Wednesday, May 4, 2016

หมอยาพาสวย


จริงๆแล้ว ในปัจจุบันนี้จะลดการใช้ยาฆ่าเชื้อในทุกกรณี รวมทั้งยาทาสิวประเภท CLINDAMYCIN
..................................

มีสาวๆที่เป็นพริตตี้ inbox มาถามว่า.....
“คุณหมอพอจะมีวิธีรักษาสิววิธีไหนที่เห่อน้อยยยยที่สุดไม๊คะ ต้องทำงานที่โชว์หน้า ถ้าเห่อเต็มหน้านี้ไม่ไหวแน่เลย”

คือเข้าใจเลยนะคะ ว่าสาวๆรู้สึกยังไงเวลาทายาช่วงแรกแล้วสิวเห่อ
โดนัทเลยรีบเขียนมาให้เลยค่ะ

เรามาเริ่มกันเลยค่ะ

1. ใช้ BP(Benzoyl Peroxide )2.5% คือความเข้มข้นต่ำที่สุด ช่วงเริ่มแรกต้องไม่ห้าวหาญใช้ความเข้มข้นสูงๆนะคะ เริ่มแบบน้อยๆไปก่อนค่ะ ทาไว้ก่อนล้างหน้า 2-5 นาที ไม่ต้องทิ้งไว้นานนะคะ บางคนปาไป 30 นาที ถึงข้ามคืน ไม่เอาเน่อตัวเอง เพราะทาไว้นานก็ไม่ได้ช่วยให้หายไวอะไร หนำซ้ำยังทำให้ระคายเคืองได้อีก

2. ใช้ยาทาฆ่าเชื้อสิว Clindamycin แบบเจลๆ (ไม่เอาแบบโลชั่นน้ำๆนะคะ แบบโลชั่นแอลกอฮอล์เยอะ เดี๋ยวจะระคายเคืองค่ะ) ทาเฉพาะสิวอักเสบวันละ 3 ครั้ง(ถ้า 3 ครั้งไม่ได้จริงๆ ทา 2 ครั้ง เช้าและ เย็นค่ะ แต่ถ้าวันไหนไม่ออกไปไหนจัดเลยค่ะ 3 ครั้ง)

3. ถ้าต้องออกงานด่วนจริงๆ วิธีการทำให้สิวยุบข้ามคืนก็มีจริงนะ นั่นคือการฉีดสิวค่ะ ซึ่งการฉีดสิวนั้นคุณหมอจะพิจารณาการฉีดในสิวอักเสบที่ไม่มีหัวค่ะ ข้อนี้ควรให้คุณหมอผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ฉีดให้นะคะไม่งั้นอาจเป็นหลุมได้นะเออ

ข้อแนะนำ

ในสิวปานกลางสามารถทานยาฆ่าเชื้อร่วมได้เพื่อช่วยอีกทางค่ะ

งดแต่งหน้าเมื่อไม่จำเป็น ช่วงรักษา พยายามให้สารเคมีอื่นๆสัมผัสหน้าน้อยที่สุดค่ะ

ไม่ขัดผิว ถูผิวหน้า ไม่แกะสิว

พอสิวเริ่มหายตกสะเก็ดแล้ว แต้มยาแก้แผลเป็นไว้เลยค่ะ จะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายตอนเป็นแผลดำๆนะคะ

ถ้าหมดช่วงออกงานแล้วแนะนำรักษาอย่างเข้มข้นตามบทความของพี่เนตตี้นะคะ ตามลิ้งค์นี้เลย
https://www.facebook.com/MoryaTalk/posts/1713778238879535:0

ถ้ามีเภสัชกรและคุณหมอ ที่มีวิธีรักษาอื่นๆเพิ่มเติม มาช่วยแชร์ความรู้กันได้นะคะ ยินดีอย่างยิ่งค่ะ

สุดท้ายนี้ขอให้ผิวใส ไร้สิวกันทุกคนเลยนะคะ
เพี้ยงงงงงงงง
ภญ.โดนัท
Shared publicly
    Add a comment...

