Sunday, June 5, 2016

ปวดประจำเดือน

Better Pharmacy Chiang Mai

Shared publicly  -  14:33
 
ลดอาการปวดประจำเดือนได้ดังนี้

1. ลดไขมันประเภท OMEGA-6 เพิ่มไขมันประเภท OMEGA-3
2. กินวิตะมินอี
3. กินวิตะมันบีหก
4. กินวิตะมินบีสาม
5. กินแคลเซียม
6. กินสังกะสี
7. กินแมกนีเซียม

อาหารเสริมกับภาวะปวดประจำเดือน
น้ำมันปลา
สารสกัดเมล็ดองุ่น
Black Cohosh
วิตะมินอี
แคลเซียมและแมกนีเซียม
การใช้รังสีอินฟาเรด ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว

http://www.thaihealth.or.th/Content/835-กินอาหารลดอาการ "ปวดท้องน้อย".html
https://www.youtube.com/watch?v=JNECl9lT-Rk
https://youtu.be/TpDXZltRHCs
http://www.healwithfood.org/menstrualcramps/
Show less  ·  Translate
1
Add a comment...

Better Pharmacy Chiang Mai

Shared publicly  -  14:43
 
การตรวจวินิจฉัยเพื่อหาสาเหตุของภาวะปวดประจำเดือน หรือเป็นการตรวจหา secondary dysmenorrhea ซึ่งหมายถึง การปวดประจำเดือนจากพยาธิสภาพของอวัยวะในอุ้งเชิงกราน เช่น endometriosis, leiomyoma, adenomyosis, ovarian tumor เป็นต้น โดยทั่วไปภาวะดังกล่าวเหล่านี้ส่วนใหญ่สามารถตรวจพบได้จากประวัติ การตรวจร่างกาย และการตรวจภายใน ยกเว้นภาวะ endometriosis ที่อาจต้องอาศัยการตรวจเพิ่มเติม ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำการตรวจเพิ่มเติมเพื่อวินิจฉัยในผู้ป่วยทุกราย

การตรวจวินิจฉัยจำเพาะ คือ การผ่าตัดส่องกล้องเพื่อดูพยาธิสภาพบริเวณอุ้งชิงกราน (laparoscopic examination) ซึ่งเป็นการตรวจวินิจฉัยที่แม่นยำ ส่วนการตรวจด้วย ultrasonography ทางช่องคลอดนั้น จะสามารถวินิจฉัยได้หากมีพยาธิสภาพที่ขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็น cyst หรืออยู่บริเวณกระเพาะปัสสาวะ ลำไส้

https://www.bumrungrad.com/th/betterhealth/2010/healthier-women/when-monthly-pain-isnt-normal
http://www.med.cmu.ac.th/dept/obgyn/2011/index.php?option=com_content&view=article&id=906%3A2013-10-07-01-24-27&catid=45&Itemid=561
https://www.youtube.com/watch?v=6tC_d543_f4
Show less  ·  Translate
1
Add a comment...

Better Pharmacy Chiang Mai

Shared publicly  -  13:55
 
หากมีอาการปวดเป็นประจำสามารถเลือกรับประทาน วิตามินอี 200 ยูนิต วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ก่อนมีประจำเดือน 2 วัน และกินต่อเนื่อง 5 วัน

น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส 1,000 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง ต่อเนื่อง เพียงแค่ รอบเดือนแรก อาการไม่สบายตัวเหล่านั้นก็จะบรรเทาเบาบางลงอย่างเป็นธรรมชาติ

แคลเซียมขนาด 1,200 มิลลิกรัม ในผู้ป่วยที่มีอาการก่อนมีประจำเดือน จะมีผลต่อการปรับสภาพอารมณ์ และช่วยเปลี่ยนแปลงการคั่งของน้ำในร่างกาย รวมทั้งช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน

ถ้าปวดมาก ให้นอนพัก ใช้กระเป๋าน้ำร้อนประคบหน้าท้อง และให้ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่ สเตียรอยด์ เช่น มีเฟนนามิค หรือไอบูโพรเฟน ครั้งละ 1 เม็ดหลังอาหาร

ถ้าพบว่าอาการปวดประจำเดือนเริ่มเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในผู้หญิงอายุมากกว่า 25 ขึ้นไป หรือมีอาการปวดมากหลังแต่งงาน หรือมีเลือดประจำเดือนออกมากกว่าปกติ ควรแนะนำไปโรงพยาบาล อาจต้องตรวจภายใน และทำการตรวจพิเศษ เช่น อัลตราซาวนด์ การใช้กล้องส่องตรวจช่องท้อง (laparoscope) เป็นต้น เพื่อค้นหาสาเหตุให้แน่นอน และให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ

http://health.kapook.com/view26154.html
http://megawecare.co.th/รายละเอียด/ข้อมูลการดูแลสุขภาพ/การรักษา-อาการก่อน-มีประจำเดือน-และ-อาการ-ปวดประจำเดือน/10
Show less  ·  Translate
อาการปวดประจำเดือนเกิดขึ้นได้อย่างไร
http://health.haijai.com/4127/

Photo
ฝังเข็มรักษาปวดประจำเดือน

อาการปวดประจำเดือนเป็นปัญหาที่คุณผู้หญิงจำนวนไม่น้อยประสบอยู่ คุณผู้อ่านที่เป็นคุณผู้หญิงท่านใดประสบปัญหานี้อยู่ล่ะก็ เมื่ออ่านจั่วหัวเรื่องที่หยิบมาฝากในตอนนี้แล้วคงจะถูกใจกันนะครับ
อาการปวดท้องในช่วงที่มีประจำเดือนนั้นพบได้บ่อยมากในผู้ป่วยสตรีทั่วไปผู้ป่วยจะมีประจำเดือนนั้นพบได้บ่อยมากในผู้ป่วยสตรีทั่วไปผู้ป่วยจะมีอาการปวดบริเวณท้องน้อย อาจปวดร้าวไปยังบริเวณบั้นเอว ส่วนใหญ่มักปวดในช่วงก่อนประจำเดือนจะมาสัก 1-2 วัน และปวดอยู่ตลอดในช่วงที่ยังมีประจำเดือนอยู่ จนกระทั่งประจำเดือนหยุด อาการปวดจึงค่อยทุเลาหายไป...
อ่านต่อ >> http://www.hiso.or.th/hiso5/healthy/news.php?names=12&news_id=2642

FW Mail : วิธีลดปวดประจำเดือน -
http://www.pukpik.com/fwmail_view.php?id=525

 สารสกัดที่อยู่ในตังกุยมีคุณสมบัติในการต้านการบีบตัวของกล้ามเนื้อมดลูก จึงทำให้สามารถบรรเทาอาการปวดประจำเดือน และอาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัวได้ รวมทั้งสามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ และสม่ำเสมอ นอกจากนี้วิตามินบี 1 บี 6 บี 12 กรดโฟลิก และไบโอติน ที่มีอยู่ในตังกุยยังเป็นสารที่มีความสำคัญต่อการสร้างเลือด บำรุงเลือด และฟอกเลือด สำหรับสตรีอีกด้วย 

