Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 18:45
วิธีป้องกันการเกิดต่อมน้ำหล่อลื่นอุดตันนั้นไม่มีค่ะ แต่มีข้อแนะนำว่าระวังการขี่จักรยานนานๆ การนุ่งคับ ซึ่งอาจทำให้เกิดต่อมน้ำหล่อลื่นอุดตันได้ ทั้งต้องระวังโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพราะจะเกิดเป็นถุงหนองของต่อมน้ำหล่อลื่น ซึ่งต้องลงเอยด้วยการผ่าตัด
http://www.komchadluek.net/news/lifestyle/148623
http://www.komchadluek.net/news/lifestyle/148623
ศุกร์กับเซ็กส์ : วิธีป้องกันต่อมน้ำหล่อลื่นอุดตัน : พญ.ชัญวลี ศรีสุโข chanwalee@srisukho.com
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 18:44
การรักษาเริ่มตั้งแต่การใช้ยาบรรเทาความเจ็บปวด ยาปฏิชีวนะแก้อาการอักเสบในกรณีที่มีการระคายเคืองอักเสบเล็กน้อยหรือแค่บวม ๆ เท่านั้น ซึ่งเมื่อได้รับยาปฏิชีวนะแล้วการอักเสบมักจะหายไป แต่ถ้าตรวจแล้วกระเปาะหรือก้อนบริเวณต่อมบาร์โทลินนี้มีการอักเสบเต่งเต็มที่ใกล้แตก คุณหมอก็จะทำการกรีดเอาหนองออก หรือให้หนองแตกตามธรรมชาติเอง แต่ในบางรายที่ก้อนบริเวณดังกล่าวค่อนข้างใหญ่แต่ยังไม่แตก คุณหมอก็อาจทำการดูดหนองหรือกลัดหนองออก และให้ยาปฏิชีวนะแก้อักเสบฆ่าเชื้อหนองร่วมด้วย และต้องส่งหนองที่ดูดออกไปตรวจหาเชื้อโรคว่าเป็นเชื้อหนองตัวไหนตอบสนองกับยาปฏิชีวนะอะไร ซึ่งการรักษาดังกล่าวสามารถทำได้แบบผู้ป่วยนอก ไม่จำเป็นต้องทำการรักษาในห้องผ่าตัด
แนวทางการรักษาภาวะ/โรคถุงน้ำต่อมบาร์โธลิน ได้แก่
หากถุงน้ำ มีขนาดเล็กและไม่สร้างความรำคาญ ไม่จำเป็นต้องรักษา
หากถุงน้ำมีขนาดใหญ่ แพทย์จะทำการกรีดผนังถุงน้ำ และเย็บผนังถุงน้ำยึดติดกับ ผิวหนัง เพื่อเปิดปากแผลให้เมือกไหลออกได้ (Marsupialization) มักไม่นิยมเลาะตัดถุงน้ำทั้งหมด เนื่องจากจะทำให้เลือดออกมาก
รักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศ
ไม่ควรใส่กางเกงที่รัดแน่นเกินไป
รักษาและแนะนำการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
หากไม่มีประวัติแพ้ยาฆ่าเชื้อใดๆ
doxycycline (100) ครั้งละหนึ่งแคปซูล เช้าและเย็น หลังอาหาร นานเจ็ดวัน ร่วมกับ metronidazole (200) ทานครั้งละ สองเม็ดเช้าและเย็นหลังอาหาร
หากทานแล้วดีขึ้นในสามวัน ก็ให้ทานต่่อจนครบหนึ่งสัปดาห์ แต่หากสามวันไม่ดีขึ้นก็ควรพบแพทย์ครับ
http://haamor.com/th/โรคของต่อมบาร์โธลิน/
http://board.postjung.com/645489.html
http://www.vichaiyut.co.th/forum/index.php?topic=1433.0;wap2
แนวทางการรักษาภาวะ/โรคถุงน้ำต่อมบาร์โธลิน ได้แก่
หากถุงน้ำ มีขนาดเล็กและไม่สร้างความรำคาญ ไม่จำเป็นต้องรักษา
หากถุงน้ำมีขนาดใหญ่ แพทย์จะทำการกรีดผนังถุงน้ำ และเย็บผนังถุงน้ำยึดติดกับ ผิวหนัง เพื่อเปิดปากแผลให้เมือกไหลออกได้ (Marsupialization) มักไม่นิยมเลาะตัดถุงน้ำทั้งหมด เนื่องจากจะทำให้เลือดออกมาก
รักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศ
ไม่ควรใส่กางเกงที่รัดแน่นเกินไป
รักษาและแนะนำการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
หากไม่มีประวัติแพ้ยาฆ่าเชื้อใดๆ
doxycycline (100) ครั้งละหนึ่งแคปซูล เช้าและเย็น หลังอาหาร นานเจ็ดวัน ร่วมกับ metronidazole (200) ทานครั้งละ สองเม็ดเช้าและเย็นหลังอาหาร
หากทานแล้วดีขึ้นในสามวัน ก็ให้ทานต่่อจนครบหนึ่งสัปดาห์ แต่หากสามวันไม่ดีขึ้นก็ควรพบแพทย์ครับ
http://haamor.com/th/โรคของต่อมบาร์โธลิน/
http://board.postjung.com/645489.html
http://www.vichaiyut.co.th/forum/index.php?topic=1433.0;wap2
สวัสดีครับเพื่อนๆ จากบทความเรื่อง เจ็บปวดจากเซ็กซ์...ความลับที่ผู้หญิงไม่กล้าบอก แต่น่าอ่าน ที่ได้ทิ้งท้ายไว้เกี่ยวกับเรื่องของ ต่อมบาร์โธลิน ( Bartholin..
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 18:43
ต่อมบาร์โธลีนจะเกิดปัญหาเมื่อมีการอุดตันท่อ ทำให้น้ำหล่อลื่นซึ่งเป็นมูก ไหลออกมาจากต่อมไม่ได้ เกิดการคั่งของมูก กลายเป็นถุงน้ำ
ซีสต์นี้หากมีการติดเชื้อก็จะกลายเป็นหนองฝี เรียกว่า ‘ฝีต่อมบาร์โธลีน’ มีอาการก้อนโตขึ้น บวม คลำแล้วรู้สึกร้อน ปวด เจ็บ แบบนี้ก็ต้องรักษา ถ้าเป็นซีสต์จะไม่เจ็บ แต่ถ้าเป็นฝีหนองจะเจ็บมาก
การอุดตันของท่อต่อมน้ำหล่อลื่น ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ สาวโสดก็พบได้ โดยมักเกิดจากสามสาเหตุดังนี้
- ติดเชื้อโรคตัวร้าย จากสุขอนามัยเราเอง หรือรับเชื้อมาจากห้องน้ำ เชื้อที่พบบ่อยเป็นเชื้ออี.โคไล (E.coli) ฯลฯ ที่ปนเปื้อนมาจากอุจจาระ ทำให้ท่อบวมและอุดตัน เกิดฝีต่อมน้ำหล่อลื่น
- ติดเชื้อโรคจากเพศสัมพันธ์ทำให้ท่อต่อมน้ำหล่อลื่นอักเสบบวมและอุดตัน เกิดฝีต่อมน้ำหล่อลื่น เชื้อที่พบบ่อยได้แก่ เชื้อหนองในแท้ หนองในเทียม
- ช่องคลอดบริเวณที่ท่อต่อมน้ำหล่อลื่นมาเปิดออก บวม ปิดทางออก ส่งผลให้เกิดอุดตันกลายเป็นซีสต์หรือฝี
http://www.hugmagazine.com/ColumDetail/tabid/82/articleType/ArticleView/articleId/5048/-.aspx
http://healthnewsdaily.blogspot.com/2012/09/blog-post_5749.html
ซีสต์นี้หากมีการติดเชื้อก็จะกลายเป็นหนองฝี เรียกว่า ‘ฝีต่อมบาร์โธลีน’ มีอาการก้อนโตขึ้น บวม คลำแล้วรู้สึกร้อน ปวด เจ็บ แบบนี้ก็ต้องรักษา ถ้าเป็นซีสต์จะไม่เจ็บ แต่ถ้าเป็นฝีหนองจะเจ็บมาก
การอุดตันของท่อต่อมน้ำหล่อลื่น ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ สาวโสดก็พบได้ โดยมักเกิดจากสามสาเหตุดังนี้
- ติดเชื้อโรคตัวร้าย จากสุขอนามัยเราเอง หรือรับเชื้อมาจากห้องน้ำ เชื้อที่พบบ่อยเป็นเชื้ออี.โคไล (E.coli) ฯลฯ ที่ปนเปื้อนมาจากอุจจาระ ทำให้ท่อบวมและอุดตัน เกิดฝีต่อมน้ำหล่อลื่น
- ติดเชื้อโรคจากเพศสัมพันธ์ทำให้ท่อต่อมน้ำหล่อลื่นอักเสบบวมและอุดตัน เกิดฝีต่อมน้ำหล่อลื่น เชื้อที่พบบ่อยได้แก่ เชื้อหนองในแท้ หนองในเทียม