    💄ทาแป้งก็มี spf 15
    💄รองพื้นก็ spf 30
    💄ปัดแก้มก็ spf 10
    💄เบสก็มี spf 15
    🙏หมอขาาาาา แล้วหนูต้องทากันแดดอีกป่ะค่ะ
    spf มันรวมกันจะถึง 100 แล้วววว???
    ❤❤❤❤
    จริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่น่าสนใจว่า SPF ทั้งหมดที่ทาไปมันน่าจะรวมตัวกัน ดุจดื่มเลือดสาบานว่าจะร่วมปกป้องผิวเป็นผืนแผ่นดินเดียวกันหรือเปล่า....
    😥
    โอ้วววม๊ายยยยยยย ม่ายยยย
    อย่าโลกสวยค่ะ มันไม่เป็นแบบนั้นเลย
    จากทั้งหมดที่ทา ถ้าผลิตภัณฑ์ตัวไหนมีค่า SPF สูงสุดเท่าไหร่ ผลลัพธ์สุดท้ายก็กันแดดได้แค่นั้นล่ะค่ะ 😆😆
    อย่างเช่น ถ้าทา bb มี SPF 15 +แป้ง มี SPF 25 +รองพื้น SPF 30 +ครีมกันแดด SPF 40
    **********
    สุดท้ายก็จะกันได้ 40 เท่านั้นค่ะ !!
    ไม่มีบวกเอฟเฟ็กอะไรเพิ่มเติมทั้งนั้น.!!
    แล้วสารที่ไปทำเป็นแป้ง เป็นเบส เป็น primer หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ
    หากออกแดดก็จะทำให้ค่ากันแดดลดลงก็ได้ หากโดนแดดเนอะ
    .......
    อย่างเช่นแป้งที่มี spf 50 แต่ถ้าทาเบาๆ บางๆ แตะ ๆๆๆๆ ก็จัดว่าไม่ได้ทาในปริมาณที่เหมาะสมได้ค่ะ
    คืออาจน้อยไป เพราะค่า SPF นี่มีกำหนดขนาดการทาอยู่นะคะ (ไว้จะเขียนบทความให้อ่านละเอียด ๆ ค่า) ดังนั้นแม้ทาแป้งเบาๆ ที่มี spf ก็ยังอยากให้ทากันแดดอยู่ดี😁😁😁
    .
    🌞🌞🌞🌞
    ดังนั้นถ้าทากันแดดแล้วไม่ได้ทำให้ลำบากมากก็ทาเถอะจ้า....
    อีกอย่างคือต้องทาในปริมาณที่เหมาะสม
    เพราะตอนเจอแดดแล้ว ถ้าปริมาณที่ทาไม่เยอะเพียงพอค่ากันแดดจะลดลงแบบดิ่งลงแบบสุดๆ
    คือเป็นเส้นโค้งดิ่งเร็วกว่าเส้นตรงอีก.
    .
    .
    ดังนั้นขอสรุปนะคะว่า
    😇ทาครีมกันแดดก่อนก็ได้ แล้วตามด้วยผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เหล่านี้จะดีกว่าค่ะ
    😘และค่ากันแดดนี่ จะไม่บวกกันนะคะ ได้แค่ค่าสูงสุดเท่านั้นจ้าาาาา
    /ภญ เนตตี้ + ภญ โดนัท
    ps เหมือนเราสองคนรวมพลังกันเขียน ความสวยก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นนะคะ เพราะ สวยอยู่แล้ว....5555555 (มั่นได้อีก)
    Shared publicly
      Add a comment...

      ❤ วันนี้ขอมาตอบคำถามเรื่องปัญหารอยสิวนะคะ ^___^ ❤
      คือมี Inbox ถามมาทุกวันเลยว่า
      "มีปัญหารอยดำจากสิว ทำยังไงจะหายคะ?"
      .
      รอยดำจากสิว เป็นหนึ่งในรอยดำจากการอักเสบค่ะ 💔
      หรือ Post Inflammatory Hyperpigmentation
      ที่หมอๆ หรือเภสัชทั้งหลาย ชอบพูดกันว่า PIH นั้นแหละค่า
      ยิ่งเป็นแผลมาก สิวอักเสบมาก ก็ยิ่งทำให้เกิด PIH ได้มาก
      ซึ่งผลคือ จะเจอรอยดำที่มากขึ้นตามมานั้นเองค่ะ 😭😭😭
      .
      ดังนั้นถ้าเป็นสิวแล้ว ควรทำการรักษาสิวที่อักเสบแต่เนิ่นๆ
      เพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบที่มากขึ้น
      จนเป็นรอยดำที่เข้มขึ้นภายหลังโน๊ะ ^^ 😉😉
      .
      -------------------------------------------------
      การรักษาสำหรับรอยดำจากสิวมีหลายวิธีจ้าาาา
      .
      ✔ 1. อดทน อดทน อดทน !!
      เรื่องผิวๆ ต้องอดทนนะคะ รอตามระยะการเวลาจะหายได้เองค่ะ
      ทามอยซ์เจอไรเซอร์เยอะๆ ให้ผิวตรงนั้นไม่แห้งจนเกินไป
      แต่อาจต้องใช้เวลานานเป็นเดือนค่ะ 💋
      ดังนั้นเลยมีตัวช่วยอื่น ๆ อีกตามข้อต่อๆไป
      .
      ✔ 2. การใช้ยาทา หรือครีมที่มีสารประกอบพวก Whitening Agent ต่าง ๆ เช่น Licorice, Alpha Arbutin,
      หรืออาจจะเป็นยาตามโรงพยาบาล/คลินิกหรือร้านยาก็ได้ค่ะ
      เช่น ยาทาที่มีส่วนประกอบของกลุ่มวิตามินเอ (Vitamin A)
      แต่ก็ต้องปฏิบัติตามแพทย์ และเภสัชกรทุกครั้งในการใช้ยานะคะ 💋
      .
      Tip แนะนำ : Hiriscar ,scar esthique , dermatrix , scargel
      ชื่อยาพวกนี้หาซื้อได้ตามร้านขายยานะคะ
      .
      ✔ 3. การใช้สารผลัดเซลล์ผิวอ่อนๆ Back to Nature ค่ะ
      เช่นการใช้ มะขามเปียกในการพอกผิว
      เนื่องจากมะขามเปียกมีสาร AHA ตามธรรมชาติ ก็สามารถช่วยได้ค่ะ
      หาซื้อง่าย ราคาถูก หรือถ้าอยากทำ AHA treatment จริงๆ
      สามารถทำได้ตามสถานพยาบาลนะคะ 💋
      แต่ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ค่ะ ^^
      .
      ✔ 4. การรักษาด้วยแสง IPL หรือ ทำ Laser อื่นๆ
      ช่วยได้ดีมากค่ะ ทำให้รอยสิวหายได้เร็วกว่ามาก
      สามารถทำควบคู่กับการใช้ครีม หรือยาได้นะคะ 💋
      แต่จัดเป็นวิธีทางเลือกค่ะ ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้
      แต่ถ้ากังวลมากอยากหายไวขึ้นอีก จะมาพิจารณาทางนี้ก็ไม่เลวค่ะ
      .
      ✔ 5. ทากันแดดทุกวันด้วยนะคะ
      บางคนอาจละเลย ด้วยการกลัวว่าจะทำให้เกิดสิว
      จริง ๆ กันแดดไม่ได้ทำให้เกิดสิวนะคะ
      มันช่วยทำให้ผิวของเราแข็งแรงขึ้น ปกป้องเราจากแสง UV
      ทำให้รอยสิวเราดีขึ้น และสิวไม่อักเสบเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ
      .
      ------------------------------------------
      💋 เพียงเท่านี้ เราก็สามารถพิชิตรอยสิวได้แล้วค่าาาาา
      .
      ปล. เอาประมาณนี้โน๊ะ ^__^ เด๋วเยอะไปเครียด...สิวขึ้น !
      ภญ.เนตตี้
      Shared publicly
        Add a comment...

