาการแทรกซ้อนของโรคไตวายเรื้อรังร่วมด้วย ...
1
Add a comment...

Better Pharmacy Chiang Mai

Shared publicly  -  28 Jul 2015
 
สิ่งที่ผู้ไข้ต้องปฏิบัติร่วมกับการทานยาคือการงดอาหารแสลงต่อโรค เช่นอาหารที่มีพิวรีนสูง
อันได้แก่
1.เครื่องในสัตว์ทุกชนิด
2.ปลาที่ไม่มีเกล็ด เช่น ปลาดุก ปลาไหล
3.เนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่ ห่าน เป็ด ร่วมถึงน้ำซุปด้วย
4. ยอดผักที่กำลังอยู่ในช่วงเจริญเติบโต ไม่ว่าจะเป็น ยอดกระถิน ยอดคะน้า ยอดผักกระเฉด ถั่วงอก ถั่วฝักยาว ชะอม หน่อไม้ สะตอ ดอกกะหล่ำ หน่อไม้ฝรั่ง
5.อาหารหมักดอง ยีสต์ ผงฟู ขนมจีนแป้งหมัก หอยดอง ผักดอง ปลาร้า
6.ไม่รับประทานอาหารมันมาก เช่น อาหารที่ทอดอมน้ำมันมาก เนื้อสัตว์ติดมัน เพราะไขมันทำให้ร่างกายขับยูริคได้น้อยลง
7. งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ เพราะแอลกอฮอล์ทำให้ยูริคสูงขึ้น
8. สำหรับเรื่องการออกกำลังกาย ขณะที่มีอาการไม่ควรออกกำลังกาย เพราะกล้ามเนื้อทำงานมาก ก็มีสารพิวรีนมากขึ้น และมีการสร้างสาร แลคเตท ทำให้การขับยูริกลดลง ในภาวะปกติที่ไม่มีอาการกำเริบ คือสามารถควบคุมอาการของโรคได้ ก็ออกกำลังกายได้อย่างสม่ำเสมอ ไม่หนักเกินไป เช่น การเดินเร็ว ว่ายน้ำ โยคะ เป็นต้น
9.ดื่มน้ำสะอาด มากๆ วันละ 3 ลิตร เพื่อช่วยการขับถ่ายยูริค

........................................................

โรคเก๊าท์
เกิดจากภาวะที่กรดยูริคในเลือดมีปริมาณสูงเกินไป เกินกว่าที่จะสามารถอยู่ในเลือดในรูปสารละลายได้ จึงมีการตกตะกอนสะสมอยู่ตามที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะในที่ที่มีอากาศเย็นกว่าบริเวณอื่น เช่น ตามข้อ ทำให้ข้ออักเสบ หรือ ตามศอก นิ้วติ่งหู ตาตุ่ม หลังเท้าทำให้เกิดปุ้มก้อนเกิดขึ้น
อาการของเก๊าท์ที่สำคัญคือ ข้ออักเสบ มักเกิดที่บริเวณนิ้วหัวแม่เท้า, ข้อเท้า เป็นต้น โดยข้อที่อักเสบ จะบวม แดง ร้อน และปวดมาก ชัดเจน (ถ้าข้อที่ปวด ไม่บวม แดง ร้อน หรือมีอาการไม่ชัดเจนให้สงสัยไว้ ก่อนว่าไม่ใช่เก๊าท์) โดยมากมักเป็นข้อเดียวและมีอาการอักเสบอยู่ประมาณ ๕-๗วัน อาการจะค่อย ๆ ทุเลาไปได้เอง จนหายสนิท ระหว่างที่ไม่มีอาการ จะไม่มีความผิดปกติใด ๆ ให้เห็น เมื่อข้ออักเสบขึ้นใหม่ จะมีอาการเช่นเดิมอีก อาการจะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเป็นมากขึ้น อาการข้ออักเสบจะเป็นมากขึ้นหลายข้อมากขึ้น เป็นนานและรุนแรงขึ้น รวมทั้งเกิดปุ่มก้อนของยูริค สะสมมากขึ้น ผู้ป่วยระยะนี้มักมีไตวายร่วมด้วย

ผู้ไข้มาหาหมอ เป็นชายวัยกลางคนรูปร่างค่อนข้างสูงใหญ่ เป็นโรคเก๊าต์มา 5- 6 ปี มีอาการปวดที่ข้อเท้าข้าง ได้รับการรักษากับแพทย์แผนปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง โดยทานยาลดกรดยูริคและยาลดไขมันในหลอดเลือด ตรวจระดับค่ายูริคแอซิคในเลือด อยู่ที่ 10.4mg./ml. ประวัติเพิ่มเติม บิดาเป็นโรคเก๊าท์ ไม่มีประวัติการผ่าตัด ความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีโรคประจำตัวอื่นๆ