กินต้านปวดประจำเดือน : สุขภาพผู้หญิง - http://woman.teenee.com/health/2891.html

 อาหารมังสวิรัติไขมันต่ำไม่เพียงแต่จะช่วยลดอาการและความรุนแรงของอาการปวดเมนส์จาก 3.9 วันเหลือ 2.9 วัน ยังลดอาการก่อนมีประจำเดือนอื่นๆ เช่น ปวดหัว ปวดหลัง บวม หงุดหงุด ได้อย่างชัดเจน

กินอาหารแคลเชียมสูง โดยบริโภคแคลเซียมวันละ 1,200 มิลลิกรัมช่วยลดปัญหาการปวดเมนส์ ส่วนอาหารแคลเซียมสูงได้แก่ ผลิตภัณฑ์นมพร่องมันเนยหรือขาดไขมัน โยเกิร์ต เนยแข็ง ผักใบเขียวจัด เต้าหู้ 

1. อีพีโอหรือกรดแกมมาลิโนเลนิก เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง ทำหน้าที่ยับยั้งการหลั่งไซโตไคน์ (cytokines) และพรอสตาแกลนดินส์ ซึ่งผลิตจากผนังมดลูกมีผลต่อการบีบตัวของกล้ามเนื้อมดลูก และการปวดเมนส์

2. น้ำสมุนไพรบางชนิด ปลอดภัยที่จะดื่มและช่วยให้รู้สึกสบายขึ้น น้ำขิงช่วยลดอาการคลื่นไส้ น้ำราสป์เบอร์รี่ และสมุนไพรคาโมมายล์ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย 

3. ตังกุยสมุนไพรจีน มีสารที่ช่วยการขยายหลอดเลือดป้องกันการบีบเกร็งของหลอดเลือด แต่มีข้อเตือนว่า ไม่ควรกินในปริมาณมากเกินไป เพราะจะทำให้ผิวหนังมีความไวต่อแสงแดดได้

ดี ยู บี  - ปวดประจำเดือน/ประจำเดือนมากผิดปกติ/ประจำเดือนไม่มา - http://www.thailabonline.com/sexualdysmen.htm#ดี%20ยู%20บี

ดียูบี เป็นภาวะที่มีเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูกที่ไม่เกี่ยวกับเนื้องอก หรือการอักเสบของมดลูกหรือการตั้งครรภ์        พบได้ในผู้หญิงทุกวัย แต่จะพบมากในระยะเข้าสู่วัยสาวขณะที่มีประจำเดือนครั้งแรกและในระยะวัยกลางคน เมื่อใกล้จะหมดประจำเดือนอย่างถาวร เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยของภาวะมี เลือดออกทางช่องคลอดมาก หรือนานผิดปกติ

การรักษา
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดผสมฮอร์โมนเอสโตรเจนและโพรเจสเตอโรน ซึ่งเป็นยี่ห้อใดก็ได้ 
ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 4 ครั้ง นาน 5 วัน
แต่ถ้าให้ยาแล้วเลือดไม่หยุดไหล หรือ พบในผู้ป่วยอายุมากกว่า 35 ปี ควรทำการขูดมดลูก เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสาเหตุร้ายแรง (เช่น มะเร็งปากมดลูก)

ธรรมชาติบำบัดรักษาปวดประจำเดือน | Thaihealth.or.th - http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/article/15572

ใช้กรดแกมมาไลโนเลนิก หรือ EPO หรือน้ำมันบอเรจ, น้ำมันแบล็กเคอร์แรนต์ วันละ 2 กรัม เพื่อให้ร่างกายใช้เป็นวัตถุดิบในการสร้างโพรสตาแกลนดินอี 1 (ฮอร์โมนที่ลดอาการปวด) แต่การเปลี่ยนกรดไขมันจำเป็นให้เป็นโพรสตาแกลนดินนั้นเป็นสิ่งที่ค่อนข้างยาก ดังนั้น จึงจำเป็นต้องงดของแสลง ที่จะห้ามกระบวนการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนนี้ เช่น ชา กาแฟ นมวัว เหล้า บุหรี่ รวมทั้งความเครียด ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการสร้างโพรสตาแกลนดิน
Shared publicly
    Add a comment...

    ใครเคยปวดประจำเดือนต้องอ่านแล้ว - วิชาการ.คอม - http://www.vcharkarn.com/vcafe/113697

    สมุนไพรแก้ปวดประจำเดือน -
    http://www.n3k.in.th/สมุนไพร/สมุนไพรแก้ปวดประจำเดือน

    1. ตังกุย
    2. ใบตำลึง
    3. น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส

    Photo
    9 สัญญาณ บอกโรคจากประจำเดือน

    1. ประจำเดือนสีเข้มจัด ออกน้อย มีอาการเหนื่อยง่ายเวลาต้องออกแรง อ่อนเพลียกว่าปกติ เวียนศีรษะ อาจบ่งบอกว่าเป็นสัญญาณของโรคโลหิตจางได้

    2. ประจำเดือนออกมาเป็นลิ่มเลือดคล้ายเลือดหมู มีเลือดออกภายในค่อนข้างมาก อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า กำลังอุ้งเชิงกรานอักเสบ

    3. มีกลิ่นผิดปกติ คัน เจ็บแสบในช่องคลอด ถ้าร่วมกับมีอาการตกขาว แสดงว่าตกขาวจากเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา พยาธิในช่องคลอด หรือติดเชื้อในมดลูก มีอุ้งเชิงกรานอักเสบ

    4. ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอไม่ปกติ ให้สังเกตว่า มีอาการปวดศีรษะเรื้อรัง ตามืดมัวลงเรื่อย ๆ มีหนวดและขนขึ้นผิดธรรมชาติ น้ำนมออกผิดปกติ ถ้ามีอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์ เพื่อตรวจหาเนื้องอกของรังไข่ หรือตรวจหาความผิดปกติของต่อมหมวกไตหรือต่อมใต้สมอง

    5. ประจำเดือนมาน้อยและมีอาการอ่อนเพลีย เฉื่อยเนือย เต้านมแฟบ ขนรักแร้และขนที่อวัยวะเพศร่วง อาจจะเคยตกเลือดอย่างรุนแรง หรือเป็นลมขณะคลอดบุตร ควรพบแพทย์ เพื่อตรวจหาโรคซีแฮน หรือโรคที่ต่อมใต้สมองขาดเลือด ทำให้ทำงานน้อยลงและทำให้รังไข่ทำงานน้อยลงด้วย