        💋 ใครบอกกันว่าไม่มีอะไรที่บล็อคแป้ง บล็อคน้ำมัน และเร่งการเผาผลาญได้ 💋
        .
        ในฐานะเภสัชกรฝ่ายR&D โรงงานเครื่องสำอางและอาหารเสริมแบนด์ดังๆหลายยี่ห้อ
        โดนัทจะบอกให้เลยนะคะ ว่า ..............มี !!!
        อันนี้ไม่ได้อำ ไม่ได้เล่นมุกนะคะ
        .
        มะ... มาเริ่มกันค่ะ 😚😚😚
        .
        ♥♥ 1. บล็อคแป้ง ♥♥
        ในความหมายจริงๆ คือ ลดการดูดซึมของแป้ง ตัวพระเอกงานนี้คือ “สารสกัดจากถั่วขาว”
        หรือชื่อภาษาอังกฤษคือ White Kidney Bean Extract
        .
        จะอธิบายเบาๆก่อนนะคะ ว่าเอนไซม์ อะไมเลส ในร่างกายเรา
        มีหน้าที่ย่อยคาร์โบไฮเดรตเพื่อดูดซึม
        .
        แต่ตัวสารสกัดถั่วขาวเนี่ยค่ะ ตัวมันจะยับยั้งอะไมเลสไม่ให้ทำงานได้
        จึงทำให้เราลดการดูดซึมคาร์โบไฮเดรต (ได้บ้างเป็นบางส่วน)
        ถ้าเราทานเท่าเดิม แต่เพิ่มสารสกัดถั่วขาวในไดเอทเรา
        ก็จะเหมือนว่าเราได้รับแคลอรี่น้อยลงค่ะ ❣❣❣
        .
        ช่วยทำให้ลดความอ้วนได้กลายๆค่ะ แต่ตัวมันไม่มีคุณสมบัติเผาผลาญใดๆนะคะ
        .
        ♥♥ 2. บล็อคน้ำมัน ♥♥
        มียาตัวนึงที่ชื่อ Orlistat ที่ช่วยลดการดูดซึมน้ำมันเข้าสู่ร่างกาย
        โดยตัวมันไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไลเปส
        (เอนไซม์ที่ช่วยทำให้ไขมันแตกตัวเป็นตัวเล็กๆเพื่อร่างกายเราจะได้ดูดซึมได้)
        .
        ซึ่งพอขัดขวางปุ๊ปไขมันก็ยังตัวใหญ่เหมือนเดิม
        มันก็ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายไม่ได้ เลยบล็อกการดูดซึมไขมันได้ประมาณ 30% นะคะ
        แต่ไม่ใช่ว่าเอะอะอยากกินยาตัวนี้ก็กินเลย ต้องประเมินร่างกายก่อนนะคะ
        .
        แล้วก็ระหว่างกินยาตัวนี้อย่ากินไขมันเยอะนะคะ เพราะอย่าลืมว่า 70% ยังดูดซึมได้อยู่
        กินอาหารมันๆหนักกว่าเดิมเกรงว่าจะอ้วนกว่าเดิมนะคะ ❣❣❣
        .
        ผลข้างเคียงไขมันที่ไม่ถูกดูดซึมจะออกมาพร้อมกับการถ่ายค่ะ
        หลายต่อหลายครั้งเพียงผายลมมันก็มา คือทรมานจิตใจมากกกก
        เหมือนหนังเรื่อง saw ค่ะ เอะอะทะลัก เอะอะไหล เอะอะพร่างพรู 😂😂😂
        .
        ★★★ ยาตัวนี้ไม่แนะนำให้กินต่อเนื่องนะคะ ★★★
        .
        ♥♥ 3. เร่งการเผาผลาญ ♥♥
        มีสารสกัดที่เคลมว่าช่วยเผาผลาญ เช่น caffeine, carnitine, green tea, conjugated linoleic acid, chromium, kelp and fucoxanthin
        .
        แต่ตัวที่น่าสนใจที่สุดจะเป็นสารสกัดจากชาเขียว และสารสกัดคาเฟอีน
        เพราะมีผลการทดลองพบว่า ถ้าทานในปริมาณหนึ่งแล้วออกกำลังกาย
        จะเผาผลาญไขมันได้ผลดีกว่าอีกกลุ่มที่ได้รับยาหลอก
        .
        ทั้งนี้ทั้งนั้นส่วนมากอาหารเสริมพวกนี้จะต้องใช้กระบวนการออกกำลังกายช่วยนะคะ ถึงจะทำงานได้ดี
        .
        -------------------------------------
        อย่างไรก็ตามการคุมอาหาร และออกกำลังกายก็เป็นวิธีที่ยั่งยืนที่สุด
        ลดช้าๆแต่มั่นคง โดยให้อาหารเสริมเป็นแค่ตัวช่วยนะคะ
        .
        ขอตัวไปฟิตเนสก่อนนะคะ กระโปรงเริ่มคับแล้ว แฮ่
        ภญ.โดนัท
        Shared publicly
          Add a comment...