- ช่องคลอดบริเวณที่ท่อต่อมน้ำหล่อลื่นมาเปิดออก บวม ปิดทางออก ส่งผลให้เกิดอุดตันกลายเป็นซีสต์หรือฝี
http://www.hugmagazine.com/ColumDetail/tabid/82/articleType/ArticleView/articleId/5048/-.aspx
http://healthnewsdaily.blogspot.com/2012/09/blog-post_5749.html
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 18:43
Detail : เมื่อ2 -3 วันก่อน ดิฉันเริ่มมีอาการอวัยวะเพศบวมขึ้นมาอย่างผิดปกติบริเวณแคมซ้าย ใกล้ช่องคลอด โดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อจับดูรู้สึกว่าเป็นก้อนกลิ่งไปมา แต่ไม่เจ็บนะค่ะ พอวันรุ่งขึ้น อาการเดียวกันเกิดขึ้นกับแคมฝั่งขวามือ แต่ไม่บวมเท่ากับฝั่งซ้ายมือ เลยเริ่มหาข้อมูลทางเน็ต เข้าข่ายว่าเป็นต่อมบาร์โธลินอักเสบหรืออาจเป็นฝี ซึ่งผู้หญิงเป็นกันเยอะมาก เลยอยากทราวิธีการรักษา
จากอาการที่เล่ามาอาจไม่ใช่ภาวะของต่อมบาร์โธลินอักเสบ หรือฝีหนองที่อวัยวะเพศก็เป็นได้ค่ะ เพราะโดยปกติ มักไม่เป็นที่แคมทั้ง 2 ข้าง พร้อมกัน มักเป็นข้างใดข้างหนึ่ง อาการบวมที่อวัยวะเพศอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ได้อีกมากค่ะ แนะนำเข้ารับการตรวจโดยสูตินรีแพทย์ที่คลินิก หรือโรงพยาบาลที่สะดวกค่ะ ไม่แนะนำให้รับประทานยาแก้อักเสบเองนะคะ นอกจากจะไม่ถูกโรคแล้วอาจทำให้บดบังอาการที่ชัดเจนและยากในการวินิจฉัยค่ะ
http://pantip.com/topic/35363137
https://www.praram9.com/talktodoctor_detail.php?id=16530
http://medicarezine.com/2012/03/bartholin-abscess/
จากอาการที่เล่ามาอาจไม่ใช่ภาวะของต่อมบาร์โธลินอักเสบ หรือฝีหนองที่อวัยวะเพศก็เป็นได้ค่ะ เพราะโดยปกติ มักไม่เป็นที่แคมทั้ง 2 ข้าง พร้อมกัน มักเป็นข้างใดข้างหนึ่ง อาการบวมที่อวัยวะเพศอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ได้อีกมากค่ะ แนะนำเข้ารับการตรวจโดยสูตินรีแพทย์ที่คลินิก หรือโรงพยาบาลที่สะดวกค่ะ ไม่แนะนำให้รับประทานยาแก้อักเสบเองนะคะ นอกจากจะไม่ถูกโรคแล้วอาจทำให้บดบังอาการที่ชัดเจนและยากในการวินิจฉัยค่ะ
http://pantip.com/topic/35363137
https://www.praram9.com/talktodoctor_detail.php?id=16530
http://medicarezine.com/2012/03/bartholin-abscess/
*ขอแท็กห้องแป้งสาวๆเยอะค่ะ สวัสดีค่ะ วันนี้ขอแชร์ประสบการณ์ต่อมบาร์โธลินอักเสบเป็นครั้งแรกในชีวิตนะคะ แล้วก็การไปหาหมอสูติเป็นครั้งแรกด้วยค่ะ ยอมรับว่ากลัวมาก ข
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 18:42
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ
1.สวมใส่กางเกงชั้นในที่มีขนาดเล็กเกินไป ทำให้เกิดการเสียดสี
2.ใช้ทิชชู่ที่ไม่สะอาด สัมผัสกับน้องสาวของเราโดยตรง
3.เมื่อวันรอบเดือนมา ไม่ค่อยเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ
ลักษณะอาการ