    6. ประจำเดือนมามากจนมีอาการซีด ควรไปพบแพทย์ แต่ที่ไม่ควรนิ่งนอนใจ คือถ้าเลือดที่ออกมามีกลิ่นเหม็น และมีอาการปวดบริเวณท้องน้อย ต้องระวังเรื่องปีกมดลูกอักเสบ

    7. ประจำเดือนมามากร่วมกับมีอาการปวดประจำเดือน หรือรู้สึกเจ็บเวลาร่วมเพศ และคลำพบก้อนที่ท้องน้อยอันนี้ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะอาจจะเป็นเนื้องอกในมดลูกได้

    8. ปวดประจำเดือนมากจนหน้าซีดหน้าเซียว หรือยิ่งในวันท้าย ๆ ยิ่งปวดมากขึ้น อย่างนี้ควรจะไปตรวจโรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ หรือถุงช็อกโกแลตซีสต์ได้แล้วค่ะ

    9. ประจำเดือนมานานผิดปกติเกินกว่า 7 วัน อาจเป็นตอนหลังคลอดใหม่ ๆ หรือหลังใส่ห่วงคุมกำเนิดก็ถือเป็นเรื่องปกติ ทำนองเดียวกับประจำเดือนที่ขาด ๆ หาย ๆ แล้วพอมาก็มามาก แต่ก็ไม่มีผิดปกติอื่น ๆ และไม่ได้ตั้งครรภ์ มักจะเป็นในช่วงที่อ้วนเกินไป เครียด ออกกำลังกายมากเกินไป

             ประจำเดือนเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างมาเพื่อผู้หญิงทุกคน หากเราหมั่นสังเกตสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้อย่างสม่ำเสมอและหมั่นดูแลตัวเองให้ดี ก็จะสามารถช่วยป้องกันโรคได้เป็นอย่างดีค่ะ

    เรื่องน่ารู้ มะม่วงดิบ
    แก้อาการปวดประจำเดือนและอาการปวดเมื่อยช่วงมีประจำเดือน

    มะม่วงเป็นไม้ยืนต้นที่มีต้นกำเนิดในประเทศอินเดีย และเป็นผลไม้ประจำชาติของประเทศอินเดีย ในประเทศไทยจัดเป็นผลไม้เศรษฐกิจซึ่งส่งผลผลิตออกเป็นอันดับ 3 ของโลก 
          สำหรับมะม่วงดิบจะมีวิตามินซีสูงช่วยป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน ป้องกันและลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งต่าง ๆ คนไทยเมื่อก่อนจะใช้มะม่วงช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน หรือแก้อาการกระหายน้ำ ด้วยการรับประทานผลสดที่แก่เต็มที่ และใช้ช่วย แก้อาการปวดประจำเดือนและอาการปวดเมื่อยช่วงมีประจำเดือน โดยนำส่วนเปลือกของมะม่วงผลดิบมาคั่วไฟอ่อน ๆ รับประทานร่วมกับน้ำตาล.

    Cr. ข้อมูล dailynews.co.th 
    Photo

    (((((●●●สาวๆคนไหนปวดประจำเดือน●●●))))))

    ขมิ้นแก้ปวดประจำเดือนได้จร้า วิธีทำชาขมิ้น ใช้ดื่มลดอาการปวดประจำเดือน

    ขมิ้นใช้ทาบำรุงผิวก็ได้ และยังใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารอีกหลายชนิด และนอกจากนั้นขมิ้นยังดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วยสามารถป้องกันมะเร็ง,โรคตับ และลดการก่อตัวของเส้นเลือดขอด สำหรับคุณผู้หญิงที่มีปัญหาประจำเดือนมามากผิด
    ปรกติ การดื่มชาขมิ้นช่วยลดปัญหานี้ได้ และยังสามารถช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้ด้วยและควรทานก่อนมีประจำเดือน หนึ่งอาทิตย์

    ●วิธีการทำชาขมิ้น●

    ขมิ้นผง หรือขมิ้นสดปดให้ละเอียด 1 ช้อนชา
    ขิงสด ครึ่งช้อนชา
    น้ำร้อน 1 แก้ว

    ใส่ขมิ้นและขิงสดลงไปในแก้วน้ำร้อนที่เตรียมไว้ ผสมให้เข้ากัน ง่ายๆแค่นี้เอง จากนั้นก็ดื่มได้เลย ดื่มได้ตลอดเวลา รสชาดอาจจะไม่ดีแต่ดีต่อสุขภาพ

    ■■■============================■■■
    งานวิจัยต่างประเทศค้นพบประโยชน์ของขมิ้นชัน ดังนี้

    1. เป็นสารยับยั้งแบคทีเรีย และ๋ฆ่าเชื้อ จึงรักษาบาดแผล หรือรอยไหม้
    2. ป้องกันและรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก เมื่อกินร่วมกับบร๊อคเคลลี่ กะหล่ำดอก กระหล่ำปลี
    3. ป้องกันการลามของมะเร็งเต้านมไปยังปอด และส่วนอื่นๆ
    4. ป้องกันมะเร็งเม็ดสีของผิวหนัง
    5. ลดการเกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาวในเด็ก
    6. กำจัดพิษในตับ เป็นสารล้างพิษให้ตับ
    7. ป้องกันและลดความรุนแรงของโรคอัลไซเมอร์ โดยการกำจัดสาร myloyd ในสมอง
    8. ป้องกันการขยายของมะเร็ง
    9. เป็นสารแก้อักเสบที่ไม่มีผลข้างเีคียงใด ๆ
    10. ลดการขยายตัวของก้อนเนื้อตาย
    11. เป็นสารธรรมชาติที่สามารถยับยั้งการปวด โดยยับยั้งเอ็นไซม์ cox-2
    12. ช่วยระบบเมตาบอลิซึมของไขมัน จึงอาจช่วยควบคุมน้ำหนัก
    13. ลดอาการซึมเศร้า ซึ่งมีใช้ในการแพทย์จีนมาช้านาน
    14. ลดอาการปวดและการอักเสบของโรครูมาตอยด์
    15. เพิ่มประสิทธิภาพของการใช้เคมีบำบัดในผู้ป่วย
    มะเร็ง และลดผลข้างเคียงของการใช้เคมีบำบัด
    16. มีแนวโน้มที่ดีในการรักษาโรคมะเร็งตับอ่อน
    17. ให้ผลที่ดีในการรักษาโรคมะเร็งในเลือด หลาย ๆ ชนิด
    18. ยับยั้งการเจริญของเนื้องอกของหลอดเลือด
    ใหม่
    19. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาแผลผิวหนัง
    20. ช่วยรักษาโรคผิวหนัง psoriasis และการอักเสบของผิวหนังทุกชนิด
    นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราควรกินขมิ้นชันเป็นประจำ อาจเติมเข้าไปในอาหารหรือข้าว หรือรับประทานเป็นแคปซูล