          เมื่อวานแซ่บบบกับเบื้องหลังวงการทำครีม
          จาก ภญ. โดนัท มาแล้ว
          วันนี้พี่เนตตี้ขอมาเล่าเรื่องที่หมอเจอที่คลินิกให้ฟังค่ะ
          .
          พอหมอมาทำคลินิกความงามตลอด 7 ปี
          ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมคนไทยถึงเป็นเหยื่อของการตลาดของครีม ที่บอกว่า ขาวใสใน 3 วัน 7 วัน 
          ขาววัวตายควายล้ม ขาวทันที หุ่นดีใน 3 วัน
          หน้าเด้งไม่มีแก่ ทาปุ๊บสวยปั๊บ ไม่ขาวยินดีคืนเงิน
          ขาวข้ามคืน ไม่ลอกผิวเราไม่ขาย และอะไรที่ดูอันตราย แต่สวยเร็ว (แล้วถ้าถูกแบบผิดปกติ) จะได้กระแสตอบรับทันที
          .
          เพราะหมอเจอคำถามใน FB msg เกือบทุกวัน
          ส่วนใหญ่เป็นน้องๆ วัยรุ่น....ถามคำถามประมาณนี้ จนสามารถ copy paste ตอบได้เลยค่าา

          ฉีดโบทอกแล้ว หน้าเรียวทันทีไหมคะ แล้วหนูต้องฉีดอีกไหม ถ้าฉีดแล้ว 1 ครั้ง จะเรียวตลอดไปเลยไหมคะ อยากหน้าเรียวแบบเกาหลีค่ะ (พร้อมส่งรูปดาราเกาหลีมาคนนึง)
          .
          #ตอบ : คือถ้าเรียวตลอดไปจิงๆ โดยการฉีดครั้งเดียว โบทอกคงเป็นยาสลายกล้ามเนื้อ ซึ่งคงอันตรายมากๆ ทีเดียวค่ะ แล้วอีกอย่างต้องดูหน้าด้วยว่าที่หน้าใหญ่จากอะไร กล้ามเนื้อ......กระดูกกราม....หรือไขมัน เพราะ โบช่วยได้แค่กล้ามเนื้อน๊าาาา ไม่ได้ย่อยกระดูกไปด้วยยยย
          ดังนั้นจะหน้าเล็กลง ต้องดูหลายปัจจัยค่ะ และไม่ใช่ทุกคนที่จะหน้าเล็กจากโบทอกได้นะคะ ต้องดูหลายๆ อย่างค่ะ ไว้จะมาเล่าให้ฟังอีกบทความนะคะ

          ฉีดวิตามินบำรุงผิว ถ้าฉีดแล้วเข็มเดียวขาวเลยไหมคะ แล้วขาวไปตลอดเลยรึเปล่า อยากขาวมากๆ ประมาณพริตตี้ (พร้อมเอารูป pretty ที่ถ่ายจากกล้องฟรุ้งฟริ้งส่งมา ว่าอยากได้ประมาณนี้)
          .
          #ตอบ : คือ เหมือนกับไปกินบุฟเฟ่ห์หมูกะทะอะค่ะ ถ้ากินแล้วอิ่มวันนั้น แต่ถ้าไม่กินก็หิวเหมือนเดิมค่ะ หรือเทียบกับการออกกำลังกาย ถ้าไม่ออกต่อเนื่อง ร่างกายก็กลับมาย้อยได้ ดังนั้นการบำรุงผิวต้องทำต่อเนื่อง และเราจะขาวได้เท่าใต้ร่มผ้าของเรานะคะ และต้องทากันแดดด้วย ถ้าฉีดแล้วขาวในเข็มเดียว .......ไม่น่ากลัวไปเหรอคะ 

          รักษาสิวที่อื่นมาไม่หายเลยค่ะ .....ยาไม่ดีแน่เลย ยิงเลเซอร์ รอยสิวก็ไม่หาย😢😢😢

          #ตอบ : ถามไปว่ารักษานานแค่ไหนแล้วคะ? คนไข้ตอบ สัปดาห์ที่แล้วค่ะ ................คือ อยากจะตอบว่า สิวอะต้องใช้เวลานะ อย่างน้อย 2 เดือน ถ้าเป็นยาทาค่ะ เพราะเราต้องสร้างปรับผิวเราให้สุขภาพดีก่อนจะได้เป็นสิวยากหน่อย ก็ต้องใช้เวลาโน๊ะ.......พอถามว่ายิง laser ไปกี่ทีเรื่องรอย....คนไข้ตอบ 1-2 ครั้ง...........อยากบอกว่า เรื่องรอยสิว laser ช่วยได้จริงนะคะ แต่ไม่ใช่ยิงแค่ครั้งสองครั้ง และต้องดูระยะเวลาความห่างต่อครั้งด้วย และต้องทำต่อเนื่อง เดือน-2เดือน.........ไม่ใช่ยิงปุ๊บ รอยหายปั๊บนะคะ

