Thursday, April 4, 2019

CHIANG MAI PM2. 5 / 1

เอกชนชี้รัฐแทรกแซงราคาข้าวโพดต้นเหตุเผาป่า :
ลงทุนทำกิน (4 เม.ย. 62)
https://www.youtube.com/watch?v=yoAcnbFEq24

12 ปียังแก้ไม่ได้"วิกฤติฝุ่นพิษภาคเหนือ" | 03-04-62 | ไทยรัฐเจาะประเด็น
https://www.youtube.com/watch?v=HjF-wHkRhpM

Nattha live! ความร้ายกาจของฝุ่นพิษ กับ ศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ 

https://www.facebook.com/Nattha.Newsbeat/videos/2208235772772077/


มหันตภัยฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 


เมื่อได้ฟังหน่วยงานราชการพูดถึงปัญหาฝุ่นในภาคเหนือแล้วถึงขั้นกับของขึ้น !!!!!



เมื่อวานได้มีโอกาสเข้าร่วมเวทีเสวนาเกี่ยวกับปัญหาฝุ่นควันที่หนักหนาสาหัสในภาคเหนือ จัดโดยมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ในขณะที่ผมรู้สึกชื่นชม #มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ที่จัดงานนี้ขึ้น
ในขณะที่ผมรู้สึกชื่นชม อาจารย์แต่ละสำนักวิชาที่ได้ทำการศึกษาในเชิงวิชาการในด้านที่ตนถนัด
ในขณะที่ผมรู้สึกชื่นชม นักศึกษาที่กล้าคิด กล้าทำ และใส่ใจปัญหาของส่วนรวม
ในขณะที่ผมรู้สึกชื่นชม ภาคประชาชนและท้องถิ่นที่รู้จริงถึงสาเหตุของปัญหาและพยายามแก้ปัญหาด้วยตัวเอง

แต่.... ผมกลับต้องรู้สึกผิดหวังเมื่อได้รับทราบข้อมูลและแนวทางแก้ปัญหาของราชการ
สาธารณสุข บอกว่า ที่ไม่แจกหน้ากาก เพราะมีแนวนโยบายจากท่านผู้ว่าฯอยากให้ประชาชนดูแลตนเอง!!! 
แต่ก็ยังมีความพยายามจากสาธารณสุขจังหวัดให้เห็นอยู่บ้างจากการแจกหน้ากากในคนไข้บางกลุ่ม และให้ อสม. เป็นคนแจกจ่าย

แต่... นี่มันเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินนะครับ ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ ควรต้องมีการรับมือที่ดีและทั่วถึงกว่านี้😡😡😡

มีความเพิกเฉยและไม่ยอมรับว่าฝุ่นควันนี้เป็นปัญหา จากการที่หน่วยงานราชการไม่เคยนำค่า PM 2.5 มาใช้ และซ้ำร้ายที่สาธารณสุขบอกว่าจำนวนคนไข้ก็ไม่เห็นจะเพิ่มขึ้น 😓😓😓

แถมด้วยหน่วยงานความมั่นคงยังเชื่อมโยงไฟป่าที่เพิ่มขึ้นกับเรื่องการเมืองซะงั้น 😳😳😳
ทั้งที่ไฟป่าที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ส่วนหนึ่งมาจากในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมาแต่ละท้องถิ่นมีการป้องกันไฟป่ากันอย่างเข้มข้น ส่งผลให้พวกเชื้อเพลิงสะสมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปีนี้เมื่อเกิดไฟป่าจึงรุนแรงและลุกลามได้มาก

เมื่อได้ฟัง ผมจึงได้ข้อสรุปว่าปัญหาที่แก้ไม่ได้ เกิดจากหน่วยงานภาครัฐที่ควรต้องเป็นกลไกในการแก้ปัญหา แต่กลับไม่ทำหน้าที่

และที่น่าเสียดายที่สุด คือ ทางมหาวิทยาลัยมีการเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดมาร่วมด้วย แต่ท่านผู้ว่าฯ ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการบัญชาการกลับไม่มาร่วมและไม่มีแม้กระทั่งการส่งผู้แทนมาเลย