1.รู้สึกเหมือนมีก้อนกลมๆ ภายในช่องคลอดด้านใดด้านหนึ่ง
2.รู้สึกเจ็บเมื่อมีการเคลื่อนไหวร่างกายส่วนล่าง
3.ในกรณีที่มีการอักเสบมาก ก้อนกลมๆ ที่บวมขึ้นมาจะแตก และมีหนองออกมาด้วย
วิธีการรักษา
1.รีบติดต่อพบแพทย์เฉพาะทาง อย่ารอให้หนองแตกเอง เพราะอาจมีการติดเชื้อเพิ่ม
2.หลังจากไปหาหมอแล้ว ทำความสะอาดน้องสาวอยู่เสมอ
http://www.topicza.com/news9797.html
1.สวมใส่กางเกงชั้นในที่มีขนาดเล็กเกินไป ทำให้เกิดการเสียดสี
2.ใช้ทิชชู่ที่ไม่สะอาด สัมผัสกับน้องสาวของเราโดยตรง
3.เมื่อวันรอบเดือนมา ไม่ค่อยเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ
ลักษณะอาการ
1.รู้สึกเหมือนมีก้อนกลมๆ ภายในช่องคลอดด้านใดด้านหนึ่ง
2.รู้สึกเจ็บเมื่อมีการเคลื่อนไหวร่างกายส่วนล่าง
3.ในกรณีที่มีการอักเสบมาก ก้อนกลมๆ ที่บวมขึ้นมาจะแตก และมีหนองออกมาด้วย
วิธีการรักษา
1.รีบติดต่อพบแพทย์เฉพาะทาง อย่ารอให้หนองแตกเอง เพราะอาจมีการติดเชื้อเพิ่ม
2.หลังจากไปหาหมอแล้ว ทำความสะอาดน้องสาวอยู่เสมอ
http://www.topicza.com/news9797.html
เกิดเป็นผู้หญิงนี่ลำบากจริงจริ๊ง เดี๋ยวเป็นนู้น เดี๋ยวเป็นนี่ ยิ่งกับจุดซ่อนเร้นนี่ยิ่งต้องระวัง สะอาดมากเกินไปก็ไม่มีภูมิคุ้มกัน สกปรกมากเกินไปเชื้อโรคก็ถามหา ไหนจะสาเหตุเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น การใส่ก...
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 18:42
อาการยอดฮิตของบริเวณดังกล่าว ได้แก่ อาการคัน แสบร้อน หรือปวด
"รูขุมขนอักเสบ" เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่รูขุมขน เกิดเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีแดง บางครั้งอาจมีอาการปวดได้
อาจเกิดจากการโกน การแวกซ์ขน หรือเกิดจากการถอนขน (แบบใช้แหนบดึงก็เป็นได้นะคะ) รูขุมขนอักเสบส่วนใหญ่จะหายได้เองค่ะ แค่ดูแลสุขภาพอนามัยบริเวณดังกล่าวให้ดี สวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่รัดบริเวณดังกล่าวจนเกินไป (ขอให้มีอากาศถ่ายเทได้บ้าง) หรือประคบอุ่น จะทำให้รูขุมขนอักเสบหายได้เร็วขึ้นค่ะ ถ้าตุ่มดังกล่าวไม่หายซักที หรือพัฒนากลายเป็นตุ่มใหญ่ ควรปรึกษาแพทย์นะคะ
"ผิวหนังอักเสบ" หรือมีอาการระคายเคือง อาจเกิดจากการแพ้สบู่ น้ำหอม หรือน้ำยาซักผ้า ซึ่งอาการได้แก่ อาการคัน (ซึ่งส่วนใหญ่จะคันมาก) แสบร้อน บางคนเกาจนเป็นแผลเลยทีเดียว วิธีรักษาก็คือกำจัดที่สาเหตุก่อนค่ะ คือหลีกเลี่ยงสาเหตุของการแพ้ เช่น เพิ่งจะคันหลังจากเปลี่ยนยี่ห้อสบู่ หรือเปลี่ยนน้ำยาซักผ้า ก็ให้กลับไปใช้ยี่ห้อเดิมไปก่อน ประคบเย็น ทาปิิโตรเลียมเจลบาง ๆ บริเวณที่แพ้ ในรายที่คันมากหรือแพ้มาก ควรพบแพทย์เพื่อรับยาแก้แพ้ หรือยาทา