    ตังกุย มีผลช่วยในการดูแลสุขภาพของมดลูกผู้หญิงเราโดยตรงทีเดียว เพราะอุดมไปด้วยวิตามินบี 12 และมีกรดโฟลิกสูง ซึ่งช่วยบำรุงเลือดได้อย่างดี ถ้าหากทานเป็นประจำจะช่วยลดอาการปวดท้อง ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ และช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนของผู้หญิงได้อีกด้วย

    //////////////////////

    สมุนไพรเพื่อสุขภาพ แก้ปวดท้องประจำเดือน
    วันนี้เป็นเรื่องของคุณผู้หญิงนะคะ คุณผู้หญิงที่เวลามีประจำเดือน มักปวดท้องเม้นส์อย่างแรง วันนี้เราเอาสมุนไพรเพื่อ สุขภาพ มาบรรเทาอากาศต่างๆเหล่าดี เพื่อให้ผู้หญิงเรามี สุขภาพ ภายในที่ดี

    วันนั้นของเดือนของคุณผู้หญิง มีปัญหาปวดท้องกันบ้างหรือเปล่าค่ะ ผู้หญิงอย่างเราเกิดมานั้นแสนลำบาก ควรที่เริ่มดูแลใส่ใจตัวเอง ดูแลสุขภาพ ตรวจสุขภาพ ตรวจภายใน เพื่อให้จะได้รู้สาเหตุการปวดท้องประจำเดือนที่แท้จริงกันนะคะ การปวดท้องประจำเดือน สาว ๆ ที่มักพึ่งยาแก้ปวดในการช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนเป็นประจำ ไม่ดีต่อสุขภาพร่างกาย หากรับประทานในจำนวนมาก ติดๆกัน เราจึงมีวิธีธรรมชาติบำบัดเพื่อสุขภาพที่ดี โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งสารเคมี เพียงคุณหันมาทานสมุนไพรทั้ง 3 ชนิด อาการปวดจำเดือนก็จะหายไปแล้วค่ะ

    ตังกุย มีผลช่วยในการดูแลสุขภาพของมดลูกผู้หญิงเราโดยตรงทีเดียว เพราะอุดมไปด้วยวิตามินบี 12 และมีกรดโฟลิกสูง ซึ่งช่วยบำรุงเลือดได้อย่างดี ถ้าหากทานเป็นประจำจะช่วยลดอาการปวดท้อง ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ และช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนของผู้หญิงได้อีกด้วย

    ใบตำลึง มีแมกนีเซียม และธาตุเหล็ก ที่ช่วยไม่ให้ปวดเกร็งกล้ามเนื้อหรือลดอาการตะคริว จึงมีส่วนช่วยในการลดอาการปวดเกร็งช่วงท้องได้ด้วย นอกจากนี้ แมกนีเซียมยังพบได้อีกในเนื้อสัตว์ และตับหมู

    น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส ในน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสจะมีกรดไขมันที่ชื่อว่า กรดแกมม่า ไลโนเลนิก ซึ่งมีคุณสมบัติลดหรือต้านการอักเสบ ช่วยรักษาระดับฮอร์โมนในร่างกายของผู้หญิง แถมยังช่วยลดอาการปวดเกร็งท้อง ลดการปวดหน้าอก และอาการตัวบวมช่วงก่อนหรือช่วงมีประจำเดือนได้

    https://www.facebook.com/OuayUn/photos/a.196916776996486.44415.150176071670557/586280141393479/ 
    Photo

    "สี่ข้อดี ของยาคุม ที่ไม่ใช้คุม"

    ยาเม็ดคุมกำเนิด นอกจากจะมีประโยชน์ตามชื่อแล้ว ยังมีประโยชน์ด้านอื่นๆอีกมากมาย
    ปัจจุบัน เมื่อมีวิวัฒนาการของส่วนประกอบในยาเม็ดคุมกำเนิด หาสูตรยาใหม่ๆ เพื่อลดอาการข้างเคียงจากยาคุมกำเนิดชนิดเดิมๆ อีกทั้งได้พัฒนาคุณสมบัติอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ลดขนาดฮอร์โมนอีสโตรเจน เพื่อลดอาการคลื่นไส้ ลดโอกาสการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน หรือการเปลี่ยนชนิดของฮอร์โมนโปรเจสโตเจน ซึ่งเป็นตัวหลักในการออกฤทธิ์คุมกำเนิด โดยโปรเจสโตเจนบางชนิด จะออกฤทธิ์ลดฮอร์โมนเพศชาย ลดการดูดซึมของเกลือแร่ เป็นต้น

    ประโยชน์ด้านอื่นๆ ของยาเม็ดคุมกำเนิด เช่น
    1. ลดสิว(Acne)ในผู้หญิงบางคนมีภาวะฮอร์โมนเพศชายสูงกว่าปรกติ ทำให้เกิดภาวะผิวมัน(Oily skin) พอเกิดภาวะผิวมัน ก็ทำให้เกิดสิ่งสกปรกหรือการติดเชื้อที่รูขุมบนใบหน้ามากขึ้น หรือบางครั้งทำให้ต้องใช้เครื่องสำอางทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนบนใบหน้า ทำให้เกิดสิวตามมาได้ โดยในยาเม็ดคุมกำเนิดจะช่วยเพิ่มโปรตีน SHBG ซึ่งจะไปจับกับฮอร์โมนเพศชายที่อยู่ในกระแสเลือด ทำให้ฮอร์โมนเพศชายออกฤทธิ์ได้น้อยลง ทำให้ภาวะสิวดีขึ้น

    2. ลดซีสต์(Cyst) เนื่องจากยาเม็ดคุมกำเนิดจะทำให้ไข่ไม่ตก ทำให้ไม่เกิดซีสต์(Cyst) ชนิด functional cyst หรือ corpus luteum cyst ซึ่งบางครั้งเป็นสาเหตุที่ต้องผ่าตัดเพื่อทำการรักษา

    3. ลดปริมาณประจำเดือน(Menstrual bleeding) ผู้หญิงบางรายที่มีความผิดปรกติของปริมาณประจำเดือน เช่น ประจำเดือนออกนาน หรือประจำเดือนออกมาเป็นก้อนเลือด การใช้การคุมกำเนิดสามารถลดปริมาณประจำเดือนที่ออกได้ 50%

    4. ลดปวดประจำเดือน(Dysmenorrhea) ช่วงที่มีประจำเดือนจะมีการหลั่งสารที่ชื่อว่าพลอสตาแกลนดิน ซึ่งทำให้เกิดอาการปวด ยาเม็ดคุมกำเนิดจะไปช่วยลดปริมาณของพลอสตาแกลนดิน ทำให้อาการปวดประจำเดือนลดลง