ถ้ายังปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป เราจะไม่สามารถจัดการกับปัญหานี้ได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาวเลย และกังวลว่าหากมีปัญหาฉุกเฉินเร่งด่วนอื่นๆ ก็คงยากที่จะรับมือได้ ในสภาพของระบบรัฐราชการรวมศูนย์ที่ใหญ่โตเทอะทะแต่เคลื่อนตัวช้าแบบนี้

มีคนท้าว่าผมจะทำอะไรได้ นอกจากพูดไปวันๆ ?!!!!
ผมก็อยากจะท้าเหมือนกันว่า ลองให้ผมนั่งหัวโต๊ะสั่งการในการแก้ปัญหาดูสิครับ กล้ากันมั้ยล่ะ 😉
นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ
ว่าที่ สส. เชียงราย เขต 1 พรรคอนาคตใหม่
https://www.facebook.com/ekkapob.pianpises/posts/2641274509221444


CHIANG MAI PM2. 5 / 1
แถลงการณ์ ร่วมขับไล่ตำแหน่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่
.
ความไร้น้ำยาของผู้ว่าราชการจังหวัดต่อการจัดการมลพิษฝุ่นที่ได้ดำเนินมามากกว่าหนึ่งเดือนในเชียงใหม่และอีกหลายจังหวัดภาคเหนือ ในด้านหนึ่งอาจสะท้อนปัญหาความสามารถส่วนบุคคลของผู้ว่าฯ แต่ละคน บางส่วนอาจมีความสามารถอยู่มาก บางคนอาจมีอยู่บ้าง และบางคนก็อาจไม่มีอยู่เลย ขึ้นอยู่กับโชคชะตาของผู้คนในแต่ละแห่ง
.
แต่ในอีกด้านหนึ่ง ปัญหานี้สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวของการปกครองในท้องถิ่นที่อยู่ภายใต้อำนาจของรัฐราชการรวมศูนย์ของไทย หน่วยงานในระดับท้องถิ่นต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลที่กรุงเทพฯ เป็นหลัก การเติบโต การตกอับ ความก้าวหน้า ของแต่ละคนล้วนขึ้นอยู่กับรัฐบาลและรัฐมนตรีเป็นสำคัญ ความเห็น ความรู้สึก และแม้กระทั่งสวัสดิภาพของประชาชนในท้องถิ่นก็มีค่าเบาบางเสียยิ่งกว่าฝุ่นเสียอีก
.
จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจที่จะไม่มีการประกาศให้เชียงใหม่เป็นเขตควบคุมมลพิษ เพราะมันอาจกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งหมายถึงรายได้ของรัฐโดยรวม ทำให้ไม่มีการประกาศเกิดขึ้นเพราะเกรงกระทบต่อภาพรวมที่รัฐบาลรับผิดชอบ แม้ว่าปริมาณฝุ่นจะอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายอย่างรุนแรงต่อชีวิตของคนในพื้นที่ก็ตาม
.
ต่อให้มีคนตายเกิดขึ้นก็ไม่ได้มีนัยสำคัญต่อการดำรงตำแหน่งของตนเองแต่อย่างใด ตราบเท่าที่รัฐบาล (โดยเฉพาะรัฐบาลภายใต้ คสช.) ยังพึงพอใจอยู่ก็เป็นการเพียงพอแล้ว
.
ปัญหาของการจัดการฝุ่นจึงไม่ใช่แค่ความไร้น้ำยาส่วนตัวของผู้ว่าฯ แต่ละคน แต่เป็นปัญหาในระดับโครงสร้าง การเรียกร้องให้ผู้ว่าฯ ออกจากพื้นที่ที่มีปัญหาไปก็ไม่มีหลักประกันว่าคนที่จะมาทดแทนจะทำหน้าที่ตอบสนองต่อชีวิตของคนในพื้นที่แต่อย่างใด รวมทั้งอาจเป็นการผลักเอาผู้ว่าฯ ที่ไร้น้ำยาไปให้กับผู้คนในจังหวัดอื่นรับกรรมต่อไป