          พออธิบายไป คนไข้มีการตอบมาว่า ทำไมตามเพจครีมบอกว่า ทาแล้วหน้าใสข้ามคืน ทาแล้วขาวเด้งทันทีใน 3 วัน.....กินแล้วขาวแบบพริตตี้ใน 7 วันละ....
          .
          .
          ก็เพราะเค้าจับจุดผู้บริโภคได้ยังไงละคะว่าเรา อยากได้ความเร็ว ไม่แพง .....แต่ปลอดภัยรึเปล่าไม่รู้นะ......
          แล้วแม่ค้าเค้าก็ไม่ได้มารับผิดชอบชีวิตเรารึเปล่าอ่าาาา

          .
          เลยอยากบอกว่า ทุกอย่างต้องใช้เวลา และความอดทน ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ นะคะ ต้องสวยอย่างฉลาดกันหน่อยค่า 
          Shared publicly
            Add a comment...

            ❤ พี่เนตขา ได้ยาสิวมาเยอะเลย มันคืออะไรบ้างคะ ต้องใช้ทั้งหมดไหม ❤
            .
            นี่เป็นคำถามที่เจอเยอะมากค่ะ
            แต่เป็นเภสัชกร หมอยา อย่างเราต้องตอบได้นะคะ ก็แหม่ เป็นเป็นเรื่องยานี่นา
            .
            ✔✔ ถามว่าต้องใช้ไหม ✔✔
            ถ้าซื้อมาแล้วก็จงใช้เถอะค่ะ แต่พี่เนตขออย่างเดียว รักษาสิวต้องอดทน
            และหากจะเริ่มใช้ยาต้องมีการใช้อย่างต่อเนื่องด้วยนะคะ ไม่ใช่ใช้ ๆ หยุด ๆ
            .
            เวลาเป็นสิว แล้วอยากจะเริ่มรักษาด้วยยา หรือไปปรึกษาหมอ/เภสัชมา
            แล้วมักได้ยาทามากันเยอะเลย วันนี้พี่เนตเลยจะมาสรุปยาทาสำหรับสิว
            เป็น 3 กลุ่มง่ายๆ ค่ะ (ซึ่งปกติ มันก็มีอยู่เท่านี้ละนะ) 🙌🙌🙌
            .
            -----------------------------------------------------------------
            .
            💋💋 กลุ่มวิตามิน เอ (adapalene หรือ 0.025-0.05% tretinoin)
            กลุ่มนี้สำคัญสุด และเป็นยาพื้นฐานในการรักษาสิวตั้งแต่น้อย ยันรุ่นแรงฝุดๆ
            .
            ควรจะทาให้ทั่วผิวหน้าที่เป็นสิวก่อนนอน
            ✔ ทาปุ๊บต้องปิดไฟปั๊บ ✔ เพราะยาค่อนข้างไวต่อแสงค่ะ 🙈🙈
            แต่มันดีมากจริงๆ เพราะยาจะช่วยปรับสภาพการผลัดเซลล์ของผิวให้เป็นปกติ
            (เพราะไม่ปกติเลยเป็นสิวเลยต้องอาศัยยาตัวนี้ช่วย)
            .
            หากต้องการตัวที่ไม่ไวต่อแสง
            อาจเลือกใช้เป็น adapalene แทนพวก tretinoin
            ก็จะไม่ไวต่อแสง และการระคายเคืองน้อยกว่าค่ะ แต่ราคาสูงกว่านะคะ 😂😂
            .
            👉👉👉 ในช่วงแรกพี่เนตยอมรับว่าอาจมีอาการสิวเห่อได้ในบางคน
            ไม่ต้องตกใจค่ะ เป็นเรื่องปกติ อย่าพึ่งปายาทิ้งนะคะ 👐👐
            ขอให้อดทนใช้ไปอย่างน้อย 8 สัปดาห์ แล้วจะค่อยๆ ดีขึ้นเองนะคะ
            .
            และแม้สิวสงบแล้ว ก็ควรทาต่อในแง่ การป้องกันสิวได้ 💕
            เพราะมันช่วยปรับการผลัดเซลล์ผิวให้ปกติไง
            แต่ถ้าใช้แล้วหากมีอาการแสบลอก ควรลดการทาเป็นวันเว้นวัน
            หรือทามอยซ์เจอไรเซอร์ไปช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นก็ได้ค่ะ ตามหลังการทายาค่ะ
            .
            -------------------------------------------------
            .
            💋💋 ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียแบบทา (Topical antibiotic agents)
            นอกจากจะฆ่าเชื้อ P.acne (เชื้อแบคทีเรียก่อสิว) ยังลดการอักเสบของสิวได้ด้วย
            ซึ่งได้แก่ 1% clindamycin lotion หรือจะใช้ 4% erythromycin gel ก็ได้ค่ะ
            .
            ให้ทาที่สิวหัวหนอง หรือสิวอักเสบบวมๆเจ็บๆ โดยทาเช้าเย็น
            ✔✔ แต่ก็ไม่ควรใช้ติดต่อกันนานๆ ถ้าสิวอักเสบหายแล้วก็สามารถหยุดใช้ได้ค่ะ
            แล้วไปใช้ตัวข้อ 1 และ ข้อ 3 เพื่อเป็นการดูแลต่อเนื่องได้นะคะ
            .
            -------------------------------------------------
            .
            💋💋 Benzoyl peroxide หรือ BP มี 0.025% - 0.05%
            อันนี้ไม่ได้เป็นยาฆ่าเชื้อนะคะ แต่สามารถช่วยยับยั้ง P.acne ได้
            .
            ให้ทาบริเวณที่เป็นสิวหัวดำ หรือหัวขาว หรือสิวอักเสบก็ได้ค่ะ
            ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออก เช้าและเย็นค่ะ
            .
            นอกจากเราใช้ยาตัวนี้เพื่อละลายการอุดตันของสิวแล้ว
            ยังสามารถลดการดื้อยาของ P.acne ที่เกิดขึ้นเมื่อเราใช้ topical antibiotic agents (ยาฆ่าเชื้อแบบทา...ในข้อ 2) ไปนานๆ ได้ด้วย ♥♥
            .
            ปัจจุบันนี้มียาทาแบบรวม เพื่อให้เกิดการใช้ที่ง่ายขึ้นด้วยนะ เช่น clindamycin + BP หรือ adapalene + BP
            .
            -------------------------------------------------
            .
            ❤❤ ทั้งหมดนี้คือ ยารักษาสิวแบบทาหลักๆ นะคะ
            ยาทุกตัวดีหมดค่ะ เหลือที่ตัวเราเอง ต้องมีวินัยในการดูแลตัวเอง
            อดทน และมีการใช้ยาอย่างต่อเนื่องตามหมอและเภสัชกรบอกนะคะ
            .
            ✔✔ อย่าลืมว่าการรักษาสิวต้องอาศัยความอดทนนะคะ
            ‪#‎ความรักก็เช่นกัน‬….แหม่ !
            😗😘💟 (ภญ.พี่เนตตี้ ^^)
            Shared publicly
              Add a comment...