    สรุป ยาเม็ดคุมกำเนิด นอกจากจะช่วยเรื่องการคุมกำเนิดแล้ว ยังมีประโยชน์ด้านอื่นๆอีกมากมาย โดยได้มีการศึกษาวิจัยมากมายมารองรับ ในวงการแพทย์ก็มีการใช้ยาคุมกำเนิดเพื่อทำการรักษาภาวะเหล่านี้อย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ดี ยาเม็ดคุมกำเนิดก็ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน ดังนั้นก่อนการเริ่มใช้ยาควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อประโยชน์สูงสุดของตัวเอง
    “ นอกจากคุมกำเนิดแล้ว ยังช่วย ลดสิว ลดซีสต์ ลด Bleed ลดปวด”

    https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=885833564810715&id=883387011722037
    Photo

    อาการปวดที่ไม่มีพยาธิสภาพในอุ้งเชิงกราน ไม่พบโรคในอุ้งเชิงกราน มักเกิดช่วงกลางรอบเดือน ซึ่งเป็นช่วงไข่ตก หรือปวดช่วงรอบเดือน โดยเริ่มมีอาการตั้งแต่อายุน้อยหรืออายุที่เริ่มมีรอบเดือน กรณีการกินยาแก้ปวดอาจจะช่วยบรรเทาได้ 

    อาการปวดที่มีพยาธิสภาพในอุ้งเชิงกราน จะมีอาการรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆจากเคยปวดเพียงวันเดียวต่อมาจำนวนวันอาจมากขึ้น หรือจากเคยปวดระดับที่ทนได้ไม่ต้องใช้ยาแก้ปวดแต่กลับต้องใช้มากขึ้นและถี่ขึ้น บางรายมากจนต้องหยุดเรียน โรคที่พบบ่อย เช่น โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

    การรักษาอาการปวดประจำเดือน
    1. ใช้ยาแก้ปวด โดยกินตั้งแต่เริ่มปวดวันแรกและกินต่อเนื่องในวันที่ปวดเพื่อป้องกันก่อนปวด จะช่วยควบคุมอาการปวดได้ดีกว่ากินเมื่อมีอาการปวดแล้ว
    2. การใช้ฮอร์โมนในการรักษา
     3.การผ่าตัด  

    http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1443166140

    แม้ว่าโรคนี้จะเจอได้บ่อย แต่มีผู้ป่วยเพียงหนึ่งในสี่เท่านั้นที่จะแสดงอาการ
    1.อาการที่พบบ่อยที่สุดคือ ประจำเดือนมามากและนานกว่าปกติ ในบางคนอาจจะมีเลือดออกนานถึง 2 สัปดาห์
    2.อาการปวดหน่วงตรงท้องน้อย หรือบริเวณหลัง หรือปวดเหมือนการปวดประจำเดือนที่มากหรือนานกว่าปกติ
    3.อาจคลำได้หรือรู้สึกได้ว่ามีก้อนเกิดขึ้นตรงบริเวณท้องน้อย หากก้อนโตมากๆ อาจดูเหมือนมีการตั้งครรภ์ในขณะที่ประจำเดือนยังมาตามปกติ
    4.เนื่องจากมดลูกอยู่ด้านหลังกระเพาะปัสสาวะ ดังนั้นก้อนเนื้อของมดลูกอาจทำให้เกิดการปัสสาวะเล็ด กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ โดยเฉพาะเวลาที่นอนราบลง
    5.อาจมีอาการหน่วงท้องและมีอาการท้องผูก หากก้อนเนื้อกดลงบนลำไส้ใหญ่
    6.อาการที่พบแต่ไม่บ่อย เช่นเจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์


    http://www.drkomgrit.com/article.aspx?id=53

    PANADOL ACTIFAST ขนาด 8 เม็ด กินได้ 1 วัน
    ดูดซึมได้เร็วกว่า PANADOL สูตรปกติ 2 เท่า
    ไม่ระคายเคืองกระเพาะ

    บรรเท่าอาการปวดเล็กน้อยถึงปานกลาง ได้แก่ ปวดศีรษะ ปวดไมเกรน ปวดประจำเดือน ปวดกล้ามเนื้อ ปวดฟัน ปวดข้อ ลดไข้

    ผู้ใหญ่และเด็กอายุมากกว่า 12 ปี กิน 1-2 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง
    ห้ามกินเกินวันละ 8 เม็ด ติดต่อกันนานกว่า 5 วัน

    ห้ามใช้ 
    ผู้ป่วยโรคตับขั้นรุนแรง ผู้ป่วยโรคไตที่จำกัดปริมาณโซเดียม  เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี 

    มีแล้วที่ BETTER PHARMACY

     ////////////////////////////////

    ///////////////////////////////

    ถ้ากิน PANADOL ACTIFAST 2 เม็ด ควรดื่มน้ำตาม 100 ml เพื่อเพิ่มการดูดซืมยา โดยจะพบยาในกระแสเลือด หลังจากกินยาไปเพียง 10 นาที  ถ้ากินยาตอนท้องว่าง ยาจะออกฤทธิ์เต็มที่ภายใน 25 นาที แต่ถ้ากินยาหลังกินข้าว จะออกฤทธิ์เต็มที่ภายใน 45 นาที โดยมีค่าครึ่งชีวิต 2-3 ชั่วโมง 

    https://www.medicines.org.uk/emc/medicine/21529 
    Photo

    ประโยชน์ใน `พริกไทยเม็ดเล็ก`

    ขอนำประโยชน์ดีๆ กับเครื่องเทศใกล้ๆ ตัว ที่ถูกใช้เป็นเครื่องปรุงใส่ลงในอาหารให้เราได้รับประทานกันแทบทุกวัน นั่นก็คือ พริกไทย เครื่องเทศมากประโยชน์ชนิดนี้ มาดูกันดีกว่าว่า เจ้าพริกไทยเม็ดเล็กๆนี้ จะมีประโยชน์ต่อร่างกายเราอย่างไรบ้าง

    คุณค่าทางด้านโภชนาการของพริกไทย
    1. มีแคลเซียมในปริมาณที่สูงมาก โดยเฉพาะพริกไทยอ่อน ซึ่งแคลเซียมเป็นส่วนสำคัญในการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรงอยู่เสมอ และแคลซียม ยังสามารถป้องกันการเกิดภาวะกระดูกพรุนได้อีกด้วย
    2. มีฟอสฟอรัส วิตามินซี ซึ่งวิตามินซีนั้นเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง
    3. มีเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการสร้างวิตามินเอ และมีส่วนช่วยในการมองเห็น
    4. มีสารที่ชื่อว่า ไปเปอรีน และ ฟินอลิกส์ ซึ่งทั้งคู่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และมีสรรพคุณในการป้องกันมะเร็ง

