Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 16 Dec 2015
น้ำมันมะพร้าวจัดเป็นไขมันชนิด medium chain fatty triglycerides ถูกย่อยสลายที่ตับ สร้างเป็นพลังงานอย่างรวดเร็ว มีการศึกษาว่า การกินน้ำมันมะพร้าวช่วยลดน้ำหนักได้ ไม่ทำให้ระดับ insulin เพิ่มอย่างรวดเร็ว ป้องกันการเกิดโรคเบาหวานชนิด type 2
ในน้ำมันมะพร้าว จะมี lauric acid ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา มีประโยชน์ต่อผู้ที่เป็นโรคลำไส้แปรปรวน ระบบย่อยอาหารไม่ดี
http://www.jewsnews.co.il/2015/03/18/what-eating-just-one-ounce-of-coconut-oil-per-day-does-to-your-weight-over-a-period-of-time/
ในน้ำมันมะพร้าว จะมี lauric acid ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา มีประโยชน์ต่อผู้ที่เป็นโรคลำไส้แปรปรวน ระบบย่อยอาหารไม่ดี
http://www.jewsnews.co.il/2015/03/18/what-eating-just-one-ounce-of-coconut-oil-per-day-does-to-your-weight-over-a-period-of-time/
Coconut oil is one of the few foods that can actually be classified as a super food. There is such a hype surrounding the product that it really makes you wonder what the sudden ubiquitous of this tropical plant is all about.
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 15 Oct 2015
กรดไขมันอิ่มตัว มักมีจุดหลอมเหลวสูงกว่า ไม่เหม็นหืน เมื่อตั้งทิ้งไว้ในอากาศ ได้แก่ ไขมันจากสัตว์ เช่น น้ำมันหมู ไขมันนม เนย เบคอน น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว ไขมันอิ่มตัวสามารถป้องกันภาวะการอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจ แต่หลักฐานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ยังไม่เพียงพอ คงต้องรอศึกษาเพิ่มเติมกันต่อไป
กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว พบได้ทั่วไปในอาหาร มีมากในน้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันคาโนล่า น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันดอกคำฝอย อัลมอนด์ ถั่วลิสง ถั่วแมคคาเดเมีย และเมล็ดงา เมื่อกินกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวมากกว่า 12% ของไขมันทั้งหมดที่บริโภค จะช่วยลดมวลไขมันและความดันโลหิตได้
กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ที่พบโดยทั่วไป คือ กลุ่ม โอเมก้า 3 และ 6 เป็นกรดไขมันที่จำเป็นต้องได้รับจากอาหาร ร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้
- กรดแอลฟา-ไลโนเลนิก เป็นไขมันที่มาจากพืช อาทิ ถั่วเมล็ดแห้ง โดยเฉพาะวอลนัต เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดเจีย (Chia seed) น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันคาโนล่า และพบเล็กน้อยในน้ำมันรำข้าว
- กรดไขมัน EPA และ DHA เป็นกรดไขมันที่พบได้ในสัตว์ โดยเฉพาะปลาและอาหารทะเล เช่น ปลาสวาย ปลาดุก ปลาช่อน ปลาสำลี ปลากะพง ปลาทู
- กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 6 พบมากในน้ำมันพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันข้าวโพด น้ำมันเมล็ดทานตะวัน และน้ำมันรำข้าว จมูกข้าว ออกฤทธิ์เพิ่มการอักเสบ ทำให้เลือดแข็งตัว
http://health.haijai.com/3892/
กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว พบได้ทั่วไปในอาหาร มีมากในน้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันคาโนล่า น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันดอกคำฝอย อัลมอนด์ ถั่วลิสง ถั่วแมคคาเดเมีย และเมล็ดงา เมื่อกินกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวมากกว่า 12% ของไขมันทั้งหมดที่บริโภค จะช่วยลดมวลไขมันและความดันโลหิตได้
กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ที่พบโดยทั่วไป คือ กลุ่ม โอเมก้า 3 และ 6 เป็นกรดไขมันที่จำเป็นต้องได้รับจากอาหาร ร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้
- กรดแอลฟา-ไลโนเลนิก เป็นไขมันที่มาจากพืช อาทิ ถั่วเมล็ดแห้ง โดยเฉพาะวอลนัต เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดเจีย (Chia seed) น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันคาโนล่า และพบเล็กน้อยในน้ำมันรำข้าว
- กรดไขมัน EPA และ DHA เป็นกรดไขมันที่พบได้ในสัตว์ โดยเฉพาะปลาและอาหารทะเล เช่น ปลาสวาย ปลาดุก ปลาช่อน ปลาสำลี ปลากะพง ปลาทู
- กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 6 พบมากในน้ำมันพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันข้าวโพด น้ำมันเมล็ดทานตะวัน และน้ำมันรำข้าว จมูกข้าว ออกฤทธิ์เพิ่มการอักเสบ ทำให้เลือดแข็งตัว
http://health.haijai.com/3892/
กรดไขมันอิ่มตัวกับกรดไขมันไม่อิ่มตัว โครงสร้างของกรดไขมันที่แตกต่างกัน หากแบ่งตามความอิ่มตัว จะแบ่งได้ 2 ประเภท คือ กรดไขมันอิ่มตัว และ กรดไขมันไม่อิ่มตัว โครงสร้างของกรดไขมันที่แตกต่างกัน ทำให้กรดไขมันแต่ละประเภทมีบทบาทต่อสุขภาพแตกต่าง
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 28 Sep 2015
คำถามนี้ขอแบ่งคำตอบออกเป็น 3 หัวข้อ ดังนี้
1. ยา Acnotin และผลของยาต่อระดับไขมันในเลือด
2. การใช้ยา Acnotin ร่วมกับน้ำมันปลา น้ำมันตับปลา และวิตามินซี
3. กินยานี้นานๆจะเป็น"หมัน"จริงรึเปล่า
ควรหยุดยาหากไม่สามารถควบคุมระดับไตรกลีเซอไรด์ได้หรือมีอาการของตับอ่อนอักเสบซึ่งสัมพันธ์กับการมีระดับไตรกลีเซอไรด์สูงกว่า 500 mg/dL สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง ได้แก่ ผู้ป่วยเบาหวาน ภาวะอ้วน การดื่มแอลกอฮอล์ และมีประวัติคนในครอบครัวเป็นไขมันในเลือดสูง
ยา isotretinoin ไม่ควรใช้ร่วมกับน้ำมันตับปลาเนื่องจากยาจะเสริมฤทธิ์กับวิตามินเอซึ่งมีอยู่มากในน้ำมันตับปลาทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดพิษจากวิตามินเอ
ไม่พบข้อห้ามในการรับประทานยา isotretinoin ร่วมกับน้ำมันปลาและวิตามินซี