.
สิ่งที่ควรทำก็คือ ควรต้องร่วมกันขับไล่ตำแหน่งผู้ว่าฯ ที่มาจากการแต่งตั้งโดยรัฐราชการรวมศูนย์ โดยการเปลี่ยนให้เป็นผู้ว่าฯ ที่มาจากความเห็นชอบของประชาชนในจังหวัดนั้นๆ เอง ซึ่งอาจช่วยให้ศีรษะของผู้คนในท้องถิ่นได้ถูกมองเห็นเพิ่มมากขึ้น
.
ศูนย์วิจัยและพัฒนากฎหมาย
คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
30 มีนาคม 2562
เจอคำตอบแล้วครับว่าทำไมผู้ว่าถึงยังไม่ประกาศให้เชียงใหม่เป็นเขตภัยพิบัติ? เพราะติดระเบียบนั่นเอง!!!??? https://news.thaipbs.or.th/content/278767
ว่าจะอดทนยอมรับสภาพ ไม่โวยวายเรื่องนี้อีกแล้ว เพราะเห็นว่าที่ผ่านมาโวยวายไป ตนก็ไม่อาจช่วยหาทางออกที่มีประสิทธิภาพได้ ด้วยปัญหาเรื่องมลพิษทางอากาศนี้มีหลากหลายมิติจนมิอาจแก้ไขได้โดยง่ายเหมือนใจหวัง
การศึกษาที่ผ่านมา ชี้ชัดว่า มลพิษทางอากาศมีผลร้ายต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาวทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ เพิ่มอัตราเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง มะเร็งปอด มีผลกระทบต่อพัฒนาการในเด็ก หรือแม้แต่ มีผลให้ทารกคลอดก่อนกำหนด
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือแม้ปัจจัยเสี่ยงต่อโรคเหล่านี้
มีหลายปัจจัย โดยบางปัจจัยนั้นสามารถหลีกเลี่ยงได้
แต่สำหรับ ผลกระทบที่เกิดจากมลพิษทางอากาศแล้ว ไม่มีใครที่หลีกเลี่ยงได้เพราะทุกคนต้องหายใจ ผลกระทบในระดับประชากรจึงรุนแรงนัก
แม้ผมยังไม่สามารถเสนอทางแก้ไขที่เป็นรูปธรรมได้ในขณะนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นมาตลอดว่าเป็นอุปสรรคใหญ่ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงคือ ความเข้าใจและตระหนักในระดับของความรุนแรงของปัญหาของประชาชนส่วนใหญ่ยังมีน้อย รวมถึงทัศนคติของหน่วยงานรัฐ ที่มีต่อปัญหาหมอกควันพิษ (apathy)
ผมเชื่อว่าประชาชนอีกมากที่ยังไม่เข้าใจลึกซึ้งถึงภยันตรายทั้งระยะสั้นและระยะยาวของมลพิษทางอากาศ มากพอจนให้เกิดแรงผลักดันเปลี่ยนแปลงทางสังคม
สิ่งที่ประชาชนผู้รับชะตากรรม ไม่สบายใจคือ
1. ประชาชนไม่อาจมีความ เชื่อมั่น ข้อมูลจากหน่วยงานของรัฐที่รายงานสถานการณ์มลพิษทางอากาศจนต้องลุกขึ้นพึ่งพาตนเองสร้างเครือข่ายติดตามสภาวะสภาพอากาศด้วยตัวเอง
2. ผู้ที่เจตนาดี เสียสละลุกขึ้นช่วยรณรงค์สร้างความตระหนักให้ประชาชน ก็ถูกภาครัฐ มองเป็นศัตรู ให้งดกิจกรรมรณรงค์ไม่พอ ยังทำเรื่องกล่าวโทษฟ้องร้องว่าทำเสื่อมเสียภาพลักษณ์