    สรรพคุณของพริกไทย
    ตำรายาจีนใช้พริกไทยแก้ปวดท้อง ท้องเดินจากโรคอหิวาต์ โรคมาลาเรีย และแก้ไข้ ส่วนน้ำมันพริกไทยดำ (blackpepper oil) มีสารชื่อ พิเพอรีน (piperine) กลิ่นฉุนจัด ระคายเคืองต่อผิวหนัง เมื่อใช้ต้องเจือจาง สำหรับสูดดมหรือทาถูช่วยลดอาการหนาวสั่นจากหวัดและไข้หวัดใหญ่ ทำให้หายใจโล่งและช่วยฆ่าเชื้อโรค ผสมน้ำมันนวดบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ กลิ่นพริกไทยมีฤทธิ์กระตุ้นความสนใจสภาพแวดล้อม ให้ตื่นตัวเสมอ เพิ่มพลังใจ และความเข้มแข็ง ตำรายาอินเดีย ใช้กลั้วคอ แก้เจ็บคอ ลดไข้ แก้หวัด ปวดท้อง ท้องเสีย ปวดประจำเดือน คลื่นไส้ อาหารไม่ย่อย


    https://www.facebook.com/OuayUn/photos/a.196916776996486.44415.150176071670557/857531757601648/ 
    Photo

    22 Dec 2010
    อย.เตือนภัยกาแฟลดความอ้วนยี่ห้อดัง คอฟฟี่สลิมมิ่ง ดื่มแล้วเสียชีวิต (อย.) แถลงข่าวการจับกุมการขายส่งและปลีกกาแฟลดค­วามอ้วนยี่ห้อ Coffee Slimming ที่มีการใส่สารไซบูทรามีน - SIBUTRAMINE

    อาการข้างเคียงที่พบได้บ่อย คือ อาการปากแห้ง รับรู้รสชาติแปลก ๆ คลื่นไส้ ท้องผูก มีปัญหาการนอนหลับ วิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ ปวดประจำเดือน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและไขข้อ และผลข้างเคียงที่รุนแรงและจำเป็นต้องหยุดยาทันที (ไม่พบมาก) คือ การเต้นของหัวใจผิดจังหวะ อาการทางจิตประสาท เช่น ซึมเศร้า กระสับกระส่าย สับสน อาการชัก การมองเห็นผิดปกติ ร่างกายบวมน้ำ และหอบเหนื่อย“

    ในปี 2545 มีการศึกษาผลที่ได้รับหลังจากใช้ยาพบว่าอาจทำให้ถึงกับเสียชีวิตกะทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุ มีภาวะไตวายและมีความผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ทางประเทศในยุโรปประกาศยกเลิกไม่ให้ใช้ยานี้ในคนทั่วไป และนำยาไซบูทรามีนออกจากชั้นวางขายและงดจำหน่ายทันที ยาตัวนี้จึงหาซื้อไม่ได้ตามร้านทั่วไปนอกจากในตลาดมืดที่มีการลักลอบผลิต เนื่องจากว่ายังมีคนอยากหุ่นดี ไม่ว่ายาจะเสี่ยงแค่ไหนก็ยินดีที่จะเสี่ยงเพื่อการมีรูปร่างที่ดี ฉะนั้นปัจจุบันผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักจึงยังแอบเจือปนสารนี้เข้าไปในผลิตภัณฑ์ยาลดความอ้วนและอาหารเสริมลดน้ำหนักอยู่

    https://www.youtube.com/watch?v=X7z52ZTDMLo
    http://www.dailynews.co.th/article/301512
    Shared publicly
      Add a comment...

      มีคนไข้มาถามหา "ไพรานา" บอกว่ากินดี ไข้ลด

      อธิบายไปว่า ยาไพรานามีตัวยาสำคัญคือ Metamizol เป็น NSAIDs ในกลุ่ม dipyrones ซึ่งมักเป็นยาที่อยู่ในตำรับของยาบรรเทาอาการปวดศีรษะ ปวดประจำเดือน ปวดฟัน

      ปัจจุบันนี้ ได้เลิกและถอนทะเบียนไปแล้ว เนื่องจากมีอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง => คือการกดการทำงานของไขกระดูก และการระคายเคืองทางเดินอาหาร 


      https://www.facebook.com/115254095241402/photos/a.272165472883596.46354.115254095241402/334752339958242/ 
      Photo
      Shared publicly
        Add a comment...

        อาการการปวดท้องเรื้อรังหรืออาการปวดมดลูกอาจมีหลายสาเหตุ เช่น

        -ภาวะปวดประจำเดือนDysmenorrheal ถึงแม้ว่าการปวดประจำเดือนจะเกิดได้กับทุกคนแต่บางคนจะมีอาการรุนแรงมากสาเหตุเกิดจากฮอร์โมนProstaglandinsซึ่งสร้างโดยเซลล์ที่ผนังมดลูกทำให้เกิดการเกร็งของมดลูกค่ะ 

        -ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่Endometriosisเป็นภาวะที่เกิดจากการที่เนื้อเยื่อมดลูกไปอยู่บริเวณรังไข่ท่อรังไข่ หรือบริเวณช่องท้องน้อย ส่วนใหญ่ตัวมดลูกเองจะไม่กระตุ้นที่รังไข่ แต่ถ้าเป็นมะเร็งที่มดลูก ก็อาจลามไปที่รังไข่ได้ เนื่องจากฮอร์โมนจากรังไข่ส่งมาถึงตัวมดลูก ทำให้มันทำงานผิดปกติ แต่ถ้าปราศจากรังไข่ มดลูกก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย คือ มดลูกจะเหี่ยว ฉะนั้นการตัดมดลูกออก เก็บรังไข่ไว้ ก็ยังมีการสร้างฮอร์โมนต่อไป ผิวหนังของคนเราก็จะไม่เหี่ยว    สำหรับอาการปวดจะมีความรุนแรงและรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆทุกเดือนเนื่องจากเลือดที่ถูกสร้างโดยเยื่อบุโพรงมดลูกไม่สามารถขับออกมาได้บางครั้งทำให้เห็นเป็นถุงน้ำที่มีเลือดอยู่ภายในหรือที่เรียกว่าchocolate cyst
        -เนื้องอกในโพรงมดลูก มะเร็งมดลูก อาการที่แสดงส่วนใหญ่แทบจะไม่มีอาการแต่อาจจะทำให้เกิดอาการปวดเนื่องจากมีการกดเบียดอวัยวะอื่นบางคนจะมีประจำเดือนมาผิดปกติส่วนหนึ่งจะสัมพันธ์กับฮอร์โมนEstrogen อัตราการโตขึ้นของ   เนื้องอกก็สำคัญ โดยทั่วไปเนื้องอกจะมีโอกาสกลายเป็นมะเร็งน้อย คือ ประมาณ 1% แต่ถ้าโตเร็วและมีเลือดออกมาผิดปกติก็อย่านิ่งนอนใจ ดังนั้น ถ้ารู้ตัวว่ามีเนื้องอกก็อย่ารอให้มีอาการ ควรไปพบแพทย์ตรวจเป็นระยะ เพื่อดูว่าโตขึ้นหรือไม่ เพราะเนื้องอกก็อาจกลายได้ ข้อสังเกตคือ ก้อนเนื้อโตเร็วผิดปกติ