การเป็นหมันนั้นพบว่ายังไม่มีข้อมูลที่คาดว่าจะเกี่ยวข้อง แต่เคยพบรายงานเกี่ยวกับปัญหาต่อการหลั่ง 2 ราย ทางด้านผลต่อตับมีโอกาสที่เอนไซม์สูงขึ้นได้ 15 % แต่การแสดงอาการพบน้อยอย่างไรก็ตามควรตรวจเอนไซม์ตับก่อนการทานยาและเป็นระยะๆทุก 2-4 สัปดาห์ หากสูงเกิน 3-5 เท่าของค่า upper limit อาจต้องหยุดยา หรือให้สังเกตอาการเช่นคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ตัวเหลือง ตาเหลือง เจ็บบริเวณท้องด้านขวาบน ก็อาจพอบอกได้ว่ามีอาการตับอักเสบ
http://drug.pharmacy.psu.ac.th/Question.asp?ID=14527&gid=7
http://drug.pharmacy.psu.ac.th/question.asp?id=3865&gid=7
1. ยา Acnotin และผลของยาต่อระดับไขมันในเลือด
2. การใช้ยา Acnotin ร่วมกับน้ำมันปลา น้ำมันตับปลา และวิตามินซี
3. กินยานี้นานๆจะเป็น"หมัน"จริงรึเปล่า
ควรหยุดยาหากไม่สามารถควบคุมระดับไตรกลีเซอไรด์ได้หรือมีอาการของตับอ่อนอักเสบซึ่งสัมพันธ์กับการมีระดับไตรกลีเซอไรด์สูงกว่า 500 mg/dL สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง ได้แก่ ผู้ป่วยเบาหวาน ภาวะอ้วน การดื่มแอลกอฮอล์ และมีประวัติคนในครอบครัวเป็นไขมันในเลือดสูง
ยา isotretinoin ไม่ควรใช้ร่วมกับน้ำมันตับปลาเนื่องจากยาจะเสริมฤทธิ์กับวิตามินเอซึ่งมีอยู่มากในน้ำมันตับปลาทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดพิษจากวิตามินเอ
ไม่พบข้อห้ามในการรับประทานยา isotretinoin ร่วมกับน้ำมันปลาและวิตามินซี
การเป็นหมันนั้นพบว่ายังไม่มีข้อมูลที่คาดว่าจะเกี่ยวข้อง แต่เคยพบรายงานเกี่ยวกับปัญหาต่อการหลั่ง 2 ราย ทางด้านผลต่อตับมีโอกาสที่เอนไซม์สูงขึ้นได้ 15 % แต่การแสดงอาการพบน้อยอย่างไรก็ตามควรตรวจเอนไซม์ตับก่อนการทานยาและเป็นระยะๆทุก 2-4 สัปดาห์ หากสูงเกิน 3-5 เท่าของค่า upper limit อาจต้องหยุดยา หรือให้สังเกตอาการเช่นคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ตัวเหลือง ตาเหลือง เจ็บบริเวณท้องด้านขวาบน ก็อาจพอบอกได้ว่ามีอาการตับอักเสบ
http://drug.pharmacy.psu.ac.th/Question.asp?ID=14527&gid=7
http://drug.pharmacy.psu.ac.th/question.asp?id=3865&gid=7
PSU Drug Information Center บริการข้อมูลยาและเภสัชภัณฑ์ แก่บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชน แหล่งชุมชนเภสัชกรผ่านเครือข่าย internet
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 24 Sep 2015
“ไขมันทรานส์” หรือ “เนยเทียม”
คนส่วนใหญ่มักจะไม่รู้ว่าเรากำลังกินไขมันทรานส์อยู่ เพราะมันแฝงอยู่ในอาหารที่เราบริโภคไม่รู้ตัวอย่างมาก เช่น กลุ่มไขมันอิ่มตัวในน้ำมันพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันรำข้าว ต่างมีความไม่อิ่มตัวอยู่จึงหืนง่ายเมื่อโดนออกซิเจนและอนุมูลอิสระเข้าทำปฏิกิริยาได้ง่าย จึงต้องมีการนำไปผ่านความร้อนแล้วเติมไฮโดรเจนเลียนแบบไขมันอิ่มตัวเพื่อจะได้ไม่ต้องทำปฏิกิริยากับออกซิเจนแล้วทำให้ไม่หืนทนทานได้นาน แต่กลับทำให้โครงสร้างทางเคมีเปลี่ยนไปโดยไฮโดรเจนสลับข้างกันในตำแหน่งที่ไม่อิ่มตัว บ้างก็กลายเป็นไขมันที่ไม่หืนแม้เวลาผ่านไปยาวนาน บ้างก็กลายเป็นไขมันหนืดๆกึ่งเหลวงกึ่งแข็งคล้ายๆเนยหรือชีส บ้างก็เป็นของแข็งในรูปของเนยขาว
ไขมันที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อเลียนแบบไขมันอิ่มตัวเหล่านี้ แฝงอยู่ในอาหารเพื่อถนอมอาหารให้มีอายุยืนยาวขึ้นจะได้ประหยัดต้นทุน ซึ่งอยู่ในอาหารที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ตัว เช่น ข้าวโพดคั่วสำหรับอบในตู้ไมโครเวฟ การทอดมันฝรั่งทอดที่ใช้ไขมันไม่อิ่มตัวในร้านอาหาร โดนัท คุกกี้ เนยถั่ว มาร์การีน ครีมเทียม เค้ก ขนมกรุปกรอบ ซาลาเปา ขนมปังบางชนิด แครกเกอร์ ขนมกรุบกรอบ เครื่องดื่มทรีอินวัน ฯลฯ ซึ่งสามารถหาได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อและซุปเปอร์มาร์เกตในห้างสรรพสินค้าในประเทศไทยทั่วไป
แต่ไขมันกลุ่มนี้ได้รับการยอมรับในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วว่าคือตัวการทำให้เกิดการเกิดโรคหลอดเลือดอย่างมหาศาลในรอบกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา
http://manager.co.th/AstvWeekend/ViewNews.aspx?NewsID=9580000071968
คนส่วนใหญ่มักจะไม่รู้ว่าเรากำลังกินไขมันทรานส์อยู่ เพราะมันแฝงอยู่ในอาหารที่เราบริโภคไม่รู้ตัวอย่างมาก เช่น กลุ่มไขมันอิ่มตัวในน้ำมันพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันรำข้าว ต่างมีความไม่อิ่มตัวอยู่จึงหืนง่ายเมื่อโดนออกซิเจนและอนุมูลอิสระเข้าทำปฏิกิริยาได้ง่าย จึงต้องมีการนำไปผ่านความร้อนแล้วเติมไฮโดรเจนเลียนแบบไขมันอิ่มตัวเพื่อจะได้ไม่ต้องทำปฏิกิริยากับออกซิเจนแล้วทำให้ไม่หืนทนทานได้นาน แต่กลับทำให้โครงสร้างทางเคมีเปลี่ยนไปโดยไฮโดรเจนสลับข้างกันในตำแหน่งที่ไม่อิ่มตัว บ้างก็กลายเป็นไขมันที่ไม่หืนแม้เวลาผ่านไปยาวนาน บ้างก็กลายเป็นไขมันหนืดๆกึ่งเหลวงกึ่งแข็งคล้ายๆเนยหรือชีส บ้างก็เป็นของแข็งในรูปของเนยขาว
ไขมันที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อเลียนแบบไขมันอิ่มตัวเหล่านี้ แฝงอยู่ในอาหารเพื่อถนอมอาหารให้มีอายุยืนยาวขึ้นจะได้ประหยัดต้นทุน ซึ่งอยู่ในอาหารที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ตัว เช่น ข้าวโพดคั่วสำหรับอบในตู้ไมโครเวฟ การทอดมันฝรั่งทอดที่ใช้ไขมันไม่อิ่มตัวในร้านอาหาร โดนัท คุกกี้ เนยถั่ว มาร์การีน ครีมเทียม เค้ก ขนมกรุปกรอบ ซาลาเปา ขนมปังบางชนิด แครกเกอร์ ขนมกรุบกรอบ เครื่องดื่มทรีอินวัน ฯลฯ ซึ่งสามารถหาได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อและซุปเปอร์มาร์เกตในห้างสรรพสินค้าในประเทศไทยทั่วไป
แต่ไขมันกลุ่มนี้ได้รับการยอมรับในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วว่าคือตัวการทำให้เกิดการเกิดโรคหลอดเลือดอย่างมหาศาลในรอบกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา
http://manager.co.th/AstvWeekend/ViewNews.aspx?NewsID=9580000071968
อีก 3 ปีข้างหน้า สหรัฐอเมริกาจะเลิกไขมันทรานส์แล้ว บอกแล้วไม่ฟัง คนไทยยังจะต้องตายเกลื่อนกันต่อไป !?