3. จริงอยู่ว่า หลายคนอาจรู้สึกว่าการเผยแพร่ภาพ บรรพกษัตริย์ (แห่งอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ) สวมหน้ากากพิษเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ตามธรรมเนียม (แม้เป็นเรื่องปกติในสากล)
แต่หากมองเจตนา ของผู้เผยแพร่ นั้นที่สุดไม่ใช่การลบหลู่ แต่ต้องการสร้างความตระหนักให้กับสังคม
เพื่อหวังให้เกิดการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ในทุกภาคส่วน
4. ผู้บริหารภาครัฐ โดยเฉพาะทางจังหวัด เป็นห่วงแต่ภาพพจน์ของตนเอง มากกว่า สุขภาพประชาชน
ประชาชนรู้สึกว่า เจ้าหน้าที่รัฐทำตัว เหมือนมีอำนาจล้นฟ้า ไม่ฟังเสียงประชาชน เอะอะก็บอกจะฟ้องร้อง มองประชาชนเป็นศัตรู
5. หลายคนเกรงว่าหากสร้างความตระหนัก จะเกิดความตระหนก ส่งผลลบในด้านผลต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ
ผมกลับมองว่า ในฐานะเจ้าบ้านผู้มีความรับชอบ
เราควรแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนถึงสถานการณ์ความรุนแรงของสภาวะมลพิษทางอากาศอย่างตรงไปตรงมา
อยากให้เขาเห็นว่าเราคำนึงถึงความปลอดภัยสุขภาพของเขามากกว่าเงินในกระเป๋าของเขา
ผมเชื่อว่า โดยวิธีคิดแบบนี้แม้เราอาจสูญเสียรายได้ไปบ้างในระยะสั้น แต่ชื่อเสียงของเราในการเป็นเจ้าบ้านที่รับผิดชอบจะสร้างความเชื่อมั่น ความรู้สึกที่ดี ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์และเศรษฐกิจท้องถิ่นของเราในระยะยาว
6. ผมขอชื่นชม ผู้บริหารคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่จะแจกหน้ากากให้กับบุคลากรทุกคน ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เป็นตัวอย่างหน่วยงานทางสุขภาพ ที่ชี้นำสังคม ในทางที่ถูกต้อง อยากให้หน่วยงานราชการอื่นทำบ้าง
แม้แทบจะสิ้นหวัง
แต่ผมยังเชื่อว่า สังคมที่เจริญแล้ว คือสังคมที่ยอมรับความจริง ไม่หลีกเลี่ยงปัญหา ระดมสติปัญญาในการค้นหาต้นตอแท้จริง และวางแผนแก้ไขในระยะยาวอย่างเป็นระบบ โดยใช้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์และขบวนทางสังคมที่มีส่วนร่วมจากทุกๆคน
ด้วยความรักและหวังดีจริงๆครับ
งบดับไฟป่าแต่ละปีไม่รู้กี่ร้อยล้านมันกระจายหายไปกับไฟ สุดท้ายต้องมาขอรับบริจาคจากประชาชน​ ในขณะ่ประชาชนและภาคเอกชนดิ้นด้วยตัวเองมาเป็นเดือน
ค่าฝุ่นควัน​พุ่งพรวด
พะเยา​ แม่อาย​ เวียง
เชียงใหม่วิกฤต‼️ ฝุ่นพิษพุ่งสูง ณ เวลา 11.00 น. ค่าฝุ่นพิษ Beyond AQI รวม 9 จุด ถูกหมอกควันหนาทึบปกคลุมหนาแน่นทุกพื้นที่ https://www.cm108.com/bbb/topic/8421-เชียงใหม่วิกฤต-beyond-aqi-รวม-9-จุด/
โปดโทะ
นักวิชาการ มช. คาด หมอกควันพิษในเชียงใหม่ อาจยาวนานถึงเดือน พ.ค. http://news.thaipbs.or.th/content/278860