"ถุงน้ำที่ต่อมบาร์โธลิน" ต่อมบาร์โธลินจะอยู่ที่ข้าง ๆ ปากช่องคลอดค่ะ ต่อมนี้มีหน้าที่สร้างสารหล่อลื่นขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งถ้าต่อมนี้เกิดอุดตันขึ้นมา จะเกิดถุงน้ำที่ต่อมบาร์โธลินได้ คุณผู้หญิงที่มีถุงน้ำอาจจะคลำได้ก้อนเล็ก ๆ ตอนอาบน้ำก็ได้ค่ะ ถุงน้ำนี้ไม่ได้สร้างอาการเจ็บหรือปวดอะไร จนกว่าจะเกิดการติดเชื้อที่ต่อมบาร์โธลิน
หากไม่มีอาการปวด สามารถรักษาที่บ้านได้ค่ะ โดยการนั่งในกะละมังน้ำอุ่นหรือประคบอุ่น ถ้ารู้สึกเจ็บที่ต่อมนี้ขึ้นมาหรือต่อมบวมโตขึ้น นั่นแปลว่าต่อมบาร์โธลินมีการติดเชื้อ ต้องพบแพทย์เพื่อรักษา ระบายหนองออกค่ะ (อย่าบีบเองนะคะ มันไม่ใช่สิว)
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1378966345
"รูขุมขนอักเสบ" เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่รูขุมขน เกิดเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีแดง บางครั้งอาจมีอาการปวดได้
อาจเกิดจากการโกน การแวกซ์ขน หรือเกิดจากการถอนขน (แบบใช้แหนบดึงก็เป็นได้นะคะ) รูขุมขนอักเสบส่วนใหญ่จะหายได้เองค่ะ แค่ดูแลสุขภาพอนามัยบริเวณดังกล่าวให้ดี สวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่รัดบริเวณดังกล่าวจนเกินไป (ขอให้มีอากาศถ่ายเทได้บ้าง) หรือประคบอุ่น จะทำให้รูขุมขนอักเสบหายได้เร็วขึ้นค่ะ ถ้าตุ่มดังกล่าวไม่หายซักที หรือพัฒนากลายเป็นตุ่มใหญ่ ควรปรึกษาแพทย์นะคะ
"ผิวหนังอักเสบ" หรือมีอาการระคายเคือง อาจเกิดจากการแพ้สบู่ น้ำหอม หรือน้ำยาซักผ้า ซึ่งอาการได้แก่ อาการคัน (ซึ่งส่วนใหญ่จะคันมาก) แสบร้อน บางคนเกาจนเป็นแผลเลยทีเดียว วิธีรักษาก็คือกำจัดที่สาเหตุก่อนค่ะ คือหลีกเลี่ยงสาเหตุของการแพ้ เช่น เพิ่งจะคันหลังจากเปลี่ยนยี่ห้อสบู่ หรือเปลี่ยนน้ำยาซักผ้า ก็ให้กลับไปใช้ยี่ห้อเดิมไปก่อน ประคบเย็น ทาปิิโตรเลียมเจลบาง ๆ บริเวณที่แพ้ ในรายที่คันมากหรือแพ้มาก ควรพบแพทย์เพื่อรับยาแก้แพ้ หรือยาทา
"ถุงน้ำที่ต่อมบาร์โธลิน" ต่อมบาร์โธลินจะอยู่ที่ข้าง ๆ ปากช่องคลอดค่ะ ต่อมนี้มีหน้าที่สร้างสารหล่อลื่นขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งถ้าต่อมนี้เกิดอุดตันขึ้นมา จะเกิดถุงน้ำที่ต่อมบาร์โธลินได้ คุณผู้หญิงที่มีถุงน้ำอาจจะคลำได้ก้อนเล็ก ๆ ตอนอาบน้ำก็ได้ค่ะ ถุงน้ำนี้ไม่ได้สร้างอาการเจ็บหรือปวดอะไร จนกว่าจะเกิดการติดเชื้อที่ต่อมบาร์โธลิน
หากไม่มีอาการปวด สามารถรักษาที่บ้านได้ค่ะ โดยการนั่งในกะละมังน้ำอุ่นหรือประคบอุ่น ถ้ารู้สึกเจ็บที่ต่อมนี้ขึ้นมาหรือต่อมบวมโตขึ้น นั่นแปลว่าต่อมบาร์โธลินมีการติดเชื้อ ต้องพบแพทย์เพื่อรักษา ระบายหนองออกค่ะ (อย่าบีบเองนะคะ มันไม่ใช่สิว)
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1378966345
หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ : ข่าวการเงิน ตลาด รถยนต์ พร็อพเพอร์ตี้ ไอซีที ท่องเที่ยว ต่างประเทศ เศรษฐกิจในประเทศ
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 18:41
วัยรุ่น อายุระหว่าง 15-24 ปี จัดว่าอยู่ในภาวะเสี่ยงมากที่สุด.