อีก 3 ปีข้างหน้า สหรัฐอเมริกาจะเลิกไขมันทรานส์แล้ว บอกแล้วไม่ฟัง คนไทยยังจะต้องตายเกลื่อนกันต่อไป !?
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 16 Sep 2015
สำหรับสมุนไพร แม้ว่าในปัจจุบันจะยังไม่มีสมุนไพรที่ช่วยรักษาต่อมลูกหมากโตให้หายขาดได้ แต่ก็มีสมุนไพรบางตัวที่ช่วยบรรเทาอาการของต่อมลูกหมากโตได้ โดยเฉพาะอาการของปัสสาวะขัด เช่น เถาวัลย์เปรียง ผักบุ้งจีน
หรือการรับประทานสารไลโคปีน มีงานวิจัยว่าช่วยลดค่า prostate specific antigen (PSA) ซึ่งเป็นค่าบ่งชี้สุขภาพของต่อมลูกหมาก ที่อาจเพิ่มขึ้นในคนที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก (บางคนที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ก็อาจไม่มีการเพิ่มขึ้นของค่า PSA) หรือในรายที่มีภาวะการอักเสบของต่อมลูกหมาก ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ก็อาจส่งผลในค่า PSA เพิ่มขึ้น โดยสารไลโคปีนจะพบมากในมะเขือเทศ ฟักข้าว และฝรั่ง
หรือการหมั่นทานสารอาหารบางอย่างเป็นประจำในมื้ออาหาร อาจจะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นต่อมลูกหมากโตได้ เช่น สังกะสี เป็นแร่ธาตุที่ช่วยสร้างฮอร์โมนเพศชาย พบได้ในเมล็ดฟักทอง อาหารทะเล เช่น หอยนางรม
เบต้าซิโตสเตอรอล มีสรรพคุณช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด และป้องกันต่อมลูกหมากโต พบมากในถั่วเหลือง จมูกข้าวสาลี น้ำมันข้าวโพด
วิตามินอี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีมากในรำละเอียด น้ำมันรำ ธัญพืช ถั่วเหลือง ถั่วแดง ผักกาดหอม เมล็ดทานตะวัน งา น้ำมันถั่วลิสง
http://abhaiherb.com/knowledge/thaiherb/6960
หรือการรับประทานสารไลโคปีน มีงานวิจัยว่าช่วยลดค่า prostate specific antigen (PSA) ซึ่งเป็นค่าบ่งชี้สุขภาพของต่อมลูกหมาก ที่อาจเพิ่มขึ้นในคนที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก (บางคนที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ก็อาจไม่มีการเพิ่มขึ้นของค่า PSA) หรือในรายที่มีภาวะการอักเสบของต่อมลูกหมาก ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ก็อาจส่งผลในค่า PSA เพิ่มขึ้น โดยสารไลโคปีนจะพบมากในมะเขือเทศ ฟักข้าว และฝรั่ง
หรือการหมั่นทานสารอาหารบางอย่างเป็นประจำในมื้ออาหาร อาจจะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นต่อมลูกหมากโตได้ เช่น สังกะสี เป็นแร่ธาตุที่ช่วยสร้างฮอร์โมนเพศชาย พบได้ในเมล็ดฟักทอง อาหารทะเล เช่น หอยนางรม
เบต้าซิโตสเตอรอล มีสรรพคุณช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด และป้องกันต่อมลูกหมากโต พบมากในถั่วเหลือง จมูกข้าวสาลี น้ำมันข้าวโพด
วิตามินอี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีมากในรำละเอียด น้ำมันรำ ธัญพืช ถั่วเหลือง ถั่วแดง ผักกาดหอม เมล็ดทานตะวัน งา น้ำมันถั่วลิสง
http://abhaiherb.com/knowledge/thaiherb/6960
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 16 Sep 2015
รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จึงทำการศึกษาและต่อยอดครีมพริกให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นลดการใช้จากวันละ 4 ครั้ง เหลือเพียงวันละ 1 ครั้ง และลดปัญหาอาการแสบร้อนผิวหนัง โดยได้ร่วมกับศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ(นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.)ในการพัฒนาตำรับครีมพริก เพื่อให้มีอนุภาคระดับนาโนเมตร คือ เป็นขนาดเล็กจนซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ดีกว่ารูปแบบเดิม และซึมเข้าอย่างช้าๆ ทำให้ประสิทธิภาพคงทน ยาวนานกว่าเดิม ซึ่งจะทำให้ลดจำนวนการทาจากวันละ 4 ครั้ง เหลือเพียงวันละ 1 ครั้งเท่านั้น
หมายเหตุ สำหรับคนภาคเหนือ มีผลิตภัณฑ์ที่ดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเมล็ดลำใย น้ำมันงาดำ ที่มีสาร ANTIOXIDANT ช่วยเรื่องปวดข้อ ปวดเข่า ปวดกล้ามเนื้อด้วยเช่นกัน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1442381315
หมายเหตุ สำหรับคนภาคเหนือ มีผลิตภัณฑ์ที่ดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเมล็ดลำใย น้ำมันงาดำ ที่มีสาร ANTIOXIDANT ช่วยเรื่องปวดข้อ ปวดเข่า ปวดกล้ามเนื้อด้วยเช่นกัน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1442381315
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 4 Sep 2015
สารเคอร์คูมินในขมิ้นชัน ใช้แก้โรคผิวหนัง ผื่นคัน สมานแผล แก้ท้องอืด งานวิจัยสมัยใหม่ยังแสดงให้เห็นว่าเคอร์คูมิน ในอนุภาคนาโน มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและต้านการอักเสบ มีประสิทธิภาพในการทำให้แผลไฟไหม้สมานตัว ช่วยในการสร้างคอลลาเจนและหลอดเลือดฝอยตรงบริเวณแผลได้ดีสุดอีกด้วย
เคอร์คูมินละลายน้ำได้น้อยมาก และสลายตัวในร่างกายได้เร็วมาก การนำเคอร์คูมินมาอยู่ในรูปอนุภาคนาโน ช่วยให้เคอร์คูมินถูกดูดซึมได้ดีขึ้น และไปถึงบริเวณที่ต้องการออกฤทธิ์ได้ดีขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้การใช้เคอร์คูมินในรูปอนุภาคนาโนยังไม่ได้ทำให้เกิดสีเหลืองตรงบริเวณที่ทาอีกด้วย
ปล.อ่านงานวิจัยนี้แล้วนึกถึงคนที่ใช้น้ำมันเหลืองมาทาแผลไฟไหม้ แล้วทำให้การสร้างเนื้อเยื่อดีขึ้น แผลสมานเร็ว ก็น่าจะด้วยเหตุผลเดียวกัน
http://health.haijai.com/3558/
เคอร์คูมินละลายน้ำได้น้อยมาก และสลายตัวในร่างกายได้เร็วมาก การนำเคอร์คูมินมาอยู่ในรูปอนุภาคนาโน ช่วยให้เคอร์คูมินถูกดูดซึมได้ดีขึ้น และไปถึงบริเวณที่ต้องการออกฤทธิ์ได้ดีขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้การใช้เคอร์คูมินในรูปอนุภาคนาโนยังไม่ได้ทำให้เกิดสีเหลืองตรงบริเวณที่ทาอีกด้วย