เมื่อวาน
ช่วงบ่ายลมแรง
มองไปทางดอยหลวงทึบเทา เห็นกลุ่มควันไฟ
พุ่งโพยขึ้น ทางยอดดอยสามพี่น้อง ในใจนึกหวั่น
สงสารกวางผา ต้องหนีตายไปชุกซ่อน ในซอกหน้าผา
สักพัก ได้ยินเสียงเฮริคอปเตอร์ เห็นหิ้วถังน้ำมา มาโปรย
อยู่ 3-4 รอบ
เรารู้สึกดีใจ เหมือนในหนัง ทั้งที่ไม่รู้ว่า
มันจะดับได้หรือไม่
จนป่านนี้
ยังไม่มีท่าทีว่าจะมีฝนตก
น้ำในลำห้วย เริ่มแห้งขอดและเหือดหายไป
ป่าหลายที่ แห้งๆๆ แห้งมากๆๆๆ จนใบไม้กรอบแกบ
ไฟป่า มักจะเกิดในช่วงบ่ายๆ
ช่วงเช้าเป็นโอกาส ที่จนท.และชาวบ้าน
จะได้เตรียมตัว ทั้งเสบียงและอุปกรณ์ดับไฟ
แล้วออกไปลาดตะเวนและเฝ้าระวัง ตามจุดเสี่ยง
ถ้าพบไฟป่ากำลังไหม้ ก็จะเข้าไปช่วยกันดับทันที
หลายครั้ง ไฟดับไปแล้ว ก็ลุกไหม้ขึ้นมาได้อีก
ก็ต้องดับอีก จนค่ำมืด
ผมเห็นเด็กหนุ่ม ลูกจ้างดับไฟบางคน
ถึงกับนอนแผ่หร่า ไปตามพื้นดิน
อย่างสิ้นแรง
ไฟป่า
ร้อยทั้งร้อยนั้น เกิดจากคนเผา
คนเผา ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นชาวบ้านเราๆนี้แหละ
(ไม่ได้มีเจตนา กล่าวโทษ แต่ต้องการชี้ให้เห็นถึง ที่มาของไฟป่า)
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่ไม่ได้ รับรู้ข่าวสารข้อมูลอะไร
ไม่รู้หนังสือหรือบางคนอาจจะพูดไทยไม่ได้เสียด้วยช้ำ
ในชีวิตพวกเขาเข้าป่า มากกว่าเข้าเมือง
ป่าจึงเป็นแหล่งหากิน ทั้งเก็บหาของป่า
และเลี้ยงสัตว์
แต่หลายพื้นที่
ไฟป่าก็เกิดจากการเผาไร่ข้าวโพด
แล้วลุกลามไปในป่า ยิ่งลามเข้าไปในป่า
ที่ลาดชัน ดอยสูงและห่างไกล ก็จนปัญา
ที่จะหยุดยั้งได้
สถานการณ์ไฟป่า
ยิ่งนานวันเข้า ทั้งจนท.และชาวบ้าน
ก็อ่อนหล้า โรยแรงและเหน็ดเหนื่อย
บางครั้งก็ เห็นเขาปล่อย ให้ไฟมันไหม้ไปเลยก็มี
น่าเห็นใจครับ
ตอนนี้ไปหนักเอาแถวพม่า​ อินเดีย​อีสาน​ บังคลาเทศ
นักวิชาการโพสต์เตือนฝุ่น PM2.5 สุดน่ากลัว! ชาวเชียงใหม่สูดฝุ่นเข้าปอด 80 ล้านเม็ดต่อนาที
อายุรแพทย์โรคปอด ที่ดูแลเรื่องนี้มาหลายปี สิ่งที่ คาดการณ์คือในปี 2562 คนไข้ต้องมากขึ้น เพราะค่าฝุ่นสูงและนาน แต่พบว่า ผู้ป่วยต่ำ ซึ่งประเมินว่าชาวบ้านมีการ เตรียมตัวมาอย่างดี เพราะรู้ว่ามีค่าฝุ่นสูงขึ้นแน่ๆ และมีข่าวฝุ่นใน กทม.นำมาก่อน ทำให้รับรู้และป้องกันตนเองได้ถูกต้อง มากขึ้น
ฝุ่นเชียงใหม่วิกฤต https://www.posttoday.com/social/local/584564
ครอบครัวเดชา ชาว จ.เชียงใหม่ ตัดสินใจย้ายออกจากพื้นที่ หลังสถานการณ์ฝุ่นวิกฤตต่อเนื่อง และไม่มีวี่แววที่จะดีขึ้น กระทบลูกชายวัย 4 ขวบ ป่วยเป็นปอดอักเสบ เลือดกำเดาไหลไม่หยุด #วิกฤตฝุ่นเชียงใหม่ #ThaiPBSnews #ThaiPBS อ่านต่อ >> http://news.thaipbs.or.th/content/278686