        Credit : womencenter
        Photo

        เมนูแนะนำสำหรับผู้หญิงที่กำลังมี #ประจำเดือน

        กำลังมีประจำเดือน ควรจะเลือกกินอย่างไรดีนะ หรือของต้องห้าม ไม่ควรกินอะไร อาหารกับประจำเดือน ก็มีส่วนสัมพันธ์กัน

        คาร์โบไฮเดรต ช่วงมีประจำเดือน คาร์โบไฮเดรตคืออาหารที่ช่วยลดผลกระทบด้านอารมณ์ ผลการวิจัยพบว่า ช่วยลดอาการเครียด หงุดหงิด อารมณ์เสียรวมถึงอาการอ่อนเพลีย อย่างเห็นได้ชัด

        แมงกานีส ช่วยให้มีประจำเดือนไปอย่างปกติ ซึ่งจะมีอยู่ในอาหารประเภทธัญพืช ถั่ว ผักและผลไม้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สับปะรด สำหรับชาแม้จะมีแมงกานีสเช่นกัน แต่ก็มีคาเฟอีนซึ่งอาจทำให้เกิดอาการไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวได้

        แคลเซียม สาวๆ ที่มีประจำเดือน ควรรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยจากที่เคยรับประทาน เช่น ตับ ปลาตัวเล็กตัวน้อย กะปิ กุ้ง ผักใบเขียว เพราะช่วยลดผลกระทบที่เกิดจากการมีประจำเดือน เช่น ปวดท้อง ปวดหลัง หงุดหงิด วิตกกังวล ซึมเศร้าอย่างเห็นได้ชัด

        หลีกเลี่ยงคาเฟอีน ผลการวิจัยพบว่า ผู้หญิงจีนที่ดื่มกาแฟวันละหนึ่งถ้วยครึ่งถึง 4 ถ้วย มีอาการต่างๆ ทั้งทางร่างกายและอารมณ์ก่อนการมีประจำเดือนมากกว่าผู้ที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ถึง 2 เท่า จึงควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในช่วงเวลาดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ร่างกายอ่อนไหวต่อการบริโภคคาเฟอีนอยู่แล้ว

        Cr.womanthaiza
        สมุนไพรปรับสมดุลช่วยลดอาการปวดประจำเดือน http://goo.gl/s53BEy #สมุนไพรไทย #หมอเส็ง #thailandonly  
        Photo

        " 3 ปวด" ช็อกโกแลตซีสต์

        ศาสตราจารย์ นายแพทย์สมบูรณ์ คุณาธิคม เลขาธิการราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย แนะนำข้อสังเกตเบื้อต้นจาก 3 อาการปวด ดังนี้

        1. ปวดประจำเดือนมาก หรือทุกวันที่มีประจำเดือน และมักจะปวดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
        2. ปวดท้องน้อยเรื้อรัง ทั้งช่วงที่มีและไม่มีประจำเดือน เนื่องจากเกิดการสร้างพังผืดบริเวณนอกโพรงมดลูก
        3. ปวดเวลามีเพศสัมพันธ์ เพราะอาจไปโดนบริเวณเยื่อบุหรือรอยโรคจนทำให้มีอาการเจ็บปวดได้

        ..... นอกจากนี้อาจมีความผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีบุตรยาก ประจำเดือนผิดปกติ (ทั้งเลือดออกกะปริบกะปรอยและเลือดออกมากขึ้นจนเป็นก้อนลิ่มเลือด)

        อย่างไรก็ตาม ในบางคนที่มีช็อกโกแลตซีสต์อาจไม่มีอาการผิดปกติ เหล่านี้ ทางที่ดีหากมีข้อสงสัยควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการตั้งแต่เนิ่นๆ ค่ะ

        Credit : ศรีสุภา
        Photo

        "โรคช็อกโกแลตซีสต์" เพื่อสุขภาพของตัวคุณเอง
        ซีส (Cyst) คือ ถุงน้ำ "ช็อกโกแลตซีสต์" หมายถึงถุงน้ำของรังไข่แบบหนึ่งที่มีของเหลวอยู่ภายในและมีลักษณะเหมือนช็อคโกแลตเหลว ซึ่งความจริงก็คือ ถุงเลือดนั่นเอง

        สาเหตุของการเกิดโรคช็อกโกแลตซีสต์
        ในทางการแพทย์เชื่อว่า เกิดจากเลือดระดูหรือเลือดประจำเดือนไหลย้อนกลับ อธิบายกันง่าย ๆ ก็คือ แทนที่เลือดจะออกมาทางช่องคลอดของผู้หญิงตามปกติอาจจะมีเลือดระดูส่วนหนึ่งมีการไหลย้อนกลับเข้าไปผ่านทางหลอดมดลูกแล้วก็เข้าไปในช่องท้องไปฝังตัวที่รังไข่จนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำขึ้น

        และเนื่องจากลักษณะเซลล์ของถุงน้ำในเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกอันหนึ่ง เมื่อผู้หญิงมีประจำเดือนเยื่อบุโพรงมดลูกก็จะลอกตัวออกมาถุงน้ำดังกล่าวก็จะมีเลือดออกในถุงด้วย เมื่อเลือดหยุดหรือหมดประจำเดือนในแต่ละเดือนแล้วนั้นระบบร่างกายก็จะทำการดูดซึมน้ำกลับมาที่ถุงทำให้เลือดในถุงเข้มข้นและเมื่อเลือดค้างอยู่ในถุงน้ำนาน ๆ จะกลายเป็นสีน้ำตาลมีลักษณะเหมือนช็อคโกแลตจึงเรียกว่า "ถุงน้ำช็อกโกแลต" ดังนั้น ในแต่ละเดือนที่ผ่านไปถุงน้ำก็จะมีเลือดออกเพิ่มขึ้น ๆ นั่นหมายถึง ถุงน้ำก็จะใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ แต่จะใหญ่เร็วมากน้อยแค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของคนคนนั้นว่า จะดูดน้ำกลับได้เร็วเท่าไหร่ ถ้าร่างกายดูดน้ำกลับได้เร็วถุงน้ำนั้นก็จะโตขึ้นแบบช้า ๆ