ปล.อ่านงานวิจัยนี้แล้วนึกถึงคนที่ใช้น้ำมันเหลืองมาทาแผลไฟไหม้ แล้วทำให้การสร้างเนื้อเยื่อดีขึ้น แผลสมานเร็ว ก็น่าจะด้วยเหตุผลเดียวกัน
http://health.haijai.com/3558/
เคอร์คูมิน ขมิ้นนาโน ทางเลือกใหม่ปราบเชื้อดื้อยาปัญหาเชื้อดื้อยานับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะจากการที่เชื้อมีการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ๆ เช่น เชื้อ Staphylococcus aureus ที่ดื้อต่อยา methicillin (MRSA) ซึ่งดื้อต่อยาปฏิชีวนะหลายตัว การค้นหายา
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 13 Aug 2015
คือ จริงๆ แล้ว ในโลกยุคปัจจุบัน มีกระเทียมออกมาในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น กระเทียมบริโภคสด กระเทียมดอง ผงกระเทียมบรรจุแคปซูล น้ำมันกระเทียม หรือแม้แต่กระเทียมสกัด เนื้อข่าวพูดเรื่องกระเทียมก็จริง แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นกระเทียมประเภทไหน ซึ่งน่าจะเป็นกระเทียมสด หรือ ผงกระเทียมบรรจุแคปซูล มากกว่าที่จะเป็นน้ำมันกระเทียม หรือกระเทียมสกัด ไม่น่าเชื่อว่าเป็นข่าวคลุมเคลือจากอภัยภูเบศร์ รุ่นพี่มหิดลทำมาดี รุ่นน้องรับช่วงต่อ ไม่น่าพลาด .... และที่สำคัญ อภัยภูเบศร์ไม่ได้ทำผลิตภัณฑ์จากกระเทียมออกจำหน่าย
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1439359393
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1439359393
เภสัชกรอภัยภูเบศรเตือนผู้สูงวัยเข้าใจผิดกิน′กระเทียม′เป็นยาอายุวัฒนะ ระวัง! ฤทธิ์ร้อนมีผลเสียเกิดลมมาก แนะกิน ′อบเชย′ช่วยย่อยอาหารได้ กระเทียมช่วยแก้ความดัน-ไขมันสูง เพียงวันละ 1 ช้อนชา ชี้ชนิดแคปซูลไร้ประโยชน์
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 7 Aug 2015
วิตามินซี และบี 15
วิตามินบีทุกชนิด ได้แก่ บี 1 บี 2 บี 3 บี 6 บี 12 และส่วนประกอบอย่างบี 5 ไอโอดิน (Biotin) โคลีน (Choline) อินอซิทอล (Inositol) กรดโฟลิก (Folic Acid) และพาบา (PABA)
วิตามินบี 3 หรือไนอะซิน (Niacin)
วิตามินบี 6 หรือเรียกอีกชื่อว่าไพริดอกซีน (Pyridoxine) ควรกินวิตามินบี 6 ควบคู่ไปกับบี 3 จะเกิดประโยชน์สูงสุดในการป้องกันโรคเบาหวาน
วิตามินอี
โครเมียมเพิ่มความทนทานต่อกลูโคสในร่างกาย
อัลฟาไลโปอิก(ALA) เพิ่มความไวต่ออินซูลินและช่วยป้องกันจากโรคแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน
น้ำมันดอกอีฟนิ่ง พริมโรส
โคเอนไซม์ คิวเทน
http://article.amino10.com/?p=644
http://health.kapook.com/view80886.html
www.kondoodee.com/มาดูอาหารรักษาเบาหวาน-ที่ผู้ป่วยควรรับประทาน/1120.html
megawecare.co.th/รายละเอียด/ข้อมูลการดูแลสุขภาพ/การดูแลสุขภาพ-กับปัญหา-โรคเบาหวาน/11
http://www.healthtoday.net/thailand/healthdesign/design_69.html
http://www.npc-se.co.th/read/m_read_detail.asp?cate_id=2&read_id=228
http://www.vibhavadi.com/health236.html
http://www.naturalmind.co.th/index.aspx?ContentID=ContentID-090720110719822
วิตามินบีทุกชนิด ได้แก่ บี 1 บี 2 บี 3 บี 6 บี 12 และส่วนประกอบอย่างบี 5 ไอโอดิน (Biotin) โคลีน (Choline) อินอซิทอล (Inositol) กรดโฟลิก (Folic Acid) และพาบา (PABA)
วิตามินบี 3 หรือไนอะซิน (Niacin)
วิตามินบี 6 หรือเรียกอีกชื่อว่าไพริดอกซีน (Pyridoxine) ควรกินวิตามินบี 6 ควบคู่ไปกับบี 3 จะเกิดประโยชน์สูงสุดในการป้องกันโรคเบาหวาน
วิตามินอี
โครเมียมเพิ่มความทนทานต่อกลูโคสในร่างกาย
อัลฟาไลโปอิก(ALA) เพิ่มความไวต่ออินซูลินและช่วยป้องกันจากโรคแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน
น้ำมันดอกอีฟนิ่ง พริมโรส
โคเอนไซม์ คิวเทน
http://article.amino10.com/?p=644
http://health.kapook.com/view80886.html
www.kondoodee.com/มาดูอาหารรักษาเบาหวาน-ที่ผู้ป่วยควรรับประทาน/1120.html
megawecare.co.th/รายละเอียด/ข้อมูลการดูแลสุขภาพ/การดูแลสุขภาพ-กับปัญหา-โรคเบาหวาน/11
http://www.healthtoday.net/thailand/healthdesign/design_69.html
http://www.npc-se.co.th/read/m_read_detail.asp?cate_id=2&read_id=228
http://www.vibhavadi.com/health236.html
http://www.naturalmind.co.th/index.aspx?ContentID=ContentID-090720110719822
โรคเบาหวาน พิชิตได้ด้วย วิตามิน จากอาหาร มาดู วิตามินเพื่อสุขภาพ ตัวไหนบ้างที่ช่วยป้องกัน โรคเบาหวาน
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 30 Jul 2015
แบล็คมอร์ส ลูทีน-วิส สารสกัดจากดอกดาวเรือง ประกอบด้วย ลูทีนและซีลีเนียมมีส่วนช่วยในกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องใช้สายตาในการทำงานหนักตลอดทั้งวัน หรือผู้ที่ต้องการบำรุงสายตาให้มีอายุการใช้งานที่ยืนยาว
ลูทีนเป็นสารอาหารธรรมชาติกลุ่มแคโรทีนอยด์ พบมากในตาบริเวณจุดรับภาพและจอประสาทตาทำหน้าที่ป้องกันรังสีจากแสงแดด ช่วยกรองแสงสีน้ำเงินที่จะทำลายดวงตาและช่วยปกป้องเซลล์ของจอประสาทตา โดยการลดอนุมูลอิสระที่ทำลายดวงตาร่างกายจำเป็นต้องได้รับลูทีนจากอาหาร โดยเฉพาะพืชผักสีเขียวเข้ม เช่นคะน้า ผักโขม ผักกาด ปวยเล้ง เป็นต้น พบว่าการรับประทานลูทีนทุกวัน ช่วยลดความเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ถึงร้อยละ 50
รายละเอียดเพิ่มเติม Blackmores Lutein Vis
ส่วนประกอบที่สำคัญ 1 แคปซูล ประกอบด้วย
ลูทีน 6 มก.