เฮ้อ... ว่าจะไม่​ post แระ​ แต่เห็นแล้วมันอดไม่ไ้ด้
โดย​ tradition ของมหาดไทย​ จะส่งคนมาเกษียณที่เชียงใหม่​ มันก็เลยเป็นได้แค่อย่างที่เห็น​ ทำเต็มที่ได้แค่เนี้ย​ เพื่ิอนที่เป็นข้าราชการระดับสูงเคยพูดไว้หลายปีแล้ว
ล่าชื่อปลดผู้ว่าฯ เชียงใหม่ หลังฝุ่นพิษวิกฤต เจ้าตัวขอบคุณ ยันทำเต็มที่ ชี้สถานการณ์ไม่เลวร้าย - ข่าวสด https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_2339498
ศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ทำหน้าที่รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เพียง 6 เดือน มติครม.เมื่อวันอังคารที่ 24 เม.ย. โยกสลับตำแหน่งกับ ปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ก่อนจะเกษียณอายุราชการในปี 2562
ร่วมลงชื่อขอเปลี่ยนผู้ว่าฯเชียงใหม่ ไร้ประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาฝุ่นควัน
19.00 น. มีผู้สนับสนุน 2,515 คน ขออีกให้ถึง 5,000 คน!

ดวงจันทร์กลายเป็นสีแดง เนื่องจากมลพิษฝุ่นในอากาศ วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2562 เวลา 21:35 น.
สีของดวงจันทร์บอกปริมาณฝุ่นในอากาศได้ ปกติเวลาดวงจันทร์อยู่ใกล้ขอบฟ้า เช่นเวลาดวงจันทร์ขึ้น จะเห็นสีดวงจันทร์เป็นสีแดง แล้วเปลี่ยนสีเป็นส้ม เหลือง และขาว ตามลำดับ (เหมือนสีดวงอาทิตย์ขึ้น) แต่ถ้าดวงจันทร์ลอยสูงจากขอบฟ้าแล้วยังเห็นดวงจันทร์เป็นสีแดง สีส้ม หรือสีเหลือง แสดงว่าในอากาศมีฝุ่นมาก ยิ่งฝุ่นมากสีดวงจันทร์จะยิ่งออกแดงหรือส้มมาก นอกจากนี้ความสว่างของแสงจันทร์จะลดลงกว่าปกติอีกด้วย
ในภาพดวงจันทร์เป็นสีแดง ขณะที่ถ่ายรูปนี้ดวงจันทร์อยู่สูงจากขอบฟ้า 21 องศา (คำนวณโดยแอป SkySafari) ปกติถ้าฝุ่นไม่มากดวงจันทร์จะเป็นสีขาวและสว่างกว่านี้ ปริมาณฝุ่นขนาด PM2.5 ที่ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง เชียงใหม่ เวลา 21:00 น. วัดได้ 114 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง) สูงกว่าค่ามาตรฐานของประเทศไทย 2 เท่า (กำหนดไว้ที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) สูงกว่าค่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลกเกือบ 5 เท่า (กำหนดไว้ที่ 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) มีผลกระทบต่อสุขภาพ ข้อมูลจากแอป Air4Thai ของกรมควบคุมมลพิษ
เมื่อเวลา 19:57 น. เชียงใหม่มีอากาศแย่ที่สุดอันดับ 1 ของโลก ค่าดัชนีคุณภาพอากาศ 178 (ค่ามาตรฐาน 100) ข้อมูลจากแอป AirVisual
กล้อง Canon PowerShot SX50 HS, Canon Zoom Lens 50x IS 4.3-215.0mm f/3.4-6.5 USM, ความเร็วชัตเตอร์ 1/4 วินาที, รูรับแสง f/6.5, ISO 400, ทางยาวโฟกัส 215.0mm, Digital zoom x1.5, Daylight ภาพต้นฉบับ ไม่ตัดและไม่แต่งภาพ ถ่ายโดย พงศธร กิจเวช (อัฐ) Facebook: คนดูดาว Stargazer https://www.facebook.com/khondudao/
จำนวนผู้ป่วยด้วย 4 กลุ่มโรคที่ได้ผลกระทบสุขภาพจากภาวะหมอกควันและไฟป่า ของจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงสัปดาห์ที่ 1-10 (6 มค. - 16 มีค. 2562)
.
อันดับที่ 1 คือ กลุ่มโรคทางเดินหายใจทุกชนิด พบผู้ป่วยกว่า 40,383 ราย และอันดับที่ 2 คือ กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดทุกชนิด พบผู้ป่วยกว่า 29,651 ราย ส่วนอันดับที่ 3 คือ กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ และ กลุ่มโรคตาอักเสบ พบผู้ป่วยจำนวน 2,783 และ 2,373 รายตามลำดับ
.
(อ้างอิงข้อมูลจาก สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่)
เชียงใหม่​วิกฤติ​แล้วค่ะ โรงเรียน​ปิดบ้างแล้ว ผู้ปกครอง​ไม่ยอมให้ลูกไปเรียน หลายคนมีเลือดกำเดาไหน หายใจไม่สะดวก​ มาช่วย​กันคิดแก้ค่ะ