              ✨อยากรู้ไม๊คะว่าทำไมเดี๋ยวนี้ใครก็ขายครีม ❤
              แล้วบอกว่าตัวเองเป็นเจ้าของแบรนด์ ได้ง่ายๆดื้อๆ
              .
              ทั้งๆที่เค้าไม่ได้จบวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง....
              ไม่ได้จบเคมี.....
              ไม่ได้จบเภสัช.....
              .
              ✨ ไม่มีความรู้เรื่องกลไกของสารใดๆ แต่ดันมาเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางเนี่ยนะ ?
              เฮ้ย มันจะไว้ใจได้หรอ และ ถ้าเราใช้ของเค้าละหน้าเราจะดีขึ้นตามที่โฆษณาจริงหรอ ?
              .
              ✨จากการทำงานเป็น R&D และเป็นที่ปรึกษาแบรนด์เครื่องสำอางมาหลายแบรนด์
              อยากแชร์ข้อมูล (ทั้งคันมืออยากพิมพ์ คันปากอยากเล่า 5555)
              มีหลายเหตุการณ์ค่ะ โดนัทจะทะยอย ๆ เล่าตามที่นึกออกนะคะ
              .
              -----------------------------------------
              .
              ✔✔ 1. เคสแรก มาติดต่อโรงงานด้วยความมุ่งมั่นพร้อมแจ้งสเป็คว่า
              อยากให้ใส่อาร์บูติน, วิตามินซี, สเตียรอยด์เพื่อลดผดผื่นและสิว
              พร้อมอยากให้ผิวขาวภายใน 3 วัน จะเอาเนื้อสีฟ้า
              กลิ่นออกแนวบับเบิ้ลกัมขนมๆ
              .
              ✨เราเงิบค่ะ นี่คือเจาะจงอยากให้ใส่สเตียรอยด์ 😭😭😭
              เราไม่ยอมและแจ้งไปว่ามีสารอื่นทดแทน ลดผดผื่นได้ ปลอดภัยกว่า แต่ราคาสูงกว่า
              เค้าบอก ไม่เอา จะเอาราคากิโลละไม่เกิน 500 บาท
              เพราะค่าขวด ค่ากล่อง ค่าสติ๊กเกอร์ ค่าติดต่อวางขาย ต้องเสียเยอะแล้ว
              จะเอาแบบที่บอกเท่านั้น !!!
              .
              ✨ซึ่งถ้ามาเคสแบบนี้ บอกเลยค่ะ ที่ๆโดนัทเคยทำงานอยู่ไม่รับเลย
              (ยกเว้นมีโรงงานนึงที่เจอ คือเค้าแอบส่งให้ RD คนอื่น
              แล้วเรามาเจอทีหลัง ว่าเค้าใส่สเตียรอยด์คือตัว TA %ต่ำๆลงไป
              .
              ตอนนั้นโมโหและเดินไปขอคิวคุยกับท่านเจ้าของเลยค่ะ
              ไฟท์จนให้เป็นมาตรฐาน คือ ห้ามใส่ยาและสารอันตรายเด็ดขาด
              ทุกสูตรขอผ่านมือ ผ่านตาก่อนลงผลิต)
              .
              ✨ สรุปว่า คุณลูกค้าได้สูตรที่ต้องการไป เพียงแค่ไม่มีสเตียรอยด์
              และเพิ่มตัวลดอาการระคายเคืองเข้าไปหลายๆตัว เช่น bisabolol เป็นต้น
              ส่วน % ของสารสำคัญออกฤทธิ์ก็ใส่ตามที่เราคำนวณ (จากราคาและประสิทธิผล)
              ผลลัพธ์ก็ออกมาดีค่ะ และยังขายได้ดีซะด้วย
              .
              -----------------------------------------
              .
              ✔✔ 2. เคสต่อมาอยากทำสบู่ เอาให้ฟอกแล้วขาวภายในครั้งเดียวเลยนะคะ 🙈🙈
              ขอราคาก้อนนึงไม่เกิน 10 บาทนะคะ เค้าจะเอาไปขายก้อนละ 89 บาท
              บอกแค่นี้ค่ะ จบ T_T 😂😂😂
              .
              ✨ เราก็ตั้งสูตร ใส่สารให้แบบปลอดภัย เค้ามาตามขอแก้อีก 3 รอบ
              บอกไม่ขาวค่ะ ไม่ลอกค่ะ (ตอนนี้เริ่ม งง อะไรคือไม่ลอก)
              เค้าเลยมาแจ้งว่าเห็นในเน็ต คนใช้แล้วลอกออกมาเป็นแผ่นๆ อยากได้แบบนั้นบ้าง
              .
              ✨เอาอีกละค่ะ ช็อค ...........ไปเอาความคิดนั้นมาจากไหนนนนน!!!!
              เราเลยแจ้งไปว่า ไม่ได้ค่ะ เราทำไม่ได้
              เราสามารถทำให้ผลัดเซลล์ผิวหนังซึ่งจะทำให้ผิวขาวขึ้นโดยค่อยเป็นค่อยไป
              แต่ไม่สามารถทำให้ลอกเป็นแผ่นได้ค่ะเพราะอันตราย
              .
              ✨ โถ่วววว สรุปว่าโดนลูกค้าด่าซะน่วมเลยค่ะ T_T
              แถมขอเงินค่าพัฒนาสูตรคืนอีก
              .
              -----------------------------------------
              .
              ✔✔ 3. เคสคนดังบนเน็ตอยากทำครีมขาย
              อันนี้เจอบ่อยสุดค่ะ เค้าจะมาแบบไม่ทราบเรื่องครีมอะไรเลย
              แล้วจะเลือกสูตรStandard คือสูตรสำเร็จอยู่แล้ว
              สูตรนี้แค่จ่ายเงิน หาบรรจุภัณฑ์ ยื่นขอจดแจ้ง จบ ง่าย สบาย ไวมากกก
              .
              ✨ แต่สแตนดาร์ดนี่คือ ครีมที่มีคนสั่งผลิตเป็นร้อยคนได้โดย ใช้สูตรเดียว
              แค่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนกลิ่น เปลี่ยนสีได้ เท่านั้นเอง
              อันนี้เราก็ไม่เห็นเนาะ ว่าเค้าเอาไปโฆษณาอะไรยังไง
              เรารู้แค่หน้าที่เราคือควบคุมการผลิตให้ดีที่สุด ได้มาตรฐานที่สุดค่ะ
              .
              ✨ ยกตัวอย่าง 3 เคสก่อนนะคะ มีเรื่องเล่าอีกเยอะเลยค่ะ
              ทั้งครีมที่จ้างให้โดนัทเขียนสูตรโดยเฉพาะ ครีมที่ผลิตในเกาหลี และอื่นๆ
              เอาไว้มาต่อกันอีกนะคะ
              .
              ❤ ภญ.โดนัท ❤️
              .
              ป.ล. เหตุการณ์ที่เล่าไม่ได้เจาะจงแบรนด์ไหน และไม่ได้จะดิสเครดิตใคร
              พร้อมทั้งจะไม่ตอบทั้งชื่อแบรนด์ เจ้าของ และโรงงานใดๆทั้งสิ้นนะคะ
              ทั้งหน้าเพจและในอินบ๊อกซ์ (ถามมาได้ แต่โดนัทไม่ตอบค่ะ 5555)
              .......................
              Shared publicly
                Add a comment...