สารสกัดดอกดาวเรือง 80 มก.
ซีลีเนียม 26 มคก.
น้ำมันปลาทูน่า 101 มก.
กรดไอโคซาเพนทาอิโนอิก(อีพีเอ) 7.1 มก.
กรดโดโคซาเฮกซาอิโนอิก(ดีเอชเอ) 27.3 มก.
ลูทีนเป็นสารอาหารธรรมชาติกลุ่มแคโรทีนอยด์ พบมากในตาบริเวณจุดรับภาพและจอประสาทตาทำหน้าที่ป้องกันรังสีจากแสงแดด ช่วยกรองแสงสีน้ำเงินที่จะทำลายดวงตาและช่วยปกป้องเซลล์ของจอประสาทตา โดยการลดอนุมูลอิสระที่ทำลายดวงตาร่างกายจำเป็นต้องได้รับลูทีนจากอาหาร โดยเฉพาะพืชผักสีเขียวเข้ม เช่นคะน้า ผักโขม ผักกาด ปวยเล้ง เป็นต้น พบว่าการรับประทานลูทีนทุกวัน ช่วยลดความเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ถึงร้อยละ 50
รายละเอียดเพิ่มเติม Blackmores Lutein Vis
ส่วนประกอบที่สำคัญ 1 แคปซูล ประกอบด้วย
ลูทีน 6 มก.
สารสกัดดอกดาวเรือง 80 มก.
ซีลีเนียม 26 มคก.
น้ำมันปลาทูน่า 101 มก.
กรดไอโคซาเพนทาอิโนอิก(อีพีเอ) 7.1 มก.
กรดโดโคซาเฮกซาอิโนอิก(ดีเอชเอ) 27.3 มก.
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 28 Jul 2015
สิ่งที่ผู้ไข้ต้องปฏิบัติร่วมกับการทานยาคือการงดอาหารแสลงต่อโรค เช่นอาหารที่มีพิวรีนสูง
อันได้แก่
1.เครื่องในสัตว์ทุกชนิด
2.ปลาที่ไม่มีเกล็ด เช่น ปลาดุก ปลาไหล
3.เนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่ ห่าน เป็ด ร่วมถึงน้ำซุปด้วย
4. ยอดผักที่กำลังอยู่ในช่วงเจริญเติบโต ไม่ว่าจะเป็น ยอดกระถิน ยอดคะน้า ยอดผักกระเฉด ถั่วงอก ถั่วฝักยาว ชะอม หน่อไม้ สะตอ ดอกกะหล่ำ หน่อไม้ฝรั่ง
5.อาหารหมักดอง ยีสต์ ผงฟู ขนมจีนแป้งหมัก หอยดอง ผักดอง ปลาร้า
6.ไม่รับประทานอาหารมันมาก เช่น อาหารที่ทอดอมน้ำมันมาก เนื้อสัตว์ติดมัน เพราะไขมันทำให้ร่างกายขับยูริคได้น้อยลง
7. งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ เพราะแอลกอฮอล์ทำให้ยูริคสูงขึ้น
8. สำหรับเรื่องการออกกำลังกาย ขณะที่มีอาการไม่ควรออกกำลังกาย เพราะกล้ามเนื้อทำงานมาก ก็มีสารพิวรีนมากขึ้น และมีการสร้างสาร แลคเตท ทำให้การขับยูริกลดลง ในภาวะปกติที่ไม่มีอาการกำเริบ คือสามารถควบคุมอาการของโรคได้ ก็ออกกำลังกายได้อย่างสม่ำเสมอ ไม่หนักเกินไป เช่น การเดินเร็ว ว่ายน้ำ โยคะ เป็นต้น
9.ดื่มน้ำสะอาด มากๆ วันละ 3 ลิตร เพื่อช่วยการขับถ่ายยูริค
........................................................
โรคเก๊าท์
เกิดจากภาวะที่กรดยูริคในเลือดมีปริมาณสูงเกินไป เกินกว่าที่จะสามารถอยู่ในเลือดในรูปสารละลายได้ จึงมีการตกตะกอนสะสมอยู่ตามที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะในที่ที่มีอากาศเย็นกว่าบริเวณอื่น เช่น ตามข้อ ทำให้ข้ออักเสบ หรือ ตามศอก นิ้วติ่งหู ตาตุ่ม หลังเท้าทำให้เกิดปุ้มก้อนเกิดขึ้น
อาการของเก๊าท์ที่สำคัญคือ ข้ออักเสบ มักเกิดที่บริเวณนิ้วหัวแม่เท้า, ข้อเท้า เป็นต้น โดยข้อที่อักเสบ จะบวม แดง ร้อน และปวดมาก ชัดเจน (ถ้าข้อที่ปวด ไม่บวม แดง ร้อน หรือมีอาการไม่ชัดเจนให้สงสัยไว้ ก่อนว่าไม่ใช่เก๊าท์) โดยมากมักเป็นข้อเดียวและมีอาการอักเสบอยู่ประมาณ ๕-๗วัน อาการจะค่อย ๆ ทุเลาไปได้เอง จนหายสนิท ระหว่างที่ไม่มีอาการ จะไม่มีความผิดปกติใด ๆ ให้เห็น เมื่อข้ออักเสบขึ้นใหม่ จะมีอาการเช่นเดิมอีก อาการจะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเป็นมากขึ้น อาการข้ออักเสบจะเป็นมากขึ้นหลายข้อมากขึ้น เป็นนานและรุนแรงขึ้น รวมทั้งเกิดปุ่มก้อนของยูริค สะสมมากขึ้น ผู้ป่วยระยะนี้มักมีไตวายร่วมด้วย
ผู้ไข้มาหาหมอ เป็นชายวัยกลางคนรูปร่างค่อนข้างสูงใหญ่ เป็นโรคเก๊าต์มา 5- 6 ปี มีอาการปวดที่ข้อเท้าข้าง ได้รับการรักษากับแพทย์แผนปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง โดยทานยาลดกรดยูริคและยาลดไขมันในหลอดเลือด ตรวจระดับค่ายูริคแอซิคในเลือด อยู่ที่ 10.4mg./ml. ประวัติเพิ่มเติม บิดาเป็นโรคเก๊าท์ ไม่มีประวัติการผ่าตัด ความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีโรคประจำตัวอื่นๆ
หมอวางแผนการรักษาโดย
1. รุเสมหะ ตะกรันของเสียในข้อออก ด้วยยาที่มีฤทธิ์ในการถ่าย
2. รุปิตตะกำเดา ความร้อนที่อยู่ในข้อ ลดการอักเสบ ลดอาการปวด
3. รุวาตะ เพิ่มการไหลเวียนของวาตะและเสมหะในข้อ
หลังจากวางยารักษา 1 เดือนต่อมาผู้ไข้มีอาการดีขึ้น อาการปวดข้อลดลง และได้ตรวจค่ากรดยูริคแอซิคในเลือดพบว่ามีค่าลดลงเหลือ 9.5mg./ml.