OMG... คิดว่าตามหาแต่ผู้ว่าเจียงใหม่
ผู้ว่าเจียงฮายก็ถูกตามหาเหมือนกัน
ผู้ว่าเจียงฮายกับเจียงใหม่นี่รู้ๆกันอยู่ว่าเด็กใคร
ใครส่งมา​ เพื่ออะไร
แล้วดูผลงานจากการปฏิบัติว่าคุ้มค่าภาษีที่ประชาชนเลี้ยงดูหรือไม่

✿ สงสารคนทางเหนือที่เจอฝุ่นควันจากการเผาป่า เผาซังข้าวโพดของชาวบ้านและที่เกิดจากธรรมชาติเอง ซึ่งมีอยู่ทุกปี
บางส่วนก็มาจากพม่า ซึ่งทางเราก็ขอความร่วมมือไป เพราะมีชาวไร่ข้าวโพดเผาซังข้าวโพด "ลุงตู่" ก็บอกมาเองว่าเกิดทุกปี และบางส่วนเกิดจากธรรมชาติ กลายเป็นตรงข้ามกับที่รองแม่ทัพพูด
ทางรัฐก็ไม่ยอมประกาศให้เป็น "เขตภัยพิบัติ" สักที อ้างคาดว่าจะหมดไปใน 2-3 วัน ซึ่งก็ผ่านมาหลายอาทิตย์แล้ว เหตุที่ไม่กล้าประกาศเพราะกลัวนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่มาเที่ยวกัน นั่นยังไม่เท่าไหร่ ดันมีทหารประเภทเชลียร์นาย หาว่าคนในแวดวงการเมืองเผาเพื่อหวังผลทางการเมืองซะงั้น เมื่อไหร่จะใช้สมองให้มากกว่านี้กันสักที เป็นถึงรองแม่ทัพกลับออกมาพูดเช่นนี้ ทำให้ดูไม่สมกับตำแหน่งเอาซะเลย พอทีเถอะนะครับ การพูดเอาใจนาย กลับจะกลายเป็นบ่อนทำลายนายซะมากกว่า
UPDATED 190330

No comments:

Post a Comment