                เครื่องสำอางก็มีวันหมดอายุเหมือนของทั่วไปค่ะ

                บางทีคำว่า “วันหมดอายุ (หรือ ควรใช้ก่อนวันที่ ... )” ก็เชื่อได้ไม่เสมอไปนะคะ

                เราว่าเราก็ส่องข้างขวดแล้วยังไง ก็เห็นว่าอีกนานนนนกว่ามันจะหมดอายุ แต่พอใช้ เราก็รู้สึก ฟีลลิ่งมันไม่ช่ายยย
                เรื่องนี้เลยต้องลองมาดูและพิสูจน์จาก สี กลิ่น เนื้อครีม และ การเจริญเติบโตของแบคทีเรีย,เชื้อรา ในผลิตภัณฑ์ค่ะ

                .
                *สี*

                สีของผลิตภัณฑ์บางตัวสามารถเปลี่ยนไปได้บ้างเล็กน้อยตามอายุ เช่นจากสีขาวเป็นครีมอ่อนๆ
                แต่จะมีเนื้อครีมบางชนิดที่ อาจเจอการเปลี่ยนสีแบบรุนแรง อย่างเช่น จากสีขาวเป็นสีช็อคโกเลต นั่นแหละค่ะ งานเข้า
                การแก้ปัญหาคือ ...ทิ้งสถานเดียวค่ะ