        นอกจากจะเรียกว่า ช็อกโกแลตซีสต์หรือถุงน้ำช็อกโกแลตแล้วทางการแพทย์ยังเรียกว่า "เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่" (Endometriosis) ด้วยเช่นกัน ฉะนั้นก็ไม่ต้องสงสัยกันอีกต่อไปว่ามันเป็นโรคดียวกันหรือเปล่า

        อาการของโรคช็อกโกแลตซีสต์
        สำหรับอาการเจ็บปวดหรืออาการอย่างไรที่ทำให้สงสัยว่าจะเป็นนั้นเป็นอีกประเด็นที่หลายคนยังสงสัยอยู่ เนื่องจากหลายคนอาจไม่สามารถแยกแยะออกได้ว่า การปวดท้องนั้นมาจากการปวดประจำเดือนแบบปกติหรือปวดเพราะเป็นโรคนี้กันแน่ ทางการแพทย์กล่าวว่า ประเด็นหลักที่ต้องพิจารณาคืออายุหากอายุไม่มากแล้วปวดท้องส่วนใหญ่จะเป็นการปวดท้องแบบธรรมดา แต่กรณีที่ไม่เคยปวดประจำเดือนมาก่อนพออายุ 30 ปีขึ้นไปก็มีอาการปวดประจำเดือนขึ้นมาและปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละเดือนที่ผ่านไปก็มีโอกาสที่จะเป็นข้อบ่งชี้ที่ชวนให้สงสัยว่า อาจเป็นถุงน้ำช็อกโกแลตได้ เช่นกัน

        เอาล่ะ...มาถึงคำตอบที่ว่า หากเป็นโรคช็อกโกแลตซีสต์เมื่อแต่งงานแล้วทำไมจึงหาย ก็เพราะว่าเมื่อผู้หญิงแต่งงานและมีการตั้งครรภ์ช่วงเวลาที่ตั้งครรภ์ 9 เดือนจนถึงหลังคลอดอีก 3-6 เดือน จะเป็นช่วงที่ไม่มีประจำเดือน การที่ไม่มีประจำเดือนนี้เอง ที่ทางการแพทย์ถือว่าเป็นการรักษาได้ทางหนึ่งเพราะถุงน้ำจะฝ่อตัวไปเอง

        เรื่องของการผ่าตัดนั้นแพทย์จะทำการพิจารณาถึงความมากน้อยของอาการ เช่น ถุงน้ำใหญ่มากจนเกิดอาการปวดรุนแรงหรือไปกดอวัยวะข้างเคียงส่งผลไปถึงส่วนอื่น ๆ ก็อาจจะตัดสินใจให้ผ่าตัด

        เอาเป็นว่าหากมีช็อกโกแลตซีสในตัวคุณเมื่อไหร่ก็ขออย่าได้ไว้วางใจเป็นอันขาดควรเข้ารับการตรวจภายในกันบ้าง
        Photo

        #มะม่วง " ช่วยให้เลือดลมและประจำเดือนของสตรีเป็นปกติ
        สรรพคุณทางยา :
        ส่วนต่าง ๆ ของมะม่วงล้วนแต่มีสรรพคุณทางยาไม่ว่าจะเป็นเนื้อของผลมะม่วง เมล็ดในมะม่วง เปลือกหุ้มลำต้น และใบมะม่วง โดยเนื้อของผลมะม่วงมีสรรพคุณในการเป็นยา แก้อาการไอ ละลายเสมหะ แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน ดับกระหาย ขับปัสสาวะ ช่วยให้เลือดลมและ #ประจำเดือนของสตรีเป็นปกติ * นอกจากนี้ยังมีสรรคุณในการแก้อาการอักเสบและอาการแพ้ชนิดต่าง ๆ อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม *ผู้ที่ป่วยเป็นโรคไตไม่ควรที่จะรับประทานมะม่วงมากเกินไปนักเพราะจะทำให้อาการของโรคเป็นมากขึ้น

        ตำรับยาแผนโบราณ :
        หากรับประทานมะม่วงสดเป็นประจำแล้วก็จะ ช่วยทำให้อาการไอ หอบ มีเสมหะ หรือมีเลือดออกตามไรฟันบรรเทาลงไปได้ และถ้านำเอาเปลือกมะม่างสดมาต้มกับน้ำแล้วนำไปล้างแผลในบริเวณผิวหนังที่เป็นอักเสบตกสะเก็ด ก็จะช่วยลดอาการอักเสบได้ ส่วนเมล็ดในผลมะม่วงนั้นสามารถที่จะนำมาต้มกับน้ำเพื่อ บรรเทาอาการปวดเนื่องมาจากไส้เลื่อน หรือหากนำเอาใบมะม่วงมาต้มกับน้ำมาล้างแผล หรือใช้ใบมะม่วงที่ตำละเอียดมาพอกที่แผลจะ ช่วยทำให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น

        Cr. ข้อมูลและภาพจากอินเตอร์เน็ต
        .............................................................................
        มดลูกต่ำ ประจำเดือนไม่ปกติ ปวดประจำเดือน ตกขาว
        #เอ็กซ์2 ตราหมอเส็ง  http://goo.gl/2UiSyR 
        Photo

        หมดปัญหาการความไม่สบายตัวระหว่างวัน ด้วย Merry Living Sanitary Napkins ที่จะทำให้ร่างกายคุณลดอุณหภูมิลงถึง 5 องศา ให้ความรู้สึกเย็นขึ้นทันทีที่ใช้ ช่วยให้จุดซ่อนเร้นสดชื่น ลดอาการคันเนื่องจากตกขาว และอาการอื่นๆ เช่นปวดประจำเดือน

        .........................................
        BETTER PHARMACY
        เราคัดสรรแต่สิ่งที่ดี มีคุณภาพ เพื่อคุณ
        ใกล้ TRAM CONDOMINIUM เจ็ดยอด เชียงใหม่

        FACEBOOK/BetterPharmacyCMG
        LINE ID - BETTERCM
        .........................................
        Photo
        Photo
        2015-06-02
        2 Photos - View album
        Shared publicly
          Add a comment...


           ‪‎ยาฟอกโลหิตตราสิงห์แดง‬ ผลิตจากรากสามสิบ ราชินีแห่งสมุนไพรไทย สรรพคุณยิ่งใหญ่ใช้กันทั่วโลก...อกอึ๋ม::ผิวตึง::หน้าใส::กลิ่นหาย::ตกขาวแห้ง::ไม่ปวดประจำเดือน::และมาเป็นปรกติ::ช่องคลอดฟิตกระชับ::นอนหลับสบาย::ทานแล้วไม่อ้วน::ประหยัดคุุ้มค่า::ปลอดภัยมาตรฐานGMP::

          https://www.youtube.com/watch?v=BfvYZGhUHLA
          https://www.facebook.com/123699137812665/photos/a.180336978815547.1073741829.123699137812665/400773060105270/ 
          https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=286436901538887&id=123699137812665
          Shared publicly



          No comments:

          Post a Comment