ในผู้ป่วยทุกรายที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ควรตรวจหาการติดเชื้อซิฟิลิสและเอชไอวีด้วย คนที่สัมผัสกับผู้ที่กำลังเป็นโรคหนองในภายใน 30 วันควรได้รับการตรวจหาเชื้อและได้รับการรักษาเช่นเดียวกับคนที่เป็นโรค
โรคหนองในเทียมชนิดเรื้อรังซึ่งมีอยู่ประมาณร้อยละ 30 ของผู้ป่วยโรคนี้มักจะเป็นๆ หายๆ ถึงแม้ว่าจะได้รับการรักษาแล้ว. สาเหตุที่มีอาการเป็นๆ หายๆ ได้แก่ การไปรับเชื้อมาใหม่ เช่น ภรรยาหรือคู่รักไม่ได้รับการรักษาพร้อมกัน. การติดเชื้อชนิดดื้อยา ซึ่งพบมากขึ้นในระยะหลังเกิดและการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ท่อปัสสาวะตีบ หรือต่อมลูกหมากอักเสบ.
ผู้ป่วยที่เป็นวัยรุ่นและเยาวชนมักมาด้วยซิฟิลิสระยะแรกหรือระยะที่สอง ถ้าเป็นระยะที่สอง ควรตรวจหาการติดเชื้อซิฟิลิสและเอชไอวีด้วย..
การติดเชื้อ Trichomonas เชื้อสามารถอยู่ได้ 24 ชั่วโมงในสภาพที่ชื้น ดังนั้นอาจจะติดจากผ้าเช็ดตัวได้ ระยะฟักตัวของเชื้อประมาณ 5-28 วัน.ผู้ชายอาจจะไม่มีอาการ หรืออาจจะมีอาการระคายเคืองหลังปัสสาวะหรือมีหนองไหลเล็กน้อย. สำหรับผู้หญิงจะมีอาการตกขาวสีเหลืองกลิ่นเหม็น ปวดหลังปัสสาวะหรือปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ คันบริเวณอวัยวะเพศ
โรคติดเชื้อเอชไอวีเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีความอันตรายสูงสุด ผู้ป่วยที่ติดเชื้อนี้ที่เป็นวัยรุ่นและเยาวชนมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จึงควรตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีในวัยรุ่น และเยาวชนทุกรายที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การรักษาด้วยยาต้านไวรัสในวัยรุ่นและเยาวชนพบว่าได้ผลการรักษาดีไม่แตกต่างจากวัยอื่น แต่มักเป็นกลุ่มอายุที่กินยาไม่สม่ำเสมอได้บ่อย
ข้อคิด
- วัยรุ่นและเยาวชนมักจะคิดว่าการมีเพศสัมพันธ์กับเพื่อนหรือคนรู้จักมีความปลอดภัย จึงไม่ยอมใช้ถุงยางอนามัย ทำให้มีการติดเชื้อได้ง่าย.
- วัยรุ่นและเยาวชนที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มักซื้อยารักษาเอง และไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ทำให้มีภาวะแทรกซ้อนบ่อย.
- วัยรุ่นและเยาวชนที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และพบแพทย์ มักจะไม่ได้รับการแนะนำให้ตรวจหาเชื้อเอชไอวี และการรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์คู่นอน.