                *กลิ่น*

                เครื่องสำอางมักจะมีสารประกอบของน้ำหอมเพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกดีเวลาใช้ เพราะส่วนมากสังเกตเวลาลองเครื่องสำอางจะดมก่อนลองเนื้อครีมด้วยซ้ำ (คงไม่มีใครชอบครีมที่กลิ่นเหมือนถุงเท้านักบอล 55555)

                บางทีเราใช้ไปสักพัก กลิ่นน้ำหอมอาจจางลง อันนี้ปกติค่ะ
                แต่ถ้าเราได้กลิ่นหืนๆ ผิดปกติ อันนี้น่าจะเป็นเพราะน้ำมันในผลิตภัณฑ์ทำปฏิกิริยากับออกซิเจน

                ถ้าเป็นอย่างนี้ ....โยนทิ้งไปเลยค่ะ

                ป.ล. ทั้งนี้เครื่องสำอางบางชนิดก็ไม่ใส่น้ำหอมนะคะ เพื่อลดโอกาสในการแพ้ (บางคนแพ้น้ำหอมค่ะ) ถ้าเป็นเคสนี้เราต้องสังเกตกลิ่นตอนเริ่มต้น กับกลิ่นเวลาใช้ไปๆ ว่าเปลี่ยนไปแค่ไหน
                ค่ะ

                *เนื้อครีม*

                ครีมที่ดีจะเป็นเนื้อที่คงตัว มายังไงใช้ไปจนใกล้วันหมดอายุก็ยังเป็นอย่างนั้น เนื้อไม่หด ไม่แห้งติดตลับ ไม่เปลี่ยนความหนืด ความเหนียว ไม่แยกชั้น

                แต่บางทีเราก็สามารถเจอเนื้อครีมที่เปลี่ยนไปตามอายุ
                เช่น ยกตัวอย่างกรณีซีเรียส คือ การแยกตัวระหว่างน้ำกับน้ำมันในครีมกันแดด....เพราะ

                1. การเปลี่ยนแปลงของเนื้อครีมทำให้การกระจายตัวเปลี่ยนไป
                ประสิทธิภาพของครีมกันแดดขึ้นอยู่กับการทาให้กระจายให้ครอบคลุมบนผิวอย่างสม่ำเสมอ
                (อย่างค่า SPF ก็วัดจากการทาครีมขนาด 2 มิลลิกรัมให้กระจายทั่วพื้นผิวขนาด 1 ตารางเซนติเมตร)

                2. ครีมกันแดดส่วนใหญ่จะกันน้ำได้ด้วย
                แล้วพอมีการแยกตัวระหว่างน้ำกับน้ำมันนั้น การคนหรือเขย่าขวดจะไม่ช่วยอะไรเลย จะเบาจะแรงก็ไม่ช่วยค่ะ

                (เพราะปกติในการทำครีมกันแดดนี่ เขาใช้เครื่องปั่นที่หมุนเร็วเป็น 2-4 พันรอบต่อนาที และต้องเป็นขั้นตอนต่อเนื่องด้วย)
                พอเป็นแบบนี้แล้วประสิทธิภาพด้านกันน้ำก็จบกัน
                ถ้าไม่อยากเสี่ยงผิวดำคล้ำไหม้ แนะนำเลยค่ะว่า ต้องเช็ดแล้วทิ้ง!!!!

                .
                *แบคทีเรีย และเชื้อรา*

                นี่เป็นสิ่งที่ต้องกังวลที่สุดค่ะ
                ปกติเครื่องสำอางจะต้องใสสารกันเสีย เพื่อป้องกันจุลชีพอยู่แล้ว แต่ใช่ว่าเราจะไม่สนใจครีมที่เราใช้อยู่นะคะ

                เมื่อใดก็ตามที่เราเห็น ....จุดดำๆ เทาๆ ในเนื้อครีม !!!!

                ทิ้งเลยค่ะ ทิ้งอย่างเดียวค่ะ

                ไม่ต้องเสียดายเลยยยย อ่ะ ลองคิดดูละกันนะคะ ว่าถ้าเอาเชื้อรามาถูหน้า ผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไง

                อวสานผิวสวย...

                -----------------------
                สรุปนะคะ
                ถึงอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์แต่ละตัวนั้น ขึ้นอยู่กับส่วนประกอบ การตั้งสูตร การจริงจังกับstability testก็จริง
                แต่การเก็บรักษาก็สำคัญมากกกกนะคะ ละเลยข้อนี้ไม่ได้เลย
                เก็บไว้ในที่แห้งและเย็น คือเก็บไว้ในอุณหภูมิปกติ เช่นในห้องนอน

                เก็บในรถ ในตู้เย็น ในห้องน้ำ ในตู้กับข้าว ไม่ควรนะคะ

                ดังนั้นการพิจารณาว่าผลิตภัณฑ์ตัวไหนหมดอายุหรือใช้งานไม่ได้แล้วนั้น
                นอกจากจะดูวันหมดอายุข้างขวดแล้ว ต้องลองสังเกตจากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นด้วยนะคะ
                Shared publicly
                  Add a comment...





                  No comments:

                  Post a Comment