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผู้ไข้ต้องปฏิบัติร่วมกับการทานยาคือการงดอาหารแสลงต่อโรค เช่นอาหารที่มีพิวรีนสูง
https://www.facebook.com/orientalmedicinecentre/photos/a.1405113756386379.1073741828.1405021809728907/1639344472963305/
อันได้แก่
1.เครื่องในสัตว์ทุกชนิด
2.ปลาที่ไม่มีเกล็ด เช่น ปลาดุก ปลาไหล
3.เนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่ ห่าน เป็ด ร่วมถึงน้ำซุปด้วย
4. ยอดผักที่กำลังอยู่ในช่วงเจริญเติบโต ไม่ว่าจะเป็น ยอดกระถิน ยอดคะน้า ยอดผักกระเฉด ถั่วงอก ถั่วฝักยาว ชะอม หน่อไม้ สะตอ ดอกกะหล่ำ หน่อไม้ฝรั่ง
5.อาหารหมักดอง ยีสต์ ผงฟู ขนมจีนแป้งหมัก หอยดอง ผักดอง ปลาร้า
6.ไม่รับประทานอาหารมันมาก เช่น อาหารที่ทอดอมน้ำมันมาก เนื้อสัตว์ติดมัน เพราะไขมันทำให้ร่างกายขับยูริคได้น้อยลง
7. งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ เพราะแอลกอฮอล์ทำให้ยูริคสูงขึ้น
8. สำหรับเรื่องการออกกำลังกาย ขณะที่มีอาการไม่ควรออกกำลังกาย เพราะกล้ามเนื้อทำงานมาก ก็มีสารพิวรีนมากขึ้น และมีการสร้างสาร แลคเตท ทำให้การขับยูริกลดลง ในภาวะปกติที่ไม่มีอาการกำเริบ คือสามารถควบคุมอาการของโรคได้ ก็ออกกำลังกายได้อย่างสม่ำเสมอ ไม่หนักเกินไป เช่น การเดินเร็ว ว่ายน้ำ โยคะ เป็นต้น
9.ดื่มน้ำสะอาด มากๆ วันละ 3 ลิตร เพื่อช่วยการขับถ่ายยูริค
........................................................
โรคเก๊าท์
เกิดจากภาวะที่กรดยูริคในเลือดมีปริมาณสูงเกินไป เกินกว่าที่จะสามารถอยู่ในเลือดในรูปสารละลายได้ จึงมีการตกตะกอนสะสมอยู่ตามที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะในที่ที่มีอากาศเย็นกว่าบริเวณอื่น เช่น ตามข้อ ทำให้ข้ออักเสบ หรือ ตามศอก นิ้วติ่งหู ตาตุ่ม หลังเท้าทำให้เกิดปุ้มก้อนเกิดขึ้น
อาการของเก๊าท์ที่สำคัญคือ ข้ออักเสบ มักเกิดที่บริเวณนิ้วหัวแม่เท้า, ข้อเท้า เป็นต้น โดยข้อที่อักเสบ จะบวม แดง ร้อน และปวดมาก ชัดเจน (ถ้าข้อที่ปวด ไม่บวม แดง ร้อน หรือมีอาการไม่ชัดเจนให้สงสัยไว้ ก่อนว่าไม่ใช่เก๊าท์) โดยมากมักเป็นข้อเดียวและมีอาการอักเสบอยู่ประมาณ ๕-๗วัน อาการจะค่อย ๆ ทุเลาไปได้เอง จนหายสนิท ระหว่างที่ไม่มีอาการ จะไม่มีความผิดปกติใด ๆ ให้เห็น เมื่อข้ออักเสบขึ้นใหม่ จะมีอาการเช่นเดิมอีก อาการจะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเป็นมากขึ้น อาการข้ออักเสบจะเป็นมากขึ้นหลายข้อมากขึ้น เป็นนานและรุนแรงขึ้น รวมทั้งเกิดปุ่มก้อนของยูริค สะสมมากขึ้น ผู้ป่วยระยะนี้มักมีไตวายร่วมด้วย
ผู้ไข้มาหาหมอ เป็นชายวัยกลางคนรูปร่างค่อนข้างสูงใหญ่ เป็นโรคเก๊าต์มา 5- 6 ปี มีอาการปวดที่ข้อเท้าข้าง ได้รับการรักษากับแพทย์แผนปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง โดยทานยาลดกรดยูริคและยาลดไขมันในหลอดเลือด ตรวจระดับค่ายูริคแอซิคในเลือด อยู่ที่ 10.4mg./ml. ประวัติเพิ่มเติม บิดาเป็นโรคเก๊าท์ ไม่มีประวัติการผ่าตัด ความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีโรคประจำตัวอื่นๆ
หมอวางแผนการรักษาโดย
1. รุเสมหะ ตะกรันของเสียในข้อออก ด้วยยาที่มีฤทธิ์ในการถ่าย
2. รุปิตตะกำเดา ความร้อนที่อยู่ในข้อ ลดการอักเสบ ลดอาการปวด
3. รุวาตะ เพิ่มการไหลเวียนของวาตะและเสมหะในข้อ
หลังจากวางยารักษา 1 เดือนต่อมาผู้ไข้มีอาการดีขึ้น อาการปวดข้อลดลง และได้ตรวจค่ากรดยูริคแอซิคในเลือดพบว่ามีค่าลดลงเหลือ 9.5mg./ml.
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผู้ไข้ต้องปฏิบัติร่วมกับการทานยาคือการงดอาหารแสลงต่อโรค เช่นอาหารที่มีพิวรีนสูง
https://www.facebook.com/orientalmedicinecentre/photos/a.1405113756386379.1073741828.1405021809728907/1639344472963305/
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 16 Jun 2015
มักนิยมใช้เนยเทียมหรือไขมันพืชที่เรียกว่าชอร์ตเทนนิ่ง เนื่องจากจะช่วยให้ขนมอบ เช่น คุกกี้ มีความแข็งแรง คงรูป มีความกรอบมากกว่า มีความเปราะน้อยกว่าการใช้เนย (Butter) และขนมอบไม่มีกลิ่นเนย (แท้) รุนแรง เป็นที่พอใจของคนไทยส่วนใหญ่ นอกจากนี้อาหารทอดต่างๆ เช่น ไก่ทอด มันฝรั่งทอด (French fries) ขนมขบเคี้ยวทอด/อบ ต่างๆ ที่มีลักษณะแห้งที่ผิวนอก ไม่เยิ้มน้ำมัน ไม่ติดมือ หากไม่ได้เตรียมโดยฝีมือการครัวรุ่นเก่า ก็มีแนวโน้มที่จะมีการใช้กลุ่มไขมันพืชในการประกอบอาหารด้วยเช่นกัน
พบว่าหากปริมาณกรดไขมันชนิดทรานส์ในอาหารสูงเพียงพอ จะสามารถเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL-cholesterol) และลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-cholesterol) ในเลือดได้
ดังนั้น การรับประทานอาหารที่มีกรดไขมันชนิดทรานส์ในปริมาณสูง จะมีผลเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
พบว่าหากปริมาณกรดไขมันชนิดทรานส์ในอาหารสูงเพียงพอ จะสามารถเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL-cholesterol) และลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-cholesterol) ในเลือดได้
ดังนั้น การรับประทานอาหารที่มีกรดไขมันชนิดทรานส์ในปริมาณสูง จะมีผลเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 10 Jun 2015
การรับประทานวิตามินจำพวกสังกะสี (Zinc: Z-bec) และโฟลิค บำรุง วันละ 1-2 เม็ด ก็มีส่วนช่วยทำให้การผลิตตัวอสุจิจากอัณฑะดีขึ้นได้
วิธีง่ายๆช่วยให้น้ำเชื้อแข็งแรง
รักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรควบคุมโรคให้สงบ
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอาหารที่มีธาตุสังกะสีและโฟลิคสูง
มีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ที่อาจรุนแรงถึงขั้นติดเชื้อปที่อัณฑะ หรือ ท่อลำเลียงน้ำเชื้อ ซึ่งอาจทำให้อัณณฑะเสื่อม หรือ ท่อลำเลียงน้ำเชื้ออดตันได้ครับ
มีเพศสัมพันธ์ไม่บ่อยจนเกินไป แนะนำว่าวันเว้นวัน หรือวันเว้นสองวัน กำลังดีครับ เพราะหากมีบ่อยเกินไปน้ำเชื้อจะเจือจาง ทำให้โอกาสตั้งครรภ์น้อยลงครับ
หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา
หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
หลีกเลี่ยงการใส่กางเกงชั้นในรัดๆ การแช่น้ำอุ่น เพราะอัณฑะชอบอากาศเย็นๆจึงจะผลิตน้ำเชื้อได้ดี ดังนั้นหากใส่ชุดชั้นในรัดๆ แช่น้ำอุ่น ชอบปั่นจักรยานซึ่งมีการเสียดสีอยู่บ่อยๆ อุณหภูมิบริเวณอัณฑะจึงสูงขึ้นกว่าปกติ มีผลต่อการสร้างตัวอสุจิได้ครับ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมอัณฑะของผู้ชาย ตามธรรมชาติถึงได้ต้องห้อยย้อยอยู่นอกร่างกาย เพราะอุณหภูมิร่างกายจะร้อนกว่าที่อัณฑะยังไงหล่ะครับ
กีฬาที่ต้องกระทบกระแทก หรือมีการเสียดสีบริเวณอัณฑะบ่อยๆ ก็มีส่วนทำให้การสร้างน้ำเชื้อผิดปกติได้นะครับ เช่น ฟุตบอล ชกมวย ปั่นจักรยาน รักบี้ เล่นได้แต่ก็ระวังตัวด้วยนะครับ
อาหารที่มีสังกะสีสูง ได้แก่
หอยนางรม
เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัวไม่ติดมัน เนื้อไก่ เนื้อแกะ
ผงโกโก้และช็อคโกแลต ไม่ว่าชงโกโก้ดื่มเอง เช่น ไมโล โอวัลติน หรือปรุงแต่งในขนมเบเกอรี่ นมรสช็อคโกแลต หรือช็อคโกแลตแท่งก็ได้
นม และ ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ต เนย ชีสต์
ไข่
จมูกข้าว ซึ่งข้าวกล้องมีจมูกข้าว และ รำข้าว ซึ่งมีสังกะสีสูงกว่าข้าวขาวมาก
ตับสัตว์ และน้ำมันจากตับ เช่น น้ำมันตับปลา
ถั่วต่างๆ โดยเฉพาะถั่วลิสง หรือ ผลไม้เปลือกแข็งกระเทาะเปลือก เช่น อัลมอนด์ วอลนัท
งา หรือ น้ำมันงา
เมล็ดฟักทอง เมล็ดแตงโม เมล็ดทานตะวัน
อาหารที่มีโฟลิคสูง ได้แก่
ผักและผลไม้ที่มีสีเขียวและเหลือง เช่น ผักโขม บร็อคโคลี คะน้า หน่อไม้ฝรั่ง มันฝรั่ง กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี ผักกาดหอม ผักโขม กระเจี๊ยบเขียว ผักกาดเขียว ผักกาดแก้ว ถั่วลันเตา มะเขือเทศ แครอท ข้าวโพด ส้ม กล้วย แคนตาลูป อะโวคาโด้ สับปะรด มะละกอสุก
ผลิตภัณฑ์จากถั่วต่าง ๆ ปลา นมสด โยเกิร์ต ไข่แดง ตับสัตว์ และธัญพืชที่ไม่ขัดสี ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต เป็นต้น
http://drchawtoo.com/2015/06/10/drchawtoostory-3/
วิธีง่ายๆช่วยให้น้ำเชื้อแข็งแรง
รักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรควบคุมโรคให้สงบ
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอาหารที่มีธาตุสังกะสีและโฟลิคสูง
มีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ที่อาจรุนแรงถึงขั้นติดเชื้อปที่อัณฑะ หรือ ท่อลำเลียงน้ำเชื้อ ซึ่งอาจทำให้อัณณฑะเสื่อม หรือ ท่อลำเลียงน้ำเชื้ออดตันได้ครับ
มีเพศสัมพันธ์ไม่บ่อยจนเกินไป แนะนำว่าวันเว้นวัน หรือวันเว้นสองวัน กำลังดีครับ เพราะหากมีบ่อยเกินไปน้ำเชื้อจะเจือจาง ทำให้โอกาสตั้งครรภ์น้อยลงครับ
หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา
หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
หลีกเลี่ยงการใส่กางเกงชั้นในรัดๆ การแช่น้ำอุ่น เพราะอัณฑะชอบอากาศเย็นๆจึงจะผลิตน้ำเชื้อได้ดี ดังนั้นหากใส่ชุดชั้นในรัดๆ แช่น้ำอุ่น ชอบปั่นจักรยานซึ่งมีการเสียดสีอยู่บ่อยๆ อุณหภูมิบริเวณอัณฑะจึงสูงขึ้นกว่าปกติ มีผลต่อการสร้างตัวอสุจิได้ครับ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมอัณฑะของผู้ชาย ตามธรรมชาติถึงได้ต้องห้อยย้อยอยู่นอกร่างกาย เพราะอุณหภูมิร่างกายจะร้อนกว่าที่อัณฑะยังไงหล่ะครับ
กีฬาที่ต้องกระทบกระแทก หรือมีการเสียดสีบริเวณอัณฑะบ่อยๆ ก็มีส่วนทำให้การสร้างน้ำเชื้อผิดปกติได้นะครับ เช่น ฟุตบอล ชกมวย ปั่นจักรยาน รักบี้ เล่นได้แต่ก็ระวังตัวด้วยนะครับ
อาหารที่มีสังกะสีสูง ได้แก่
หอยนางรม
เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัวไม่ติดมัน เนื้อไก่ เนื้อแกะ
ผงโกโก้และช็อคโกแลต ไม่ว่าชงโกโก้ดื่มเอง เช่น ไมโล โอวัลติน หรือปรุงแต่งในขนมเบเกอรี่ นมรสช็อคโกแลต หรือช็อคโกแลตแท่งก็ได้
นม และ ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ต เนย ชีสต์
ไข่
จมูกข้าว ซึ่งข้าวกล้องมีจมูกข้าว และ รำข้าว ซึ่งมีสังกะสีสูงกว่าข้าวขาวมาก
ตับสัตว์ และน้ำมันจากตับ เช่น น้ำมันตับปลา
ถั่วต่างๆ โดยเฉพาะถั่วลิสง หรือ ผลไม้เปลือกแข็งกระเทาะเปลือก เช่น อัลมอนด์ วอลนัท
งา หรือ น้ำมันงา
เมล็ดฟักทอง เมล็ดแตงโม เมล็ดทานตะวัน
อาหารที่มีโฟลิคสูง ได้แก่
ผักและผลไม้ที่มีสีเขียวและเหลือง เช่น ผักโขม บร็อคโคลี คะน้า หน่อไม้ฝรั่ง มันฝรั่ง กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี ผักกาดหอม ผักโขม กระเจี๊ยบเขียว ผักกาดเขียว ผักกาดแก้ว ถั่วลันเตา มะเขือเทศ แครอท ข้าวโพด ส้ม กล้วย แคนตาลูป อะโวคาโด้ สับปะรด มะละกอสุก
ผลิตภัณฑ์จากถั่วต่าง ๆ ปลา นมสด โยเกิร์ต ไข่แดง ตับสัตว์ และธัญพืชที่ไม่ขัดสี ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต เป็นต้น
http://drchawtoo.com/2015/06/10/drchawtoostory-3/
1
Add a comment...