- วัยรุ่นและเยาวชนที่ติดเชื้อเอชไอวีมักจะไม่รู้ตัวและไม่ได้รับการรักษา ทำให้มาด้วยความเจ็บป่วยรุนแรง.
https://www.doctor.or.th/clinic/detail/7320
ในผู้ป่วยทุกรายที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ควรตรวจหาการติดเชื้อซิฟิลิสและเอชไอวีด้วย คนที่สัมผัสกับผู้ที่กำลังเป็นโรคหนองในภายใน 30 วันควรได้รับการตรวจหาเชื้อและได้รับการรักษาเช่นเดียวกับคนที่เป็นโรค
โรคหนองในเทียมชนิดเรื้อรังซึ่งมีอยู่ประมาณร้อยละ 30 ของผู้ป่วยโรคนี้มักจะเป็นๆ หายๆ ถึงแม้ว่าจะได้รับการรักษาแล้ว. สาเหตุที่มีอาการเป็นๆ หายๆ ได้แก่ การไปรับเชื้อมาใหม่ เช่น ภรรยาหรือคู่รักไม่ได้รับการรักษาพร้อมกัน. การติดเชื้อชนิดดื้อยา ซึ่งพบมากขึ้นในระยะหลังเกิดและการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ท่อปัสสาวะตีบ หรือต่อมลูกหมากอักเสบ.
ผู้ป่วยที่เป็นวัยรุ่นและเยาวชนมักมาด้วยซิฟิลิสระยะแรกหรือระยะที่สอง ถ้าเป็นระยะที่สอง ควรตรวจหาการติดเชื้อซิฟิลิสและเอชไอวีด้วย..
การติดเชื้อ Trichomonas เชื้อสามารถอยู่ได้ 24 ชั่วโมงในสภาพที่ชื้น ดังนั้นอาจจะติดจากผ้าเช็ดตัวได้ ระยะฟักตัวของเชื้อประมาณ 5-28 วัน.ผู้ชายอาจจะไม่มีอาการ หรืออาจจะมีอาการระคายเคืองหลังปัสสาวะหรือมีหนองไหลเล็กน้อย. สำหรับผู้หญิงจะมีอาการตกขาวสีเหลืองกลิ่นเหม็น ปวดหลังปัสสาวะหรือปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ คันบริเวณอวัยวะเพศ
โรคติดเชื้อเอชไอวีเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีความอันตรายสูงสุด ผู้ป่วยที่ติดเชื้อนี้ที่เป็นวัยรุ่นและเยาวชนมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จึงควรตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีในวัยรุ่น และเยาวชนทุกรายที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การรักษาด้วยยาต้านไวรัสในวัยรุ่นและเยาวชนพบว่าได้ผลการรักษาดีไม่แตกต่างจากวัยอื่น แต่มักเป็นกลุ่มอายุที่กินยาไม่สม่ำเสมอได้บ่อย
ข้อคิด
- วัยรุ่นและเยาวชนมักจะคิดว่าการมีเพศสัมพันธ์กับเพื่อนหรือคนรู้จักมีความปลอดภัย จึงไม่ยอมใช้ถุงยางอนามัย ทำให้มีการติดเชื้อได้ง่าย.
- วัยรุ่นและเยาวชนที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มักซื้อยารักษาเอง และไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ทำให้มีภาวะแทรกซ้อนบ่อย.
- วัยรุ่นและเยาวชนที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และพบแพทย์ มักจะไม่ได้รับการแนะนำให้ตรวจหาเชื้อเอชไอวี และการรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์คู่นอน.
- วัยรุ่นและเยาวชนที่ติดเชื้อเอชไอวีมักจะไม่รู้ตัวและไม่ได้รับการรักษา ทำให้มาด้วยความเจ็บป่วยรุนแรง.
https://www.doctor.or.th/clinic/detail/7320
ปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคติดเชื้อเอชไอวีในเยาวชนและวัยรุ่นการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ยังคงเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทยมาตลอด. ปัจจัยสำคัญที่สุดที
1
Add a comment...
ด้วยความห่วงใย
.....................
BETTER PHARMACY เจ็ดยอด เชียงใหม่
เราคัดสรรสิ่งที่ดี มีคุณภาพ เพื่อคุณ
FACEBOOK / BetterPharmacyCMG
LINE ID - BETTERCM
.....................
UPDATE - 2016.08.10
No comments:
Post a Comment