หมอวางแผนการรักษาโดย
1. รุเสมหะ ตะกรันของเสียในข้อออก ด้วยยาที่มีฤทธิ์ในการถ่าย
2. รุปิตตะกำเดา ความร้อนที่อยู่ในข้อ ลดการอักเสบ ลดอาการปวด
3. รุวาตะ เพิ่มการไหลเวียนของวาตะและเสมหะในข้อ

หลังจากวางยารักษา 1 เดือนต่อมาผู้ไข้มีอาการดีขึ้น อาการปวดข้อลดลง และได้ตรวจค่ากรดยูริคแอซิคในเลือดพบว่ามีค่าลดลงเหลือ 9.5mg./ml.
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผู้ไข้ต้องปฏิบัติร่วมกับการทานยาคือการงดอาหารแสลงต่อโรค เช่นอาหารที่มีพิวรีนสูง

https://www.facebook.com/orientalmedicinecentre/photos/a.1405113756386379.1073741828.1405021809728907/1639344472963305/ 
1
Add a comment...

Better Pharmacy Chiang Mai

Shared publicly  -  3 Feb 2015
 
หลีกเลี่ยงปัจจัยก่อโรค เช่น ลมความเย็นและความชื้น

การออกกำลังกาย การเคลื่อนไหว เพื่อให้เกิดการไหลเวียนของ "ชี่ หรือ ปราณ"

"โกศหัวบัว"ช่วยการไหลเวียนของชี่และเลือดขับลมในเลือด ระงับปวด, "กันเฉ่า" บำรุงชี่ เสริมม้ามและกระเพาะ-อาหาร ระบายความร้อน ขับพิษ , "ตังกุย"มีสรรพคุณบำรุงเลือดช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น

งดพืชและอาหารที่มีกรดยูริกสูง เช่น ชะเอม กระถิน แตงกวาหน่อไม้ หน่อไม้ฝรั่ง เห็ด ดอกกะหล่ำ ถั่วงอก ยอดแค ดอกสะเดา สาหร่าย ยอดผักต่างๆเป็นต้น และแนะนำให้ลดอาหารจำพวกสัตว์ปีกเครื่องในสัตว์ทุกชนิด เช่น กะปิที่มีน้ำสกัดจากเนื้อ กุ้ง หอย และกุนเชียง ไส้กรอกปลาซาร์ดีน และไข่แมงดา

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1422869104
1
Add a comment...

Better Pharmacy Chiang Mai

Shared publicly  -  12 Dec 2013
 
คนที่กินยาระงับข้ออักเสบเฉียบพลันจากโรคเก๊าท์ Colchicine ควรใส่ใจข้อมูลเหล่านี่

ห้ามกินร่วมกับยา
ยาแก้อักเสบ Clarithromycin, Erythromycin
ยัาโรคหัวใจ Digoxin
ยาฆ่าเชื้อรา Ketoconazole, Itraconazole
น้ำเสาวรส
1
Add a comment...

Better Pharmacy Chiang Mai

Shared publicly  -  28 May 2013
 
เมื่อเป็นโรคไตเรื้อรัง จะสามารถชะลอการเสื่อมของไตได้โดย

ในรายที่มีระดับความดันโลหิตสูง ควรลดความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่า 130/80 มม.ปรอท โดยการรับประทานอาหารรสจืด ไม่เค็ม ออกกำลังกาย และรับประทานยาตามที่แพทย์แนะนำอย่างสม่ำเสมอ

ผู้ป่วยเบาหวาน ควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ใกล้เคียงปกติ โดยเฉพาะในรายที่ยังไม่มีหรือเริ่มมีโรคไตเรื้อรังระยะแรกๆ จึงจะสามารถป้องกันหรือชะลอการเสื่อมของไตได้

ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาโรค หรือภาวะที่เป็นสาเหตุของโรคไตเรื้อรังร่วมด้วย เช่น รักษาการอักเสบที่ไต กำจัดนิ่วในทางเดินปัสสาวะ รักษาโรคเก๊าท์หยุดยาที่ทำลายไต เป็นต้น

ควรหยุดสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่ทำลายไตและเพิ่มระดับความดันโลหิต
ผู้ป่วยบางรายโดยเฉพาะผู้ที่การทำงานของไตลดลงมาก จะได้รับคำแนะนำจากแพทย์ให้รับประทานอาหารที่มีปริมาณโปรตีนต่ำกว่าปกติ เพราะการเผาผลาญโปรตีนจะทำให้ได้ของเสียเพิ่มขึ้นในร่างกายซึ่งไตจะ ต้องกำจัดออก ดังนั้นการกินโปรตีนสูงจึงเพิ่มภาระงานให้ไต

นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ควรได้รับการตรวจเลือดและปัสสาวะเป็นระยะๆ เพื่อประเมินการทำงานของไต และรักษาผลแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคไตเรื้อรัง
1
Add a comment...













No comments:

Post a Comment