Better Pharmacy Chiang Mai
Shared publicly - 17 Apr 2015
ยา Rowatinex คือยาอะไร
Rowatinex บรรจุในแคปซูลใสสีเหลือง กลม จัดเป็นยาในกลุ่มอื่น ๆ ที่ออกฤทธิ์ต่อระบบทางเดินปัสสาวะและระบบอวัยวะสืบพันธุ์ ที่มีส่วนประกอบดังต่อไปนี้
-Pinene 31 มิลลิกรัม (สารเคมีที่พบในพืชประเภทต้นไพน์ (คล้ายต้นคริสต์มาส) ในทางอุตสาหกรรมมักใช้สำหรับทำเป็นสารแต่งกลิ่น เป็นส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหย)
-Camphene 15 มิลลิกรัม (จัดอยู่ในประเภทน้ำมันหอมระเหย) ใช้สำหรับสารแต่งกลิ่นและรส
-Cineol 3 มิลลิกรัม (เป็นสารกลุ่มน้ำมันยูคาลิปตัส) ทางการแพทย์นอกจากแต่งกลิ่นรสแล้วยังช่วยลดการอักเสบ ลดปวด ลดสารคัดหลั่งบริเวณเยื่อเมือก
-Fenchone 4 มิลลิกรัม (เป็นส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหย)
-Borneol 10 มิลลิกรัม (เป็นส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหย)
-Anethol 4 มิลลิกรัม (เป็นส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหย)
-และ olive oil (น้ำมันมะกอก) 33 มิลลิกรัม
จะเห็นว่ายา Rowatinex นั้นมีส่วนประกอบส่วนใหญ่เป็นน้ำมันหอมระเหย น้ำมันหอมระเหยเป็นสารอินทรีย์ที่พืชสร้างขึ้น มักมีกลิ่นหอม ระเหยง่าย โดยพืชเหล่านี้จะมีเซลล์พิเศษ ต่อมหรือท่อ เพื่อสร้างและกักเก็บน้ำมันหอมระเหย ซึ่งจะเห็นต่อมน้ำมันได้ชัดในส่วนของใบและเปลือกผลของพืชจำพวกส้ม น้ำมันหอมระเหยพบได้ตามส่วนต่างๆของพืชได้แก่ราก ลำต้น ใบ ดอก ผล เมล็ด และพบข้อมูลของการนำน้ำมันหอมระเหยในการสลายก้อนนิ่วในไต
(ในหญ้าหนวดแมวซึ่งเป็นหนึ่งในสมุนไพรในบัญชียา ก็มีส่วนประกอบที่เป็นน้ำมันหอมระเหยด้วย มีประโยชน์ในการขับปัสสาวะและขับนิ่ว [โดยการเพิ่มความเป็นด่างในปัสสาวะ จึงน่าจะช่วยลดการเกิดนิ่วจากกรดยูริกได้])
ยา Rowatinex มีข้อบ่งชี้สำหรับลดการหดเกร็งของท่อทางเดินปัสสาวะ และการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับภาวะ การเกิดนิ่วในทางเดินปัสสาวะ นอกจากนี้ยังมีผลช่วยละลายและขับก้อนนิ่วในไต ป้องกันการต่อตัวใหม่ของก้อนนิ่ว เป็นต้น
ขนาดยาปกติ คือ 1-2 แคปซูล วันละ 3 ครั้ง ควรรับประทานก่อนอาหารเท่านั้น และเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดี ควรดื่มน้ำมาก ๆ เช่น 4.5 ลิตรต่อวัน
ยา Rowatinex คือยาอะไร
http://www.pharmyaring.com/qareply.php?id=392
http://www.drugs.com/uk/rowatinex-capsules-leaflet.html
Rowatinex for the treatment of ureterolithiasis.
http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/1431192
Effect of Rowatinex on calculus clearance after extracorporeal shock wave lithotripsy.
http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/19241334
Rowatinex บรรจุในแคปซูลใสสีเหลือง กลม จัดเป็นยาในกลุ่มอื่น ๆ ที่ออกฤทธิ์ต่อระบบทางเดินปัสสาวะและระบบอวัยวะสืบพันธุ์ ที่มีส่วนประกอบดังต่อไปนี้
-Pinene 31 มิลลิกรัม (สารเคมีที่พบในพืชประเภทต้นไพน์ (คล้ายต้นคริสต์มาส) ในทางอุตสาหกรรมมักใช้สำหรับทำเป็นสารแต่งกลิ่น เป็นส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหย)
-Camphene 15 มิลลิกรัม (จัดอยู่ในประเภทน้ำมันหอมระเหย) ใช้สำหรับสารแต่งกลิ่นและรส
-Cineol 3 มิลลิกรัม (เป็นสารกลุ่มน้ำมันยูคาลิปตัส) ทางการแพทย์นอกจากแต่งกลิ่นรสแล้วยังช่วยลดการอักเสบ ลดปวด ลดสารคัดหลั่งบริเวณเยื่อเมือก
-Fenchone 4 มิลลิกรัม (เป็นส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหย)
-Borneol 10 มิลลิกรัม (เป็นส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหย)
-Anethol 4 มิลลิกรัม (เป็นส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหย)
-และ olive oil (น้ำมันมะกอก) 33 มิลลิกรัม
จะเห็นว่ายา Rowatinex นั้นมีส่วนประกอบส่วนใหญ่เป็นน้ำมันหอมระเหย น้ำมันหอมระเหยเป็นสารอินทรีย์ที่พืชสร้างขึ้น มักมีกลิ่นหอม ระเหยง่าย โดยพืชเหล่านี้จะมีเซลล์พิเศษ ต่อมหรือท่อ เพื่อสร้างและกักเก็บน้ำมันหอมระเหย ซึ่งจะเห็นต่อมน้ำมันได้ชัดในส่วนของใบและเปลือกผลของพืชจำพวกส้ม น้ำมันหอมระเหยพบได้ตามส่วนต่างๆของพืชได้แก่ราก ลำต้น ใบ ดอก ผล เมล็ด และพบข้อมูลของการนำน้ำมันหอมระเหยในการสลายก้อนนิ่วในไต
(ในหญ้าหนวดแมวซึ่งเป็นหนึ่งในสมุนไพรในบัญชียา ก็มีส่วนประกอบที่เป็นน้ำมันหอมระเหยด้วย มีประโยชน์ในการขับปัสสาวะและขับนิ่ว [โดยการเพิ่มความเป็นด่างในปัสสาวะ จึงน่าจะช่วยลดการเกิดนิ่วจากกรดยูริกได้])
ยา Rowatinex มีข้อบ่งชี้สำหรับลดการหดเกร็งของท่อทางเดินปัสสาวะ และการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับภาวะ การเกิดนิ่วในทางเดินปัสสาวะ นอกจากนี้ยังมีผลช่วยละลายและขับก้อนนิ่วในไต ป้องกันการต่อตัวใหม่ของก้อนนิ่ว เป็นต้น
ขนาดยาปกติ คือ 1-2 แคปซูล วันละ 3 ครั้ง ควรรับประทานก่อนอาหารเท่านั้น และเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดี ควรดื่มน้ำมาก ๆ เช่น 4.5 ลิตรต่อวัน
ยา Rowatinex คือยาอะไร
http://www.pharmyaring.com/qareply.php?id=392
http://www.drugs.com/uk/rowatinex-capsules-leaflet.html
Rowatinex for the treatment of ureterolithiasis.
http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/1431192
Effect of Rowatinex on calculus clearance after extracorporeal shock wave lithotripsy.
http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/19241334
1
Add a comment...
No comments:
Post a Comment